เมื่อช่วงเช้าวันพฤหัสบดีที่ 30 กันยายน ที่ผ่านมา ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ผู้นำการปฏิวัติอิสลาม ได้พบปะกับผู้บัญชาการและเจ้าหน้าที่ทหารของสาธารณรัฐอิสลามอิหร่าน โดยท่านผู้นำสูงสุดถือว่า สาเหตุของการเป็นปรปักษ์กับการปฏิวัติอิสลาม เนื่องจากการยืนหยัดของประชาชาติอิหร่าน ความชัดเจนและการไม่ยอมสิโรราบ อ่อนข้อและจำนนต่อนโยบายของมหาอำนาจผู้อหังการ พร้อมกับกล่าวว่า กองกำลังติดอาวุธจำต้องเร่งในการพัฒนาความเจริญก้าวหน้าและเตรียมความพร้อมของตนอยู่เสมอให้กลายเป็นผู้ที่มีอำนาจแข็งแกร่ง จนบรรดาศัตรูไม่กล้าคิดที่จะทำการรุกรานเรา
ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ถือว่า การวางแผนสำหรับ "พรุ่งนี้ที่ดีกว่าและมีความเจริญรุ่งเรืองมากขึ้นของอิสลามอิหร่าน" นั้น เป็นสิ่งจำเป็นในทุกภาคส่วน พร้อมกับกล่าวเสริมว่า อนาคตของชาติอยู่ในมือของบรรดาเยาวชน ซึ่งควรที่จะเห็นค่าในสิ่งนี้ เพื่ออิหร่านในพรุ่งนี้จะสามารถมีศักยภาพ ความสามารถและความแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น และแสดงออกด้วยถ้อยคำภาษาที่ชัดเจนในการปรากฏตัวในภูมิภาคและเวทีระดับโลก อีกทั้งจำต้องฝึกฝนอบรมให้บรรดาเยาวชนรุ่นต่อไปมีความพร้อม มีความเด็ดเดี่ยว มีความรู้และมีความกล้าหาญมากยิ่งขึ้น
ท่านผู้นำสูงสุดได้ชี้ถึง ความล้าหลังที่เรื้อรังและองค์ประกอบทางประวัติศาสตร์ของประเทศที่เกิดจากอิทธิพลของการปกครองของกลุ่มบุคคลจำเฉพาะโดยเฉพาะช่วงสมัยของชาห์ปาห์ลาวี พร้อมกับกล่าวเสริมว่า การพัฒนาในวันนี้ของกองกำลังทหารในภาคส่วนต่างๆนั้นเป็นสิ่งที่มีค่า แต่เนื่องจากความล้าหลัง ควรที่จะเพิ่มการขับเคลื่อนให้เร็วขึ้น เพื่อกลายเป็นผู้มีอำนาจที่แข็งแกร่ง แม้แต่บรรดาศัตรูไม่มีความกล้าพอที่จะนึกคิดในใจในการรุกรานเขตชายแดนของประเทศ
ท่านผู้นำสูงสุด ถือว่า การต้านทานและการยืนหยัดของประชาชาติอิหร่านในช่วงแปดปีของการพิทักษ์สงครามอันศักดิ์สิทธ์ นั้น เป็นประสบการณ์ที่สำคัญและสำแดงมาแล้วอันเป็นที่ประจักษ์ชัดต่อประชาคมโลก พร้อมกับกล่าวเสริมว่า สาธารณรัฐอิสลามเป็นระบอบที่เป็นอิสระ และนับจากการเริ่มต้นของการปฏิวัติ ก็ยังคงดำเนินการติดตามนโยบายดังกล่าวอย่างเปิดเผยเรื่อยมา ไม่มีความหวาดกลัวต่อมหาอำนาจทั้งหลาย และไม่หวั่นเกรงในการต่อต้านนโยบายของพวกเขาอีกด้วย
ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลามได้ชี้ถึง การเป็นปรปักษ์อย่างจริงจังและหนักหน่วงในการเผชิญหน้ากับการเคลื่อนไหวที่เป็นอิสระและสร้างความน่าอัศจรรย์ของประชาชาติอิหร่าน ว่า ศัตรูมีความพยายามที่จะให้ระบอบอิสลามยอมจำนน และการอ่อนข้อในการเผชิญหน้ากับพวกเขานั้น ก็มิได้ทำให้ความเป็นศัตรูกับพวกเขาหายไป
ท่านผู้นำสูงสุด กล่าวว่า วิวัฒนาการของประเทศอิสระที่ปฏิเสธคัดค้านบรรดาอันธพาลและข้าสมุนของพวกเขา สำหรับระบอบล่าอานานิคมนั้นเป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้ ด้วยเหตุนี้จึงประกาศความเป็นศัตรูกับประชาชาตินี้ และการจินตนาการว่า “หากคนนี้ไม่ได้พูดอะไร หรือคนนั้นไม่ได้ดำเนินการอะไร และการอ่อนข้อต่อศัตรูแล้ว จะทำให้ศัตรูยอมอ่อนข้อลง ซึ่งสิ่งนี้คือการจินตนาการที่ผิด
ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลาม ถือว่า การตอบรับของบรรดาชาติต่างๆ และบางประเทศที่ไม่ได้ขึ้นอยู่กับพวกเขา ที่ได้ขานรับการเคลื่อนไหวที่เป็นเอกเทศของอิหร่าน โดยกล่าวเสริมว่า บรรดาชาติต่างๆ พากันตกตะลึงและชื่นชมหลังจากที่ได้ประจักษ์เห็นความก้าวหน้าและการปกป้องประเทศอย่างชัดเจนในผลประโยชน์ของตนเองในการเผชิญหน้ากับมหาอำนาจ เช่นเดียวกันนั้นในการเดินทางไปยังต่างประเทศของเจ้าหน้าที่สาธารณรัฐอิสลามอิหร่าน ทุกที่ที่รัฐบาลอนุญาตให้ประชาชนแสดงความพอใจออกมานั้น ในการสนับสนุนอิหร่านและมีการจุดยืนที่ชัดเจนสามารถสร้างความฮือฮาและความเร่าร้อนออกมาได้ทุกครั้ง
ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลามยังได้ชี้ถึง ความสำคัญของการวิจัยและความก้าวหน้าในการวิจัยกองกำลังติดอาวุธ พร้อมกับย้ำว่า จงสร้างศักยภาพที่ดีในมหาวิทยาลัยและศูนย์การวิจัยในประเทศ ควรเสริมสร้างการสื่อสารด้านวิทยาสตร์ของกองกำลังติดอาวุธกับพวกเขาด้วย
ท่านผู้นำสูงสุด ได้ชี้ถึงความสำคัญของการเข้าสู่แวดวงการทหารที่ยังไม่เป็นที่รู้จัก การสร้าง นวัตกรรมใหม่ โดยเฉพาะในการฝึกซ้อมรบ ว่า แผนในการฝึกซ้อมรบทางทหารนั้นควรให้ใกล้กับสภาวะสงครามและใกล้กับข้อเท็จจริงในภาคสนามให้มากที่สุด และจะต้องมีการคาดการณ์และเตรียมความพร้อมอยู่เสมอในอาวุธยุทโธปกรณ์และและขีดความสามารถของศัตรู
ช่วงแรกก่อนการปราศรัยของท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลาม พลเรือเอก สัยยารีย์ ผู้บัญชาการทหารเรือของสาธารณรัฐอิสลามอิหร่าน ได้กล่าวรายงานเกี่ยวกับ ภารกิจ การปฏิบัติ และกิจกรรมของกองทัพเรือในด้านการผลิตอาวุธยุทโธปกรณ์ ข้อมูล การดำเนินงาน การพัฒนาวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีสารสนเทศ การรักษาความปลอดภัยเส้นทางขนส่งและการพัฒนาประเทศทางทะเล