เมื่อช่วงบ่ายวันพุธที่ผ่านมา (13 ) ฟุอาด มะอ์ศูม ประธานาธิบดีอิรักพร้อมคณะ เข้าพบท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ผู้นำการปฏิวัติอิสลาม โดยท่านผู้นำสูงสุดถือว่า อิรักเป็นประเทศหนึ่งที่มีความสำคัญและมีอิทธิพลต่อประเทศอาหรับและอิสลาม พร้อมกับชี้และย้ำถึงสภาพเหตุการณ์อันน่าเศร้าและรันทัดใจยิ่งในภูมิภาค อาทิเช่น เหตุการณ์ในเยเมนและซีเรียว่า หากพิจารณาจากสถานะภาพอันนี้แล้ว อิรักย่อมมีอิทธิพลต่อประเด็นปัญหาที่เกิดขึ้นในภูมิภาคอย่างแน่นอน และควรใช้ประโยชน์จากศักยภาพอันนี้ให้มากขึ้นกว่าเดิม
ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลาม ถือว่า อิหร่านและอิรักมีความสัมพันธ์ที่ดีและฉันท์พี่น้อง พร้อมกับขานรับการเสริมสร้างและการขยายตัวที่เพิ่มขึ้นในการกระชับความสัมพันธ์ที่ดีเหล่านี้ ว่า ในวันนี้ความสัมพันธ์ระหว่างอิหร่านกับอิรักนั้น หากเปรียบเทียบในอดีตที่ผ่านมาแล้ว มันหาเทียบมิได้ ซึ่งทิศทางที่ดีเช่นนี้มันบ่งชี้ถึงการมีวิทยปัญญา และความเฉลียวฉลาดของพี่น้องชาวอิรักที่จะต้องดำเนินการต่อไป
ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ได้ย้ำถึง ความพร้อมของสาธารณรัฐอิสลามอิหร่านที่จะให้ความช่วยเหลือเพื่อการพัฒนาและความมั่นคงของอิรัก และถือว่า คำพูดของ ฟุอาด มะอ์ศูม เกี่ยวกับความสัมพันธ์ทวิภาคีและสถานการณ์ในอิรักและภูมิภาคเป็นคำพูดที่ละเอียดและครอบคลุม พร้อมกับย้ำว่า ในกลุ่มชาติอาหรับและอิสลาม อิรักถือเป็นประเทศหนึ่งที่มีความสำคัญและมีคุณลักษณ์พิเศษที่โดดเด่นเฉพาะตัว
ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลาม ถือว่า การจัดตั้งรัฐบาลประชาธิปไตยและการมีเสถียรภาพในอิรักเป็นหนึ่งในข้อได้เปรียบของประเทศนี้ที่หาเทียบมิได้ในกลุ่มประเทศอาหรับทั้งหลาย และกล่าวย้ำว่า เจ้าหน้าที่และกลุ่มต่างๆในอิรัก ควรปกป้องและรักษาข้อได้เปรียบที่ยิ่งใหญ่เหล่านี้อย่างเข้มข้นและให้ถึงที่สุด และอย่าปล่อยให้เกิดความแตกแยกและความขัดแย้งที่อาจเกิดขึ้นได้ มาบั่นทอนความสำเร็จครั้งประวัติศาสตร์ของอิรักเป็นอันขาด
ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลาม ได้ชี้ถึงอิทธิพลของรัฐบาลอิรักที่มีต่อโลกอาหรับว่า วันนี้ภูมิภาคและโลกอิสลาม ได้ประจักษ์เห็นปัญหาและเรื่องราวที่รันทดใจอย่างมาก และในความเป็นจริงแล้วมันก็ควรที่จะต้องเศร้าใจและร่ำไห้ต่อเหตุการณ์เหล่านี้ อาทิเช่น ประเด็นของปาเลสไตน์ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในแอฟริกาเหนือ และสงครามในซีเรียและเยเมน ซึ่งอิรักย่อมมีบทบาทและอิทธิพลอย่างมากต่อประเด็นเหล่านี้
ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ถือว่า แผนการของศัตรูอิสลามที่มีต่อซีเรียนั้น มันน่ากลัวและอันตรายอย่างยิ่ง และกล่าวย้ำว่า พวกเขาพยายามที่จะสร้างความไม่สงบและความไม่มั่นคงที่ถาวรในซีเรีย เพื่อสร้างความไม่มั่นคงให้เกิดขึ้นในภูมิภาคทั้งหมดต่อไป
ท่านผู้นำสูงสุด ถือว่า แผนการของชาติอาหรับบางประเทศสำหรับซีเรียนั้น มันเป็นแผนการทำลายล้าง และกล่าวเสริมว่า แผนการของพวกเขาเหล่านี้ ไม่เพียงแต่จะทำลายล้างซีเรียเท่านั้น แต่มันจะครอบคลุมถึงภายในประเทศของเขาเองด้วย
ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลามถือว่า การคืนความสงบสุขและความมั่นคงให้กับซีเรีย คือเป้าหมายหลักที่สำคัญ และชี้ถึงคำพูดของ ประธานาธิบดีอิรัก ในประเด็นการกระทำของกลุ่มก่อการร้ายไอซิสในซีเรีย โดยส่งผลกระทบในอิรักและภูมิภาค ว่า การปรากฏตัวของกลุ่มก่อการร้ายต่างๆ ทั้ง กลุ่มตักฟีรีย์ – กลุ่มก่อการร้ายในซีเรีย ภายใต้ชื่อกลุ่มก่อการร้ายที่หลากหลายกลุ่มนั้น ในความเป็นจริงแล้วมันเป็นการรับใช้ผลประโยชน์ของยิวไซออนิสต์ และเป็นการเอื้อผลประโยชน์ให้กับกลุ่มบุคคลที่ต้องการยัดเหยียดความต้องการของตนหวังสร้างความไม่มั่นคงให้เกิดขึ้นในภูมิภาค
ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ได้ชี้ถึงเหตุการณ์ที่น่าเศร้าสลดใจในเยเมน พร้อมกับกล่าวย้ำว่า ซาอุดิอาระเบียได้กระทำสิ่งที่ผิดพลาดอย่างมหันต์ และผลกรรมของการก่ออาชญากรรมครั้งนี้ ย่อมกลับคืนสู่พวกเขาอย่างแน่นอน
ท่านผู้นำสูงสุด ย้ำว่า จงยุติการโจมตีและเข่นฆ่าพี่น้องผู้บริสุทธิ์ในเยเมนโดยเร็ว และกล่าวย้ำ ว่า เหตุการณ์ในเยเมน บ่งชี้ถึงความคิดที่ไร้สติปัญญาและความโง่เขลาของเจ้าหน้าที่ภายในราชวงศ์ซาอุฯ ในการตัดสินใจและแสดงจุดยืนเช่นนี้ต่อเยเมน
ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ถือว่า การออกมาชี้แจงของซาอุดิอาระเบียในการโจมตีเยเมน เป็นความโง่เขลาและ งี่เง่าสิ้นดี และกล่าวเสริมว่า พวกเขาโจมตีเยเมน โดยที่ได้อ้างถึงคำร้องขอของประธานาธิบดีที่ลาออกและหลบหนีออกจากประเทศ และได้ทรยศต่อประเทศของตนในช่วงเกิดวิกฤติและสถานการณ์ที่สำคัญ
ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ถือว่า จุดยืนและการแสดงบทบาทของอิรักในเหตุการณ์เหล่านี้ย่อมเป็นสิ่งสำคัญ และกล่าวแสดงความคาดหวังอันมากมายต่ออนาคตในอิรัก และชื่นชมในความคิดริ่เริ่มของรัฐบาลอิรักที่สามารถนำประชาชนออกมาปรากฏตัวในสนามและใช้ประโยชน์จากกองกำลังอาสมัครของประชาชนควบคู่กับกองทัพ
ท่านผู้นำสูงสุด กล่าวว่า บรรดาเยาวชนอิรัก แต่ละคนล้วนมีศักยภาพและพลังแห่งตนในการเป็นวีระบุรุษในเชิงนามธรรม ซึ่งสามารถแสดงบทบาทและนำไปใช้ตามสถานการณ์ที่เกี่ยวข้องและในสนามต่างๆ และสิ่งนี้ ก็คือประสบการณ์หนึ่งของอิหร่านที่เราได้เรียนรู้มาแล้ว
ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลาม ยังได้ถามทุกข์สุขของ ญะลาล ฏอลาบีย์ อดีตประธานาธิบดีอิรัก พร้อมกับอวยพรและวิงวอนให้พระองค์ทรงประทานให้เขามีสุขภาพลานามัยที่สมบูรณ์แข็งแรง
ในการพบปะครั้งนี้ อะกอ โรฮานีย์ ประธานาธิบดีอิหร่าน ก็เข้าร่วมด้วย
ฟุอาด มะอ์ศูมีย์ ประธานาธิบดีอิรัก แสดงความปลื้มปิติยินดีอันเหลือล้นที่ได้พบปะกับท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลาม และกล่าวว่า ข้าพเจ้าเชื่อมั่นว่า ฯพณฯ เป็นผู้นำการปฏิวัติอิสลามและผู้นำทางจิตวิญญาณผู้ยิ่งใหญ่อย่างแท้จริง จากสองสถานะภาพดังกล่าวนี้เอง จึงสามารถขยายความสัมพันธ์ระหว่างอิรักกับอิหร่านเพิ่มมากขึ้นและจะสามารถแก้ไขปัญหาต่างๆของอิรักได้
ประธานาธิบดีอิรัก กล่าวเสริมว่า รัฐบาลและประชาชนชาวอิรัก จะไม่มีวันลืมการช่วยเหลือของสาธารณรัฐอิสลามอิหร่านเป็นอันขาด ในสมัยที่ถูกกลุ่มก่อการร้ายไอซิสบุกโจมตี และสถานการณ์ที่ยากลำบากมากที่สุด และกล่าวย้ำว่า ไม่มีความแตกต่างอันใด ระหว่างกลุ่มก่อการร้ายไอซิสที่อยู่ในอิรักและซีเรีย เนื่องจากไอซิสมันเป็นภัยอันตรายและภัยคุกคามทั่วภูมิภาค ฟุอาด มะอ์ศูมีย์ ถือว่า การเจรจากับประธานาธิบดีอิหร่านเป็นที่น่าพอใจ และหวังว่า การเจรจาและการพูดคุยในครั้งนี้นั้น จะเป็นปัจจัยพื้นฐานที่ดีต่อการขยายความร่วมมือที่เพิ่มขึ้นระหว่างสองประเทศ