ในเช้าวันพุธ (6 พ.ค 58) รัฐมนตรีและเจ้าหน้าที่ของกระทรวงศึกษา พร้อมด้วยคณะครูจำนวนมากของสาธารณรัฐอิสลามแห่งอิหร่าน ได้เข้าพบท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ซึ่งท่านได้ชี้ถึงฐานภาพ บทบาทอันหาที่เทียบมิได้ในด้านการศึกษาและการอบรมตัรบียะห์ อีกทั้งบทบาทที่สำคัญและส่งผลอันประสิทธิภาพของบรรดาครูบาอาจารย์ ในการอบรมตัรบียะห์เยาวชนรุ่นใหม่ที่มีความศรัทธา มีความรู้ มีโลกทัศน์ มีความเชื่อมั่นในตนเองสูง มีความร่าเริงเบิกบานและเปี่ยมด้วยความหวัง ซึ่งการบรรลุเป้าหมายอันสูงส่งต่างๆเหล่านี้ อยู่ภายใต้การบริหารจัดการที่รอบคอบรัดกุม สมบูรณ์แบบในด้านการบูรณาการทางการศึกษา และกล่าวย้ำว่า เจ้าหน้าที่ของรัฐโดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ฝ่ายเศรษฐกิจ ควรให้ความสำคัญเป็นพิเศษต่อกระทรวงศึกษาธิการและสวัสดิ์ภาพของเหล่าครูบาอาจารย์ให้มากกว่าหน่วยงานและกระทรวงอื่นๆ และพึ่งรู้ว่าทุกค่าใช้จ่ายที่ถูกนำมาใช้ในการนี้ ถือเป็นการลงทุนสำหรับอนาคตที่คุ้มค่าและเป็นการเสริมสร้างค่านิยมและเพิ่มคุณค่าที่มากขึ้น
ท่านผู้นำสูงสุด ยังได้ชี้ถึงภัยคุกคามล่าสุดของเจ้าหน้าที่ทางการของอเมริกาในขณะที่มีการเจรจานิวเคลียร์ และย้ำว่า ข้าพเจ้าไม่เห็นด้วยกับการเจรจาที่อยู่ภายใต้ร่มเงาของการคุกคาม บรรดาเจ้าหน้าที่ฝ่ายต่างประเทศและคณะทีมงานเจรจาควรระมัดระวังเส้นแดนขอบเขตและหลักสำคัญอย่างละเอียดและรอบคอบ และในช่วงเวลาที่มีการเจรจา ก็จำต้องปกป้องความยิ่งใหญ่และความน่าเกรงขามของประชาชาติอิหร่านให้ถึงที่สุด อย่าตกอยู่ภายใต้การถูกบังคับ ความอัปยศอดสูและภัยคุกคามใดๆเป็นอันขาด
ในช่วงแรกของการปราศรัย ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ผู้นำการปฏิวัติอิสลาม ได้เทิดเกียรติรำลึกถึง ชะฮีด อยาตุลลอฮ์ มุเฏาะฮารีย์ โดยถือว่า คุณลักษณะพิเศษอันโดดเด่นของท่านคือ การเป็นครู และอาจารย์ ที่มีความบริสุทธิ์ใจและมีความอุตสาหพยายามอย่างไม่เหนื่อยหน่ายและย่อถ้อ และได้ชี้ถึงบทบาทอันหาเทียบไม่ได้ของหน่วยงานการศึกษาในการสร้างอนาคตของประเทศ ว่า ในการเรียนการสอน หรือระบบการศึกษา ครูบาอาจารย์ เป็นศูนย์กลางที่มีบทบาทมากที่สุด และมีบทบาทที่ทรงอิทธิพลที่สุดในการสร้างบุคลิกภาพทางความคิดและจิตวิญญาณให้กับนักเรียนและนักศึกษาและเยาวชนรุ่นใหม่ในอนาคตของประเทศ โดยที่บิดาและมารดาและแวดล้อมแห่งความเป็นอยู่ยังไม่มีบทบาทที่ส่งอิทธิพลได้ดีต่อนักเรียนมากไปกว่าครูบาอาจารย์
ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี กล่าวเสริมว่า หากพิจารณาจากบทบาทของการศึกษาและครูบาอาจารย์ในอนาคตของชาติ ทุกๆค่าใช้จ่ายที่ใช้ไปในการนี้ ในความจริงแล้วถือเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า
ท่านผู้นำสูงสุดได้เน้นว่า ควรมีโลกทัศน์และวิสัยทัศน์เช่นนี้ในการวางแผนระบบเศรษฐกิจและการศึกษา อีกทั้งยังได้ชี้ถึงบทบาทในการสร้างบุคคลผู้ยิ่งใหญ่และบุคคลที่โดดเด่นในสังคม ว่า ภาระหน้าที่ของครูบาอาจารย์ คือ การฝึกอบรมสั่งสอนให้เยาวชนรุ่นใหม่มีความศรัทธา มีความรู้ มีความเชื่อมั่นในตัวเองสูง มีความหวังต่ออนาคต มีความเบิกบาน มีวิสัยทัศน์และโลกทัศน์ที่กว้างไกล มีความปรารถนามุ่งมั่น และมีสุขภาพลานามัยและสุขภาพจิตที่แข็งแรงสมบูรณ์
ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลามกล่าวเสริมว่า ภารกิจของครู คือ การสร้างสังคมมนุษย์ที่สูงส่งและที่เหนือกว่านั้นคือ การสานต่อภารกิจของบรรดาศาสนทูต คือการตะอ์ลีม (การอบรมสอนสั่ง)และการตัซกียะห์(การพัฒนาและขัดเกลาจิตวิญญาณ)
ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ถือว่า การบรรลุซึ่งภารกิจที่แท้จริงของเหล่าครูบาอาจารย์ ควรจะปฏิบัติตามพันธะกรณี และข้อผูกพัน และกล่าวเสริมว่า หนึ่งในข้อปฏิบัติตามพันธะกรณี คือ การให้ความสำคัญต่อวิถีชีวิตและความเป็นอยู่ที่สุขสบายของเหล่าครูบาอาจารย์ เจ้าหน้าที่ของรัฐ โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ฝ่ายเศรษฐกิจ ซึ่งควรที่จะพิจารณาและดูแลเป็นพิเศษโดยเฉพาะระบบการศึกษาและครูบาอาจารย์ ตามข้อจำกัดที่มีอยู่ โดยให้ถือเรื่องเหล่านี้เป็นปัญหาเร่งด่วนและสำคัญลำดับต้นๆ
ท่านผู้นำสูงสุด เน้นยำว่า หากมีการเพิกเฉยและละเลยในประเด็นวิถีชีวิตและความเป็นอยู่ของครู บรรดาศัตรูก็ย่อมจะใช้ประโยชน์จากสิ่งนี้
ท่านผู้นำสูงสุด กล่าวเสริมว่า ทั้งนี้ครูบาอาจารย์เหล่านี้จำต้องเป็นผู้ศรัทธา บริสุทธิ์ใจและมีไหวพริบที่ชาญฉลาด เข้าใจการใส่ร้ายป้ายสีของบรรดาศัตรู และกลุ่มบุคคลที่หวังร้ายต่อระบอบสาธารณรัฐอิสลาม จะอาศัยชีวิตความเป็นอยู่ของครูบาอาจารย์ เป็นสโลแกนในการสร้างฟิตนะห์ เป็นกุศโลบายทางการเมือง และสร้างความป่นป่วนและความวุ่นวายให้กับระบอบ
ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลาม ถือว่า ประเด็นมหาวิทยาลัยครู เพื่อดึงดูดและสอนหลักสูตรครูจากสถาบันเหล่านี้เป็นสิ่งที่สำคัญ พร้อมกับกล่าวย้ำว่า กระบวนการทั้งหมดในมหาวิทยาลัย โดยเฉพาะคุณสมบัติในการเลือกครู หลักสูตร และการเลือกอาจารย์ คณะกรรมการฝ่ายวิชาการ จำต้องเป็นบุคคลมีสุขภาพที่ดี สอดคล้องกับหลักเกณฑ์ของอิสลามและการปฏิวัติ
ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ได้ชี้ถึง เอกสารในการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างขั้นพื้นฐานของการศึกษา และการยืนยันสิ่งนี้จากเหล่าคณะผู้เชี่ยวชาญและสันทดกรณี ว่า ผลกระทบที่จำเป็นในการสัมฤทธิ์ผลของเอกสารเหล่านี้ คือ การดำเนินการที่สอดคล้องและสมบูรณ์แบบตามเนื้อหาที่ได้ระบุ และหากบางภาคส่วนของเอกสารการเปลี่ยนแปลงขั้นพื้นฐานของการศึกษา ได้รับการดำเนินการอย่างมีประสิทธิภาพแล้ว แต่ภาคส่วนอื่นๆไม่ได้รับการดูแลและเพิกเฉย เอกสารเหล่านี้ก็ไม่ส่งผลสัมฤทธิ์ที่ทรงประสิทธิภาพและจะไม่เกิดการเปลี่ยนแปลงใดๆเลย
ท่านผู้นำสูงสุด ได้เน้นย้ำ ถึงความจำเป็นในการทำความเข้าใจโครงสร้างขั้นพื้นฐานของการศึกษาและครูตามความต้องการของเอกสารดังกล่าว โดยกล่าวย้ำว่า ในประเด็นนี้หน่วยงานฝายวิเทศสัมพันธ์โดยเฉพาะองค์การสื่อสารมวลชนแห่งชาติควรให้การช่วยเหลือกระทรวงศึกษาธิการอย่างจริงจัง
ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลาม ถือว่า ในวันนี้ ภาวะเงื่อนไขได้เอื้ออำนวยและพร้อมเป็นอย่างมาก ในการเปลี่ยนแปลงพื้นฐานหลักในระบบการศึกษา โดยกล่าวเสริมว่า อัลฮัมดุลิลลาห์ ในวันนี้ประเทศชาติอยู่สภาวะที่มั่นคง เสถียรภาพและความปลอดภัย และเจ้าหน้าที่ของรัฐจำต้องมีความรักในการปฏิบัติภาระหน้าที่ ซึ่งในสภาวะเงื่อนไขของวันนี้ มีปัจจัยเอื้อและเหมาะสมที่สุดในการยกระดับคุณภาพทางการศึกษาเพื่อให้บรรลุผลให้เป็นที่น่าพอใจ
ในภาคส่วนนี้ ท่านผู้นำสูงสุด ได้เทิดเกียรติ์ครูบาอาจารย์ อีกครั้งหนึ่ง ว่า ณ. สถานที่แห่งนี้ ข้าพเจ้าขอสรรเสริญและฝากสลามแด่ครูบาอาจารย์ทุกท่านทั่วประเทศด้วย
ภาคส่วนที่สองในการปราศรัยของท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลาม ได้ชี้ถึงประเด็นการเผชิญหน้าล่าสุดของเจ้าหน้าที่อเมริกากับประชาชาติอิหร่าน ในช่วงการเจรจานิวเคลียร์ โดยมีการชี้ให้เห็นถึงประเด็นหลักๆที่สำคัญ
เบื้องต้นท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลามได้ชี้ถึงข้อเท็จจริงประการหนึ่งที่ไม่อาจปฏิเสธได้ ว่า ตลอดช่วงเวลา 35 ปีทีผ่านมา ศัตรูของระบอบอิสลาม แม้จะมีความโอ้อวดต่างๆนานา แต่ก็ต้องยอมรับในความยิ่งใหญ่และความน่าเกรงขามของประชาชาติอิหร่านและสาธารณรัฐอิสลามอย่างดุษณี
ท่านผู้นำสูงสุด ถือว่า ความน่าเกรงขามและความยิ่งใหญ่เหล่านี้ ไม่ใช่เป็นเรื่องงมงายแต่อย่างใด แต่มันเป็นข้อเท็จจริงที่ไม่อาจปฏิเสธ เนื่องจากประเทศอิหร่านเป็นประเทศที่ใหญ่โตและกว้างขวาง ซึ่งมีประชากรประมาณ เจ็ดสิบกว่าล้านคน มีภูมิหลังด้านประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมอันเก่าแก่และลุ่มลึก มีความกล้าหาญเด็ดเดี่ยวและความมุ่งมั่นที่หาเทียบได้
ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลาม ย้ำว่า ประชาชาตินี้จะยังคงให้การปกป้องอัตลักษณ์และตัวตนอยู่เสมอ พร้อมกับกล่าวเสริมว่า ในช่วงแปดปีแห่งสงครามปกป้องพิทักษ์อันศักดิ์สิทธิ์ มหาอำนาจต่างๆของโลก มีความพยายามอย่างมาก ที่จะให้ประชาชาตินี้ล่มสลายและยอมจำนนต่อพวกเขา แต่ก็ไมสำเร็จ ด้วยเหตุนี้ เราจำต้องปกป้องรักษาความยิ่งใหญ่และความน่าเกรงขามอันนี้ไว้จงดี
ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี กล่าวเสริมว่า ตามที่เจ้าหน้าที่ทางการเมืองของประเทศต่างๆออกมายอมรับทั้งในรูปแบบที่เปิดเผยและแบบลับๆ ว่า หากการคว่ำบาตรและกดดันเช่นนี้ ที่กำลังเกิดขึ้นกับอิหร่าน ถูกนำไปใช้กับประเทศอื่นๆแล้ว แน่นอนประเทศนั้นย่อมพบกับความหายนะอย่างแน่นอน แต่สาธารณรัฐอิสลามสามารถยืนหยัดอย่างแข็งแกร่งและมั่นคง
ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลามย้ำว่า ประเด็นดังกล่าวนี้ไม่ใช่เป็นเรื่องเล็กๆ ทว่าฝ่ายโฆษณาชวนเชื่อโลกก็ยังคงมีความพยายามอย่างไม่หยุดหย่อน เพื่อให้ประชาคมโลกไม่สามารถรับรู้ข้อเท็จจริงจากอิหร่าน แต่ทว่า มีประชาชาติจำนวนมากก็ได้รู้ในข้อเท็จจริงเหล่านี้ และบรรดาเจ้าหน้าที่ทางการเมืองระดับโลกก็ทรงตระหนักเป็นอย่างดีและยอมรับในข้อเท็จจริงเหล่านี้ แม้นว่าจะไม่เอ่ยพูดเป็นวาจาก็ตามที แต่ก็จำยอมต้องพูดและแสดงในลักษณะต่างๆนานา
หลังจากที่ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลามได้กล่าวในประเด็นดังกล่าวนี้แล้ว ก็ได้กล่าวถึงยังบรรดาเจ้าหน้าที่ของประเทศ โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ด้านนโยบายการเมืองต่างประเทศ และบรรดาผู้สันทัดกรณีและปัญญาชนในสังคม ว่า พึ่งรู้ ว่า หากประชาชาติหนึ่งไม่สามารถที่จะปกป้องความยิ่งใหญ่และอัตลักษณ์ของตนในการเผชิญหน้ากับกับต่างชาติแล้ว ถือว่าพวกท่านได้ล้มเหลวในการนี้ ด้วยเหตุนี้พวกท่านจำต้องรู้ถึงคุณค่าของอัตลักษณ์และบุคลิกภาพแห่งตนของประชาชาตินี้ไว้ให้ดี
ท่านผู้นำสูงสุด ได้ชี้ถึงการคุกคามทางทหารของเจ้าหน้าที่สองคนของอเมริกา ในช่วงล่าสุดที่มีการเจรจานิวเคลียร์เกิดขึ้น ว่า การเจรจาที่อยู่ภายใต้ร่มเงาแห่งการคุกคามจะไม่มีประโยชน์และความหมายใดๆทั้งสิ้น และประชาชาติอิหร่านก็จะไม่มีความเกรงกลัวต่อการเจรจาภายใต้ร่มเงาแห่งการคุกคามนี้เป็นอันขาด
ท่านผู้นำสูงสุด ได้ย้ำอีกครั้งถึงคำพูดล่าสุดของเจ้าหน้าที่ทางการของอเมริกาในช่วงสองสามวันที่ผ่านมา ว่า หากภาวะเงื่อนไขดังกล่าวนี้ดำเนินการเช่นนี้อีก เราจะมีการบุกโจมตีทางทหาร โดยเป็นการบุกโจมตีที่หนักหน่วงที่จะสร้างความย่อยยับให้กับอิหร่าน แต่ประชาชาติอิหร่านจะไม่มีวันยอมให้ผู้ใดรุกรานเป็นอันขาดและจะตอบโต้พวกเขาอย่างสามสมอย่างแน่นอน
ท่านผู้นำสูงสุด ได้ย้ำอีกครั้งหนึ่งว่า บรรดาเจ้าหน้าที่ทั้งหมด โดยเฉพาะคณะทีมเจรจา จำต้องตระหนักในเรื่องนี้ให้จงดี และกล่าวเสริมว่า บรรดาเจ้าหน้าที่เจรจาจำต้องมีการระมัดระวังเขตแดนอันตราย และประเด็นหลักของการเจรจาที่สำคัญนี้ไว้ให้ดี และอินชาอัลลอฮ์ บรรดาเจ้าหน้าที่จะไม่ข้ามและละเมิดเขตแดนอันตรายนี้อย่างแน่นอน
ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี กล่าวเสริมว่า เป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้ ที่ในช่วงมีการเจรจาอยู่นั้น ฝ่ายตรงกันข้ามก็ยังคงมีการคุกคามเราอย่างต่อเนื่อง
ท่านผู้นำสูงสุดกล่าวเสริมว่า อเมริกามีความจำเป็นและต้องการต่อการเจรจาครั้งนี้ หากไม่มากกว่าเราแต่ก็ไม่น้อยไปกว่าเราอย่างแน่นอน เรามีความปรารถนาที่จะให้การเจรจาบรรลุผลสำเร็จในที่สุด และยกเลิกการคว่ำบาตร แต่ทว่าสิ่งนี้มิได้หมายความว่า หากการคว่ำบาตรไม่ได้ถูกยกเลิกแล้วไซร้ เราไม่สามารถที่จะบริหารจัดการและพัฒนาประเทศของเราได้
ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลามย้ำว่า ในวันนี้เป็นที่พิสูจน์แล้วสำหรับทุกคนในประเทศ ว่า การแก้ไขวิกฤติเศรษฐกิจในประเทศ มิได้ขึ้นอยู่กับการยกเลิกการคว่ำบาตร แต่ทว่า วิกฤติเศรษฐกิจจะสามารถแก้ไขได้ด้วยการบริหารจัดการ ความมุ่งมั่นและความสามารถภายในของเราเอง แม้นว่า เราจะถูกคว่ำบาตรหรือไม่ถูกคว่ำบาตรก็ตาม
ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี กล่าวเสริมว่า ทว่า หากไม่ถูกคว่ำบาตรเช่นนี้ การแก้ไขวิกฤติเศรษฐกิจอาจจะง่ายกว่านี้ แต่เมื่อถูกคว่ำบาตรอย่างต่อเนื่องแล้ว ก็ย่อมมีแนวทางในการแก้ไขวิกฤติครั้งนี้ให้คลี่คลายได้
ท่านผู้นำสูงสุด ได้ย้ำถึงจุดยืนของสาธารณรัฐอิสลามที่มีต่อประเด็นการเจรจานิวเคลียร์ โดยชี้ถึงความจำเป็นย่างยิ่งยวดของอเมริกา ต่อการเจรจาในครั้งนี้ ว่า พวกเขาต้องการจุดประเด็นหลักทางการเมืองโดยหวังที่จะสร้างผลงานของตน จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งยวดในเรื่องนี้ โดยกล่าวว่า “เราได้นำอิหร่านสู่โต๊ะเจรจา และเราก็ได้บีบบังคับอิหร่านในบางประเด็นอีกด้วย”
ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลาม ย้ำว่า เราไม่เห็นด้วยกับการเจรจาที่อยู่ภายใต้ร่มเงาแห่งการถูกคุกคาม
ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ได้กล่าวถึงคณะทีมเจรจา ว่า จงทำการเจรจาต่อไปด้วยความระมัดระวังในกรอบขอบเขตที่จำเป็น และหากสามารถบรรลุข้อตกลงตามกรอบดังกล่าว ก็ถือว่าไม่มีปัญหา ทว่าจำต้องไม่มีวันยอมตกอยู่ภายใต้การถูกบีบบังคับ ถูกกดขี่ ดูหมิ่นเหยียดหยามและคุกคามเป็นอันขาด
ท่านผู้นำสูงสุดได้ย้ำในประเด็นที่ว่า ในวันนี้รัฐบาลอเมริกา เป็นรัฐบาลที่ไร้เกียรติที่สุดในบรรดารัฐบาลทั่วโลก หนึ่งในเหตุผลคือ การสนับสนุนอย่างชัดเจนของอเมริกาต่อการก่ออาชญากรรมต่างๆของซาอุดิอาระเบียต่อเยเมน และกล่าวย้ำว่า รัฐบาลของราชวงศ์ซาอูดกำลังหมกมุ่นอยู่กับการเข่นฆ่าประชาชนผู้บริสุทธิ์ สตรีและเด็กๆ ในเยเมน โดยปราศจากเหตุผลใดๆ และมีเพียงข้ออ้างเดียวที่ว่าทำไมประชาชนเยเมนจึงไม่ยอมรับคนบางคนเป็นประธานาธิบดี และรัฐบาลอเมริกาเองก็ให้การสนับสนุนต่ออาชญากรรมที่ใหญ่หลวงนี้
ท่านผู้นำสูงสุดของการปฏิวัติอิสลามย้ำว่า ในท่ามกลางชนชาติทั้งหลายในภูมิภาคนี้ อเมริกาไม่มีเกียรติใดๆ พร้อมกับกล่าวว่า รัฐบาลอเมริกาสนับสนุนการเข่นฆ่าประชาชนเยเมนโดยไม่ละอายใจใดๆ เลย แต่กลับกล่าวหาอิหร่าน ซึ่งต้องการส่งความช่วยเหลือทางด้านเวชภัณฑ์และอาหารแก่ประชาชนเยเมนว่ากำลังแทรกแซงและส่งอาวุธให้ประเทศนี้
อยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี กล่าวเสริมว่า ชนชาตินักต่อสู้และนักปฏิวัติของเยเมนไม่ต้องการอาวุธ เนื่องจากหน่วยงานทางทหารและฐานทัพทั้งหมดอยู่ในความครอบครองของพวกเขา ด้วยเหตุผลของการถูกปิดล้อมทางด้านเวชภัณฑ์ อาหารและพลังงานที่พวกคุณได้สร้างขึ้น ทำให้พวกเขาต้องการความช่วยเหลือต่างๆ ด้านมนุษยธรรม แต่พวกคุณ (ซาอุดิอาระเบียและอเมริกา) ไม่อนุญาตแม้แต่การเข้าไปขององค์การ "ฮิลาลอะห์มัร" (จันทร์เสี้ยวแดง)
ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ย้ำถึงแนวทางที่ประเทศอิหร่านได้เลือก ว่าเป็นแนวทางที่มั่นคงแข็งแกร่งและดีงาม พร้อมกับกล่าวว่า โดยพระประสงค์ของพระผู้อภิบาล และด้วยดวงตาที่มืดบอดของบรรดาศัตรู แนวทางนี้จะบรรลุผลต่างๆ ของมันและทุกคนจะได้ประจักษ์เห็นว่าบรรดาศัตรูจะไม่สามารถทำให้เป้าหมายต่างๆ อันชั่วร้ายของตนที่เกี่ยวกับอิหร่านบรรลุความจริงในทางปฏิบัติได้เลย