เมื่อช่วงเช้าวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา (12) ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ผู้นำการปฏิวัติอิสลาม ได้พบปะกับคณะสภาผู้ชำนาญการสูงสุด โดยท่านผู้นำสูงสุดถือว่า การบรรลุซึ่ง “อิสลามที่สมบูรณ์แบบอย่างแท้จริง”นั้น เป็นพระประสงค์ของเอกองค์อัลลอฮ์(ซบ)และเป้าหมายหลักของสาธารณรัฐอิสลามอิหร่าน อีกทั้ง ยังชี้ถึงความจำเป็นในการนำเสนออิสลามอันบริสุทธิ์ในการเผชิญหน้ากับความเพียรพยายามของเหล่ามหาอำนาจผู้อหังการในการส่งเสริมโรคกลัวอิสลามในหมู่ประชาชาติทั้งหลาย และกล่าวย้ำว่า ในการพิจารณาปัญหาและแนวทางในการแก้ไขความท้าทายที่กำลังเกิดขึ้นอยู่นั้น ควรที่จะหลีกเลี่ยงการคิดคำนวณที่ผิวเผิน แต่ควรพิจารณาในรากเหง้าของปัญหาอย่างแท้จริงเพื่อสร้างบริหารจัดการในระดับภูมิภาคที่มีประสิทธิภาพ
ท่านผู้นำสูงสุด ได้ชี้ถึงบุคลิกภาพ ประวัติการรับใช้ของอยาตุลลอฮ์ ยัซดี ในอดีตที่ผ่านมา และการเลือกให้ท่านเป็นประธานสภาผู้ชำนาญการสูงสุด คนใหม่นั้นเป็นการเลือกที่ถูกต้องเหมาะตามสภาวการณ์ในปัจจุบัน และกล่าวเสริมว่า การเลือกตั้งครั้งนี้ เป็นสิ่งที่แสดงถึงความหนักแน่นมั่นคง ปราศจากข้อครหาใดๆทั้งสิ้น อันควรเป็นแบบอย่างสำหรับหน่วยงานต่างๆในทุกภาคส่วน
ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลาม ได้ชี้โองการอัลกุรอานบางโองการที่ให้ความสำคัญยังเสาหลักและบทบัญญัติต่างๆของศาสนา อันเป็นสิ่งเรียกร้องของอิสลาม และกล่าวย้ำว่า ในคำสั่งสอนของอิสลาม ในนามของศาสนานั้นไม่มีค่ำ “ว่าอย่างน้อยที่สุด” ซึ่งจำต้องกำหนดเป้าหมายในการบรรลุในทุกองค์ประกอบของอิสลามและการบรรลุซึ่งอิสลามที่สมบูรณ์แบบ ซึ่งในแนวทางนี้ก็ต้องมีความเพียรพยายามและขับเคลื่อนสู่การพัฒนาและความเจริญรุ่งเรืองต่อไป
ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ได้ชี้ถึงความสำคัญของการปกปักษ์รักษาและเสริมสร้างทุกแง่มุมของอิสลาม ทั้งด้าน “ภาพลักษณ์และวิถีชีวิต” ว่า การปกป้องรักษา “วิถีแห่งอิสลาม” หมายความว่า ในความสามารถและศักยภาพต่างๆที่เกิดขึ้นท่ามกลางการขับเคลื่อนของพี่น้องประชาชน และเจ้าหน้าที่ จำต้องคำนึงถึงอิสลาม เป้าหมายและอุดมการณ์ และเพื่อก้าวบรรลุสู่การวางแผนที่สมบูรณ์แบบนั้น ทุกคนล้วนจำต้องขับเคลื่อนบนแนวทางนี้
ท่านผู้นำสูงสุด ถือว่า มหาอำนาจโลกเป็นตัวหลักที่คอยสกัดกั้นการขับเคลื่อนสู่การบรรลุเป้าหมายอิสลามที่สมบูรณ์แบบ และกล่าวเสริมว่า การส่งเสริมโรคกลัวอิสลามโดยหน่วยงานต่างๆด้านการโฆษณาชวนเชื่อและการเมืองของยิวอิสราเอล มันเป็นการบ่งชี้ถึงความหวาดกลัวของพวกเขาที่จะต้องสูญเสียผลประโยชน์ที่ไม่ชอบธรรม
ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลาม ได้ชี้ถึงบางคำพูดของศัตรูที่มีต่อระบอบการปกครองนี้ ที่พูดว่า เราต้องการเปลี่ยนพฤติกรรมของสาธารณรัฐอิสลาม หาใช่การเปลี่ยนระบอบการปกครอง ว่า การเปลี่ยนพฤติกรรมของระบอบ นั้นหมายความว่า ประชาชาติอิหร่าน ต้องละเลยต่อความจำเป็นแห่งการขับเคลื่อนสู่เป้าหมายและอุดมการณ์ของตนและการปฏิบัติตามอิสลามที่สมบูรณ์แบบ ซึ่งเป้าหมายเช่นนี้ ในความเป็นจริงแล้ว มันก็คือการเปลี่ยนระบอบ และการทำลายวิถีแห่งศาสนาในการขับเคลื่อนโดยรวมของระบอบอิสลามนั้นเอง ซึ่งในครั้งนี้ก็ใช้วิธีการนี้เป็นเครื่องมือ
ท่านผู้นำสูงสุด ได้ชี้ว่า การหลีกเลี่ยงในการเผชิญหน้าในลักษณะที่รุนแรงกับปรากฏการณ์ “โรคกลัวอิสลาม” นั้นเป็นสิ่งที่จำเป็นยิ่ง พร้อมกับกล่าวเสริมว่า โรคกลัวอิสลาม ในความเป็นจริงแล้วเป็นเครื่องแสดงให้เห็นถึงความกลัวและความร้อนรนของพวกอันธพาลนานาชาติที่มีต่อ "อิสลามแห่งการเมือง" และอิสลามที่ปรากฏตัวอยู่ในบริบทของวิถีชีวิตของชนชาติทั้งหลาย ด้วยกับการปฏิวัติอิสลาม ประชาชาติอิหร่านได้กลายเป็นผู้ถือธงในการสร้างและทำให้มันมั่นคงแข็งแกร่งมากขึ้น
ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ถือว่า การพลิกวิกฤติ “การคุกคามของโรคกลัวอิสลาม” ให้เป็นโอกาส เป็นสิ่งที่สามารถทำได้ และกล่าวเสริมว่า ความพยายามอย่างไม่หยุดนิ่งของพวกอันธพาลนานาชาติ เพื่อที่จะทำให้ประชาชาติทั้งหลายและบรรดาเยาวชนเกิดความหวาดกลัวต่ออิสลามนั้น ได้ทำให้เกิดคำถามขึ้นในใจกลางของสาธารณชนของโลกว่า อะไรคือเหตุผลของการโจมตีและการรุกรานทั้งมวลนี้ต่ออิสลาม?
ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลาม ได้ตอบคำถามที่ถูกต้องดังกล่าวด้วยการชี้แนะและนำเสนอแนวทางอิสลามอันบริสุทธิ์ให้กับประชาชาติทั้งหลาย อันเป็นความสิริมงคลที่ไม่วันสิ้นสุด
ท่านผู้นำสูงสุด ได้ชี้ถึงการอธิบายคุณลักษณะพิเศษต่างๆของอิสลามอันบริสุทธิ์ ว่า การชูประเด็น อิสลามยืนอยู่กับผู้ถูกกดขี่และต่อต้านผู้กดขี่ ทำให้คนหนุ่มสาวในทุกสารทิศของโลกรู้สึกตื่นตาตื่นใจและปิติยินดี และทำให้พวกเขาได้เข้าใจว่า อิสลามมีแนวทางปฏิบัติในการปกป้องผู้ถูกกดขี่และผู้ไร้ที่พักพิงอย่างชัดเจน
ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ถือว่า อิสลามฝักใฝ่การใช้หลักสติปัญญา ต่อต้าน “ ความรุนแรงและความบ้าคลั่ง” ต่อต้านสิ่งงมงายและสิ่งล่อลวง อันเป็นมิติหนึ่งของอิสลามอันบริสุทธิ์ พร้อมกับกล่าวเสริมว่า จำต้องมีการนำเสนออิสลามที่เคร่งครัดในการเผชิญหน้ากับผู้ประมาทเลินเล่อไม่สนใจศาสนา จำต้องมีการนำเสนอบริบทแห่งวิถีของประชาชนในการเผชิญหน้ากับพวกแยกศาสนาออกจากการเมือง (Secular) จำต้องนำเสนออิสลามแห่งความเมตตาแก่ผู้ยากไร้ผู้ถูกกดขี่ และอิสลามแห่งการต่อสู้กับมหาอำนาจผู้อหังการต่อประชาคมโลกอย่างแท้จริง ด้วยแนวทางเช่นนี้ จะสามารถเปลี่ยนวิกฤติในแผนการโรคกลัวอิสลามของศัตรู กลับมาเป็นโอกาสในการดึงดูดประชาชาติทั้งหลายเข้าสู่อิสลามอันบริสุทธิ์
ในภาคส่วนหนึ่งของคำปราศรัยครั้งนี้ ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลาม ได้ชี้ถึง ความท้าทายต่างๆที่เกิดขึ้นระหว่างอิหร่านกับอเมริกาและชาติยุโรปบางประเทศ ในประเด็นนิวเคลียร์ ว่า ควรหลีกเลี่ยงการตรวจสอบแบบผิวเผิน จะทำให้ความท้าทายและปัญหาต่างๆจะได้รับการแก้ไข และจากแนวทางนี้เองก็จะสามารถพบแนวทางแก้ไขที่เป็นหลักตรรกะที่ถูกต้อง
ท่านผู้นำสูงสุด ได้ชี้ถึงกรณีตัวอย่างที่สามารถเห็นอย่างเป็นรูปธรรมในประเด็นนี้ จากผลกระทบที่เกิดขึ้นของการถูกคว่ำบาตร ว่า การตรวจสอบที่แท้จริงเผยให้เห็นอย่างชัดเจน ว่า เหตุผลที่เราต้องทนรับการถูกคว่ำบาตร ก็เนื่องจากประเทศพึ่งพาน้ำมันเป็นหลัก เศรษฐกิจรัฐและการไม่มีส่วนร่วมของประชาชนในบริบทของเศรษฐกิจนั้นเอง
ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลาม ได้ตั้งคำถามที่สำคัญว่า หากเศรษฐกิจของประเทศและวิถีชีวิตของประชาชาติไม่ได้ผูกมัดและพึ่งรายได้จากน้ำมันเพียงอย่างเดียว และหลีกเลี่ยงจากความผิดพลาดในช่วงต้นของการปฏิวัติที่วางอยู่บนพื้นฐานการผูกมัดทุกเรื่องขึ้นอยู่กับอำนาจรัฐ โดยหากมีการบังคับให้ประชาชนเข้าสู่การเคลื่อนไหวภาคเศรษฐกิจอย่างแท้จริงแล้ว ศัตรูยังจะสามารถคว่ำบาตรน้ำมัน และคว่ำบาตรหน่วยงานต่างๆของรัฐ แล้วจะก่อความเสียหายแก่ประชาชาติอิหร่านได้อีกหรือไม่???
ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี กล่าวย้ำว่า หากปัญหาต่างๆเหล่านี้เราสามารถค้นพบรากเหง้าและแนวทางในการแก้ไขปัญหาแล้ว ปัญหาก็จะได้รับการแก้ไขคลี่คลายลง และเราก็จะไม่มองศัตรูด้วยความรักความเอ็นดูและความสงสาร
ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลาม ได้ชี้ถึงประสิทธิภาพของมุมมองที่ลุ่มลึกและตรรกะในการบริหารจัดการกับความท้าทายต่างๆที่เปิดเผยและซ่อนเร้น ของบรรดาผู้สวาปามโลก อาทิเช่น ประเด็นนิวเคลียร์ ว่า คณะทีมเจรจานิวเคลียร์ที่ได้รับการเลือกจากประธานาธิบดีนั้น ล้วนแล้วเป็นบุคคลที่ดี เหมาะสม ซื่อสัตย์ เป็นที่ได้รับการยอมรับ และมีความเห็นอกเห็นใจ และเป็นผู้ที่มุ่งมั่นเพียรพยายามในการปฏิบัติหน้าที่ ทว่า แม้นจะมีบุคลากรที่ดีเช่นนี้ แต่ข้าพเจ้าก็ยังเป็นห่วง เพราะฝ่ายตรงกันข้ามเป็นคนเจ้าเล่ห์ ฉลาดแกมโกง และหลอกลวง และมักจะแทงจากด้านหลัง
ท่านผู้นำสูงสุด ได้ชี้ถึง ข้อผิดพลาดประการหนึ่งที่ว่าบุคคลที่มีอำนาจ ไม่ต้องอาศัยการใช้เล่ห์เหลี่ยม ว่า บางคนอาจจะคิดว่า อเมริกาที่เป็นมหาอำนาจยักษ์ใหญ่ทางการเมือง เศรษฐกิจ การทหาร ไม่มีคามจำเป็นอีกแล้วที่จะใช้เล่ห์เหลี่ยมและกลลวง ทว่าในภาพลักษณ์ในวันนี้ อเมริกามีความจำเป็นอย่างมากในการใช้เล่ห์เหลี่ยมและกลลวง และในวันนี้พวกเขาก็ได้ปฏิบัติเช่นนี้แล้ว ซึ่งนี่คือความจริงที่เรากังวล
ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ได้ชี้ถึงคำพูดที่อ่อนแอและน่าขยะแขยงของอเมริกาในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาและช่วงวันเวลาล่าสุด ว่า ข้าสมุนของยิวไซออนิสต์ได้พูดในที่นั้นว่า เจ้าหน้าที่ของอเมริกาเพื่อให้ตนเองถอนตัวจากสิ่งเหล่านี้ จึงพูดในลักษณะต่างๆนานา แต่ทว่าในเนื้อหาที่พูดมานั้น ก็ยังคงใส่ร้ายป้ายสีอิหร่านว่าเป็นผู้ให้การสนับสนุนกลุ่มก่อการร้ายเหมือนเดิม ซึ่งคำพูดเช่นนี้มันน่าหัวเราะสิ้นดี
ท่านผู้นำสูงสุด กล่าวเสริมว่า อเมริกาและพันธมิตรในเขตภูมิภาค ได้สร้างกลุ่มผู้ก่อการร้ายผู้สกปรกชั่วร้ายสามานย์ เช่น “ไอซิส” อีกทั้งให้การสนับสนุนอีกด้วย แล้วจากนั้นหันกลับมาใส่ร้ายป้ายสีประชาชาติอิหร่านและระบอบอิสลามว่าเป็นผู้ให้การสนับสนุนกลุ่มก่อการร้ายดังกล่าว
ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลาม ได้ระลึกถึงการสนับสนุนของอเมริกาที่มีต่อรัฐเถื่อนไซออนิสต์ ว่า วอชิงตันให้การสนับสนุนอย่างเป็นทางการแก่รัฐบาลผู้ก่อการร้ายที่มีชื่อเสียงในการก่อสิ่งชั่วร้ายที่น่าเกลียดที่สุด แล้วจากนั้นก็ได้ใส่ร้ายป้ายสีสาธารณรัฐอิสลามแทน
ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลาม ได้ชี้ถึง จดหมายล่าสุดของสภาคองเกรสอเมริกา ที่มันส่งสัญญาณถึงการล่มสลายด้านศีลธรรมการเมืองและระบอบของอเมริกา ว่า ทุกชาติในโลกจะยอมรับในกฎระเบียบสากล และหลังจากเปลี่ยนรัฐบาลชุดใหม่ก็จะมุ่งมั่นให้การยอมรับในกฎระเบียบสากลดังกล่าว แต่สภาคองเกรสของอเมริกา ได้ประกาศอย่างเป็นทางการว่า หากรัฐบาลชุดนี้(รัฐบาลโอบามา)หมดวาระลง ข้อยอมรับของชุดเก่าเป็นอันต้องตกไปโมฆะ และนี่คือจุดล่มสลายด้านศีลธรรมการเมืองและการล่มสลายของระบอบอเมริกาไม่ใช่หรือ?
ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี กล่าวเสริมว่า เจ้าหน้าที่ของสาธารณรัฐอิสลามมีความชำนาญการในหน้าที่ของตน และรู้ด้วยว่าหากการเจรจาบรรลุข้อตกลงแล้ว ควรจะปฏิบัติเช่นไร ที่รัฐบาลอเมริกาไม่สามารถที่จะตอบโต้ภายหลัง
ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลาม ยังได้รำลึกถึงมัรฮูม อยาตุลลอฮ์ มะฮ์ดาวี กะนี ซึ่งท่านมัรฮูม เป็นผู้รู้ที่ปฏิบัติตน และมีการเพียรพยายามที่ทรงประสิทธิภาพที่สุด พร้อมกับวิงวอนให้พระองค์ทรงประทานความเมตตา ความมัฆฟีรอฮ์ให้กับดงวิญญาณของท่านมัรฮูมด้วยเถิด
ก่อนที่ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลามจะกล่าวปราศรัย อยาตุลลอฮ์ ยัซดี ประธานสภาผู้ชำนาญการสูงสุด คนใหม่ ได้กล่าวสรุปรายงานการประชุมสภาครั้งที่สิบเจ็ดให้กับท่านผู้นำสูงสุดได้รับทราบ