เมื่อช่วงบ่ายวันเสาร์ที่ผ่านมา ( 5 กันยายน ) นาย อัลมาซเบ็ค อาตัมบาเยฟ ประธานาธิบดีคีร์กีสถานพร้อมคณะ เข้าพบท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ผู้นำการปฏิวัติอิสลาม ซึ่งท่านผู้นำสูงสุด ได้เน้นยำความจำเป็นในการเสริมสร้างความสัมพันธ์ทวิภาคีระหว่างประเทศพี่น้องมุสลิม และย้ำว่า พื้นฐานนโยบายต่างประเทศของสาธารณรัฐอิสลามแห่งอิหร่านคือการขยายความสัมพันธ์ที่เหนียวแน่นมั่นคงในทุกด้านกับบรรดาประเทศพี่น้องมุสลิม
ในการพบปะครั้งนี้ ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ถือว่า การต่อต้านอำนาจของผู้อหังการนั้นเป็นพื้นฐานหลักแห่งหลักคำสอนของพระผู้เป็นเจ้าและอิสลาม พร้อมกับชี้ถึงการแสดงทัศนะของประธานาธิบดีคีร์กีสถาน ที่เรียกร้องให้ ปิดฐานทัพอากาศอเมริกาในประเทศและความจำเป็นที่จะต้องจัดการกับมหาอำนาจผู้อหังการ ว่า บรรดาประเทศมหาอำนาจผู้ครอบงำและผู้รุกรานจะมีการวางแผนการร้ายกับทุกชนชาติของโลกอยู่ตลอดเวลา แต่อิสลามต้องการเกียรติศักดิ์ศรีของชนชาติมุสลิมทั้งหลาย และวิธีเดียวที่จะจัดการและตอบโต้ความชั่วร้ายของบรรดามหาอำนาจก็คือการยืนหยัดและการเสริมสร้างความสัมพันธ์กับประเทศบรรดาอิสลาม
ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลาม เรียกร้องให้เพิ่มความร่วมมือระหว่างสองประเทศในภาคส่วนต่างๆรวมทั้งการขนส่งที่เป็นไปได้และขึ้นอยู่กับความปรารถนาในการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีและมั่นคง
ในการพบปะครั้งนี้ ฮาซัน โรฮานี ประธานาธิบดีอิหร่าน เข้าร่วมด้วย นาย อัลมาซเบ็ค อาตัมบาเยฟ ประธานาธิบดีคีร์กีสถาน ได้แสดงความปิติยินดีที่ได้มาเยือนอิหร่านในครั้งนี้ โดยกล่าวว่า อิหร่านและคีร์กีสถานเป็นสองประเทศพี่น้องกัน มีศาสนาประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมเหมือนกัน และทั้งสองประเทศก็ยังมีจิตวิญญาณเสรีภาพและอิสรภาพอีกด้วย เขาได้เรียกร้องให้มีการพัฒนาด้านการสื่อสาร การขนส่งและการเชื่อมสายทางคมนาคมทางถนน รถไฟและทางอากาศระหว่างทั้งสองประเทศ พร้อมกับกล่าวว่า ควรเพิ่มความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศให้มากขึ้นกว่าเดิม
ประธานาธิบดีคีร์กีสถาน ได้ชี้ถึง การปิดฐานทหารของอเมริกาในมานัส และยกเลิกสัญญากับการทำงานร่วมกันกับอเมริกา ว่า ไม่มีประเทศใดในโลกนี้ที่จะมีสิทธิคิดว่าตนเองเหนือกว่าคนอื่น และกำหนดวางมาตรการคว่ำบาตรอย่างอยุติธรรมกับชาติอื่น ๆ
นาย อัลมาซเบ็ค อาตัมบาเยฟ กล่าวว่า อเมริกาที่มีประวัติศาสตร์นานประมาณ 200 กว่าปีซึ่งอาศัยความต้องการของตนเป็นที่ตั้งเพื่อจะครอบงำประเทศ เช่น อิหร่าน ที่มีอารยะธรรมอันยาวนานและประวัติศาสตร์ห้าพันกว่าปี ซึ่งมันเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้
เขายังได้ชื่นชมการยืนหยัดต่อสู้ของรัฐบาลและประชาชาติอิหร่านในการเผชิญหน้ากับอเมริกาว่า อิหร่านในการเผชิญหน้ากับมาตรการคว่ำบาตรนั้น ไม่เพียงแต่จะไม่ก่อให้เกิดความหวั่นไหวสะทกสะท้าน แต่กลับมีความแข็งแกร่งมากขึ้นกว่าเดิมด้วยซ้ำ และเราถือว่า สาธารณรัฐอิสลามอิหร่านคือแบบอย่างและต้นแบบสำหรับเรา