สำนักผู้นำสูงสุดซัยยิด อาลี คาเมเนอี

สาส์นฮัจญ์ ฮ.ศ. 1436

ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลาม ส่ง สาส์นฮัจญ์ ฮ.ศ. 1436 ยังบรรดาผู้แสวงบุญ ณ มหานครมักกะฮ์

ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ผู้นำการปฏิวัติอิสลาม  ได้ส่งสาส์นฮัจญ์ ยังบรรดาผู้แสวงบุญ ณ มหานครมักกะฮ์  โดยท่านถือว่า  นโยบายอันชั่วร้ายและสกปรกของมหาอำนาจในการก่อให้เกิดปัญหาใหญ่สำหรับประชาชาติอิสลามในภูมิภาค  และการก่ออาชญากรรมของระบอบการปกครองเถื่อนไซออนิสต์  และการดูหมิ่นอย่างไม่หยุดหย่อนต่อความศักดิ์สิทธิของมัสยิด อัลอักซอ นั้นเป็นประเด็นแรก ที่สำคัญของประชาชาติอิสลามในวันนี้  พร้อมกับเรียกร้องให้บรรดาอุลามาอ์ ปัญญาชนของโลกอิสลามทำหน้าที่ในภารกิจนี้ของตน ในการเผชิญหน้ากับเหตุการณ์ต่างๆเหล่านี้   และได้ตอกย้ำว่า การชุมนุมครั้งยิ่งใหญ่ในพิธีฮัจญ์  คือสถานะภาพแห่งการปรากฏตัว และการแลกเปลี่ยนภารกิจที่สำคัญครั้งประวัติศาสตร์ที่โดดเด่น และยอดเยี่ยมที่สุด  และ “โอกาสแห่งการประกาศบารออัต”นั้น จำต้องรู้ถึงคุณค่าแห่งการเข้าร่วมของบรรดาผู้แสวงบุญจากทั่วทุกสารทิศ  เนื่องจากสิ่งนี้คือสัญลักษณ์ที่เด่นชัดที่สุดของพิธีกรรมทางการเมืองในบทบัญญัติทางศาสนาที่ครอบคลุมทุกด้าน 


     ท่านผู้นำสูงสุด ได้ชี้ถึง อุบัติเหตุอันข่มขืน ที่ทำให้กับบรรดาผู้แสวงบุญในมัสยิด อัลฮะรอม เสียชีวิต และภาระหน้าที่อันยิ่งใหญ่ ในการรักษาความปลอดภัยให้กับแขกของพระผู้เป็นเจ้า พร้อมกับเน้นย้ำว่า การปฏิบัติตามพันธะสัญญาอันนี้และการตอบสนองต่อความรับผิดชอบดังกล่าวคือความปรารถนาสูงสุดของเรา

 

    เนื้อความของสาส์นฉบับนี้ ถูกอัญเชิญอ่านโดย ฮุจญะตุลอิสลาม วัลมุสลีมีน กอฎี อัสฆ็อร ตัวแทนของท่านวะลียุลฟะกีฮ์และอะมีรุลฮัจญ์ของผู้แสวงบุญชาวอิหร่าน ในเช้าวันพุธที่  23  กันยายน 2015 ในพิธีประกาศความเป็นปฏิปักษ์ต่อบรรดาผู้ตั้งภาคี (อัลบะรออะฮ์ มินัลมุชริกีน) ณ. ท้องทุ่งอารอฟะฮ์ ซึ่งมีเนื้อหาดังต่อไปนี้


بسماللهالرّحمنالرّحیم

و الحمد لله ربّ العالمین، و الصّلاة و السّلام علی سیّد الخلق اجمعین محمّد و آله الطّاهرین و صحبه المنتجبین وعلی التّابعین لهم باحسان الی یوم الدّین


สลามยังวิหาร์แห่งกะอ์บะฮ์อันสิริมงคล  ฐานมั่นแห่งเตาฮีด(หลักความเป็นเอกกะของพระองค์)  สลามยังศูนย์กลางของมวลผู้ศรัทธา สถานที่ลงมาของเทวทูต(มวลมะลาอิกะฮ์)   สลามยังมัสยิด อัลฮะรอม  ทุ่งอารอฟะฮ์  มัชอารและทุ่งมินา   สลามยังหัวใจที่นอบน้อม  ริมฝีปากที่เปล่งวาจาคำพูดแห่งการรำลึก(ซิกร์)  ดวงตาที่เปิดรับแห่งการรู้แจ้ง (บาศีรัต)  และโลกทัศน์อันนำมาซึ่งอุทาหรณ์    สลามแด่พวกท่านเหล่าผู้แสวงบุญทั้งหลายที่มีความรุ่งโรจน์และผาสุก ที่ได้รับความโปรดปราน(เตาฟีก)ในการตอบรับและขานรับการเรียกร้องของพระผู้เป็นเจ้า   และร่วมในสำรับอาหารที่เปี่ยมล้มด้วยเนี้ยะมัต และความโปรดปราน  

พันธะกิจแรก คือ   การคิดไตร่ตรอง และพินิจพิเคราะห์ในการตอบรับการเรียกร้องในระดับสากล ประวัติศาสตร์และอมตะ  

اِنَّ الحَمدَ وَ النِّعمَةَ لَکَ وَ المُلکَ  لا شَریکَ لَکَ لَبَّیک    แท้จริงทุกการสรรเสริญและการขอบคุณเป็นกรรมสิทธิ์ของพระองค์  ทุกเนี้ยะมัตและความโปรดปรานล้วนมาจากพระองค์ และพลังอำนาจทั้งหมดเป็นกรรมสิทธิ์ของพระองค์เพียงองค์เดียว   แหละนี่คือโลกทัศน์ ของการประกอบพิธีฮัจญ์ในการก้าวสู่จุดแรกแห่งบทบัญญัติข้อบังคับทางศาสนาที่เปี่ยมไปด้วยสารัตถะ ฮิกมัต และวิทยปัญญา  และสานต่อพิธีกรรมนี้ด้วยการรังสรรค์ความสัมพันธ์ที่สอดคล้องกับรูปแบบของพิธีกรรมดังกล่าว   จากนั้นกำหนดและเรียกร้องบรรดาผู้แสวงบุญ อาทิเช่น  หลักคำสอนที่เป็นอมตะและบทเรียนที่ไม่มีวันลืมเลือน และวางระเบียบแบบแผนแห่งวิถีชีวิตที่วางอยู่บนพื้นฐานของสิ่งดังกล่าว เพื่อเรียนรู้บทเรียนอันยิ่งใหญ่และการปฏิบัติตามสิ่งเหล่านี้ที่เป็นตาน้ำแห่งความจำเริญ   ที่จะทำให้วิถีชีวิตของมวลมุสลิม มีแต่ความสดใสชีวิตชีวาและการเปลี่ยนแปลง  อีกทั้งทำให้พวกเขาหลุดพ้นจากพันธนาการ (ทั้งในยุคสมัยปัจจุบันและอนาคต)  แห่งเจว็ดแห่งอัตตา  ความหยิ่งยโสโอหัง และอารมณ์ตัณหา  เจว็ดแห่งนักล่าอานานิคมและครอบงำ  เจว็ดแห่งมหาอำนาจผู้อหังการ  เจว็ดแห่งความเกียจคร้านและไร้ความรับผิดชอบ  และบรรดาเจว็ดที่มีความอัปยศอดสูทุกตัวที่คร่าชีวิตผู้บริสุทธิ์ของมวลมุสลิมที่กำลังเผชิญอยู่   และด้วยเสียงคำรามแห่งอิบรอฮีม  (ที่เกิดจากเบื้องลึกของหัวใจและตามแบบแผนแห่งการดำเนินชีวิต) จะสามารถโค่นและทำลายล้างเจว็ดต่างๆเหล่านี้   อิสรภาพ เสรีภาพ เกียรติยศ ศักดิ์ศรี และความสงบสุขร่มเย็น ก็จะมาแทนที่การพึ่งพา  ความยากลำบากและความทุกข์ทรมาน  


โอ้บรรดาสุภาพบุรุษและสุภาพสตรีผู้แสวงบุญทั้งหลาย ที่หลั่งไหลมาจากทุกชนชาติและทุกประเทศ จงไตร่ตรองและพินิจพิเคราะห์ถึงถ้อยคำแห่งวิทยปัญญาของพระผู้เป็นเจ้า  และมีโลกทัศน์ที่ลุ่มลึกต่อเหตุการณ์ที่โลกอิสลามกำลังเผชิญหน้าอยู่ในขณะนี้  โดยเฉพาะในเอเชียตะวันตก  และแอฟริกาเหนือ   ด้วยการพิจารณาถึงศักยภาพและความสามารถ สวัสดิการแห่งปัจเจกบุคคล  สภาพแวดล้อม  และนำเสนอพันธะกิจ ภาระหน้าที่ และความรับผิดชอบ และความเพียรพยามในสิ่งนี้


ในวันนี้นโยบายแห่งความชั่วร้ายของอเมริกาในภูมิภาคนี้  ในด้านหนึ่ง ( ก่อให้เกิดสงคราม  เหตุการณ์นองเลือด   การทำลายล้าง และอพยพลี้ภัย  ความยากจน ล้าหลัง ความขัดแย้งทางเชื้อชาติและนิกาย)  และอีกด้านหนึ่ง  การก่ออาชญากรรมของระบอบการปกครองของยิวไซออนิสต์  (ที่แสดงพฤติกรรมป่าเถื่อน ต่อประเทศปาเลสไตน์  อันนำมาซึ่งจุดสูงสุดแห่งความโหดร้ายป่าเถื่อนและอาฆาตพยาบาท )   การดูหมิ่นดูแคลนความศักดิ์สิทธิ์และเกียรติของมัสยิดอัลอักซอ  และการเหยียบย่ำชีวิตและทรัพย์สินของชาวปาเลสไตน์ผู้ถูกกดขี่  ซึ่งสิ่งเหล่านี้คือประเด็นปัญหาแรกของมวลมุสลิมทั้งหลาย ที่จะต้องมีการขบคิดพิจารณา และรู้จักในการกำหนดภาระหน้าที่แห่งอิสลามของตนในการเผชิญหน้าและต่อกรกับสิ่งเหล่านี้  ซึ่งผู้รู้ทางศาสนา บรรดามันสองทางการเมืองและวัฒนธรรม ย่อมมีภารกิจที่หนักอึ้งกว่าคนทั่วไป แต่เป็นที่น่าเสียดายที่บุคคลเหล่านี้กลับเพิกเฉยและละเลยต่อหน้าที่ของตน 


บรรดาผู้รู้ศาสนาทั้งหลาย กลายเป็นผู้จุดเพลิงไฟแห่งความแตกแยกทางนิกาย  บรรดานักการเมืองกลับนิ่งเฉยและเฉยเมยต่อบรรดาศัตรู  และบรรดาปัญญาชนด้านวัฒนธรรมกลับสาละวนอยู่กับเรื่องชายขอบ แทนที่จะมาทำความรับรู้และทำความเข้าใจถึงความเจ็บปวดของโลกอิสลาม  และภารกิจของตน ณ เบื้องหน้าแห่งความยุติธรรมของพระผู้เป็นเจ้า และรับผิดชอบในการขานรับภาระหน้าที่ดังกล่าว พร้อมกับปฏิบัติตามพันธะสัญญา   เหตุการณ์ที่นำมาซึ่งความทุกข์โศกที่เกิดขึ้นในภูมิภาค – ในอิรัก ชาม (ซีเรีย) เยเมนและบาห์เรน-  เขตเวสต์แบงก์ตะวันตก กาซ่า  และในบางประเทศในเอเชีย และแอฟริกา ที่กำลังเป็นปัญหาใหญ่สำหรับประชาชาอิสลามนั้น   จำต้องเห็นถึงเงื้อมือของแผนร้ายของมหาอำนาจผู้อหังการโลก  และครุ่นคิดแนวทางในการเยียวยา  ประชาชนจำต้องเรียกร้องสิ่งนี้จากรัฐบาลของตน และรัฐบาลทั้งหลายจำต้องมีความซื่อสัตย์ในภาระหน้าที่ที่หนักอึ้งของตนด้วย 


 พิธีกรรมและการชุมนุมครั้งยิ่งใหญ่นั้น คือสถานะภาพแห่งการปรากฏตัว และการแลกเปลี่ยนภารกิจที่สำคัญครั้งประวัติศาสตร์ที่โดดเด่นที่สุด   “โอกาสแห่งการประกาศบารออัต” จำต้องรู้ถึงคุณค่าแห่งการเข้าร่วมของบรรดาผู้แสวงบุญจากทั่วสารทิศ  เนื่องจากสิ่งนี้คือสัญลักษณ์ที่เด่นชัดที่สุดของพิธีกรรมทางการเมืองในบทบัญญัติข้อบังคับทางศาสนาที่ครอบคลุมทุกด้าน


ปีนี้เกิดอุบัติภัยอันข่มขืน และสร้างความสูญเสียในมัสยิด อัลฮะรอม ซึ่งได้สร้างบาดแผลอันเจ็บปวดให้กับบรรดาผู้แสวงบุญ และประชาชาติทั้งหลาย  ซึ่งในความเป็นจริงแล้วนั้นบรรดาผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์ครั้งนี้นั้นกำลังอยู่ในสภาพของการนมาซ การฏอวาฟเวียนรอบกะอ์บะฮ์ และประกอบอิบาดะห์  ได้กลับคืนสู่พระเมตตาของพระองค์ในสภาพที่ได้รับความผาสุกและความรุ่งโรจน์อันยิ่งใหญ่ ในเขตต้องห้ามอันทรงเกียรติ์ และความเมตตาของพระผู้เป็นเจ้า   อินชาอัลลอฮ์ –  แหละนี้คือการปลอบโยนและปลอบขวัญที่ยิ่งใหญ่ที่สุดสำหรับบรรดาญาติพี่น้องของผู้เสียชีวิต- แต่สิ่งนี้มิได้หมายความว่า ภาระหน้าที่ที่หนักอึ้งของบรรดาผู้รับผิดชอบในการรักษาความปลอดภัยให้กับแขกของพระองค์ผู้ทรงเมตตานั้นลดน้อยลง  การปฏิบัติตามพันธะสัญญาอันนี้และการตอบสนองต่อความรับผิดชอบดังกล่าวคือความปรารถนาสูงสุดของเรา 


والسّلام علی عبادالله  الصّالحین       

 ซัยยิด อาลี คาเมเนอี

9   ซุลฮิจญะฮ์

23   กันยายน 2558


700 /