สำนักผู้นำสูงสุดซัยยิด อาลี คาเมเนอี

ประชาชนจากแคว้นอาเซอร์ไบจารตะวันออก เข้าพบท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลาม

เมื่อช่วงเช้าวันพุธที่ผ่านมา

เมื่อช่วงเช้าวันพุธที่ผ่านมา พี่น้องประชาชนนับพันคน  จากแคว้นอาเซอร์ไบจารตะวันออก เข้าพบท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ผู้นำการปฏิวัติอิสลาม   โดยท่านผู้นำสูงสุด ได้กล่าวชื่นชมและขอบคุณอย่างล้นเหลือต่อประชาชาติอิหร่านที่ออกมาร่วมเดินประท้วงอย่างยิ่งใหญ่ในวันที่ 22   บะห์มัน ปีนี้   นอกจากนั้นในการปราศรัยครั้งนี้ ท่านยังได้อธิบายถึงเงื่อนไขของเศรษฐกิจของประเทศ แนวทางในการแก้ไขปัญหา โดยเฉพาะความจำเป็นในการดำเนินการตามนโยบายเศรษฐกิจแบบยั่งยืน   พร้อมกับกล่าวชี้ถึง กลลวงเหล่เหลี่ยมและเงื่อนไขต่างๆของอเมริกา และการคว่ำบาตรของยุโรปว่า   ประชาชาติอิหร่านไดสำแดงอยู่เสมอว่า ประชาชาตินี้มีจิตวิญญาณที่ทรงพลัง และในประเด็นการคว่ำบาตรนั้น ประชาชาติอิหร่านก็จะสามารถทำลายและก้าวพ้นการคว่ำบาตรนี้ได้อย่างแน่นอน

ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ได้ชี้ถึง การรายงานที่ละเอียด แม่นย้ำ โดยเฉพาะการเดินประท้วงในวันที่ 22   บะห์มัน ที่มีพี่น้องประชาชนออกมาเดินประท้วงอย่างยิ่งใหญ่ในปีนี้ ว่า   ข้าพเจ้าไม่มีคำพูดใดๆที่สามารถจะเอื้อนเอ่ยในการชื่นชมและขอบคุณประชาชาติอิหร่านได้ จากการเดินประท้วงในปีนี้

ท่านผู้นำสูงสุด ยังได้ชี้ถึงสภาพอากาศที่เหน็บหนาวในบางเขตพื้นที่ อีกทั้งพายุทะเลทรายในอะห์วาซและคูซิสตาน ในวันเดินประท้วงว่า ในสภาพเงื่อนไขเช่นนี้  และการปฏิวัติอิสลามที่ผ่านพ้นเข้าสู่ปีที่ 36   กระนั้นก็ตามการเข้าร่วมของประชาชาติอิหร่านในการเดินประท้วงก็ยิ่งมีความยิ่งใหญ่มากขึ้น และสิ่งนี้ไม่อาจหาได้ที่ไหนในโลกนี้

 ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลาม  อธิบายสาเหตุแห่งความยิ่งใหญ่ในการเดินประท้วงวันที่ 22   บะห์มัน  ว่า   เพราะการปรากฏตัวและการเข้าร่วมของพี่น้องประชาชนในเวทีนี้และการมอบหมายการงานให้กับพี่น้องประชาชนนั้นเอง    พร้อมกับกล่าวย้ำว่า ในประเด็นเรื่องของประเทศ ทุกครั้งเมื่อมีพี่น้องประชาชนเข้าร่วมอย่างเนืองแน่น  เราก็จะสามารถเห็นสิ่งปาฏิหาริย์เช่นนี้ปรากฏอยู่เสมอ

ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ได้อธิบายโดยรวมในกฎทั่วไปของเรื่องเศรษฐกิจ  และกล่าวย้ำถึง ความจำเป็นในการเข้าร่วมของพี่น้องประชาชนในการวางแผนในภาคส่วนเศรษฐกิจ และการใช้ประโยชน์จากศักยภาพของประชาชน  โดยอธิบายปัจจัยเหตุผลและอุปสรรค์ปัญหาเศรษฐกิจ  พร้อมกับกล่าวย้ำว่า  ปัญหาหนึ่งที่สำคัญ คือ การวางแผนของมหาอำนาจหลังจากสงครามแปดปี เพื่อสกัดกั้นไม่ให้อิหร่านกลายเป็นขั้วอำนาจทางเศรษฐกิจในภูมิภาคและระดับโลก

ท่านผู้นำสูงสุด กล่าวเสริมว่า   ตะวันตกโดยเฉพาะอเมริกา  ได้มีการวางแผนและใช้ทุกรูปแบบในการทำลายแผนการเคลื่อนไหวทางเศรษฐกิจอันยิ่งใหญ่ของอิหร่าน ที่มีต่อประเทศในภูมิภาค อีกทั้งยังได้กีดกั้นอิหร่านให้ออกไปจากเส้นทางในการเคลื่อนย้ายน้ำมัน แก็ส  การขนส่งภาคพื้นดิน ทางอากาศและเครือข่ายเทคโนโลยีสังคมออนไลน์  และได้เริ่มคว่ำบาตรแบบไร้เสียงมาหลายปีมาแล้วก่อนประเด็นเรื่องนิวเคลียร์เสียอีก  และการเผชิญหน้าทางเศรษฐกิจเช่นนี้ก็ยังคงดำเนินการอยู่จนถึงวันนี้

ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลาม  ชี้ว่า ด้วยประการเหล่านี้ ในการวิเคราะห์เงื่อนไขและอุปสรรค์ปัญหาเศรษฐกิจของประเทศ  อย่าได้ละเลยในแผนการของศัตรู โดยเฉพาะอเมริกาและชาติยุโรป เป็นอันขาด 

ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ย้ำถึง การเผชิญหน้ากับแผนการของผู้ประสงค์ร้ายนั้น ควรที่จะมีความมุ่งมั่นและพยายามในลักษณะที่ว่า การโจมตีของศัตรูนั้นจะไม่มีผลใดๆ หรืออาจส่งกระทบน้อยที่สุดให้ได้   พร้อมกับกล่าวเสริมว่า  นอกเหนือจากการวางแผนอย่างต่อเนื่องและแพร่หลายของแนวรบฝ่ายผู้อหังการแล้ว ปัญหาเศรษฐกิจของประเทศก็ต้องพบเจอกับสองอุปสรรค์ที่ใหญ่โต คือ “การยึดติดกับน้ำมัน” และ “การยึดติดกับภาครัฐ” จนสร้างความยุ่งยากลำบากอยู่เสมอให้กับเรา  

ท่านผู้นำสูงสุดถือว่า  การขายน้ำมันดิบ การใช้ประโยชน์จากสิ่งนี้ในสถานการณ์ปัจจุบันภายในประเทศ และการไม่ใช้ผลิตภัณฑ์อย่างกว้างขวาง  ก็เกิดจากมูลค่าราคาน้ำมันเพิ่ม อันเป็นมรดกที่ชั่วร้ายของระบอบทรราชและเป็นความเสียหายอันใหญ่หลวงที่ไม่อาจทดแทนได้  และกล่าวเสริมว่า นี่คือวิธีที่ง่ายที่สุดในการได้เงินมา ซึ่งเจ้าหน้าที่บางคนได้เลือกใช้วิธีการดังกล่าวในห้วงเวลาที่ยาวนานมาแล้ว ในการใช้จ่ายเงินอย่างง่ายดาย 

ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลามได้ชี้ถึงในประเด็นปัญหา การยึดติดอำนาจทางเศรษฐกิจของประเทศ  และย้ำถึงการประกาศนโยบายหลักมาตรา ที่ 44    ในช่วงหลายปีก่อนหน้านี้ และการกล่าวย้ำหลายต่อหลายครั้งให้มีการปฏิบัติตามนโยบายดังกล่าวว่า   บรรดาเจ้าหน้าที่ก็ได้ใช้คามเพียรพยายามมาแล้ว แต่ถือว่ายังไม่พอ ซึ่งควรที่จะมีการฮึกขึ้นมาด้วยการเป่าจิตวิญญาณครั้งใหม่เพื่อความพยายามด้านเศรษฐกิจให้ถึงที่สุด  

ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ถือว่าวันที่  29  บะห์มัน เป็นวันครบรอบการประกาศใช้นโยบายรวมเศรษฐกิจแบบยั่งยืนครั้งแรก  และกล่าวย้ำว่า  เศรษฐกิจแบบยั่งยืนสำหรับประเทศนั้น เป็นสิ่งที่จำเป็นยิ่งทั้งในสถานการณ์ที่ถูกคว่ำบาตรและสถานการณ์ปรกติ  ซึ่งหมายความว่า โครงการสร้างเศรษฐกิจประเทศต้องมีการวางรากฐานในลักษณะที่ว่าไม่ว่าจะเกิดเหตุการณ์สั่นคลอนใดๆจากเศรษฐกิจโลก ก็ไม่อาจส่งผลกระทบต่อเราได้

ท่านผู้นำสูงสุดกล่าวเสริมว่า   หากระบบโครงสร้างเศรษฐกิจของประเทศ วางอยู่บนพื้นฐานความสามารถ ศักยภาพของประชาชนและการผลิตภายในประเทศ อย่างมั่นคงแล้ว  เราก็จะไม่ต้องทุกข์โศกกับการถูกคว่ำบาตรและการปรับลดราคาน้ำมันอีกทั้งก็จะไม่ต้องวิตกกังวลอยู่เช่นนี้

 ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลาม ถือว่า หนึ่งในปัจจัยหลักที่สำคัญของการหลุดพ้นจากการพึ่งพาเศรษฐกิจน้ำมันคือ การตัดงบประมาณรายได้ของประเทศจากการค้าน้ำมัน  พร้อมกับกล่าวเสริมว่า ควรที่จะต้องไปถึงจุดหนึ่ง และข้าพเจ้าเชื่อว่า งานที่มีความหนักอึ้งเช่นนี้ สามารถที่จะทำได้ด้วยความเพียรพยายาม ความมุ่งมั่น ความเชื่อมั่นต่อประชาชน บรรดาเยาวชนและทุนภายใน และสิ่งที่เหนือกว่านั้น คือ การเชื่อมั่นในความช่วยเหลือจากพระองค์อัลลอฮ์(ซบ) 

ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ได้ย้ำในเรื่องนี้ว่า หนึ่งในแนวทางในการหลุดพ้นจากการพึ่งพางบประมาณรายได้ของประเทศจากการค้าน้ำมัน  คือ การพึ่งพารายได้จากเงินภาษีการผลิตและการค้า   พร้อมกับกล่าวเสริมว่า  นักลงทุนรายใหญ่บางคน หลีกเลี่ยงและหลบหนีการจ่ายภาษี ซึ่งสิ่งนี้ถือเป็นการกระทำผิดประเภทหนึ่ง เนื่องจากทำให้ประเทศต้องพึ่งพางบประมาณรายได้จากการค้าน้ำมันมากขึ้น ซึ่งเป็นการก่อให้เกิดอุปสรรค์ปัญหาต่างๆเพิ่มขึ้นอย่างมากมาย

ท่านผู้นำสูงสุดถือว่า การจ่ายภาษีถือเป็นสิ่งที่สำคัญยิ่ง เพราะเป็นข้อบังคับหนึ่งของบทบัญญัติทางศาสนา  พร้อมกับกล่าวเสริมว่า  บรรดาเจ้าหน้าที่เก็บภาษีได้มีการวางแผนและปฏิบัติได้ดีแล้วในการรวบรวมเก็บภาษีรายได้จากการค้าและการผลิต และด้วยการช่วยเหลือจากประชาชนก็ควรจะรีบดำเนินการให้เร็วที่สุด 

ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลามได้ย้ำว่า หนึ่งในประเด็นหลักที่สำคัญในการแก้ไขอุปสรรค์ปัญหาทางเศรษฐกิจ คือ การยกระดับและเพิ่มการผลิต   โดยกล่าวในเรื่องนี้ว่า การยกระดับและเพิ่มการผลิต    หมายถึง การลดต้นทุนการผลิตและยกระดับและปรับปรุงคุณภาพ 

ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ถือว่า การวางแผนที่ดีและถูกต้องเหมาะสมเพื่อใช้ประโยชน์อย่างเต็มที่จากศักยภาพต่างๆและทรัพยากรภายในที่มีอยู่ ก็เป็นอีกแนวทางหนึ่งในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจของประเทศ  และจากนั้นท่านผู้นำสูงสุดก็ได้ชี้แนะบางประเด็นที่สำคัญ

การใช้ผลิตภัณฑ์ภายใน เป็นคำชี้แนะประการแรกจากท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลาม  และกล่าวว่า  ประชาชนและทุกคนที่มีความรักต่ออิหร่านและอนาคตของประเทศชาติ และหน่วยงานของรัฐควรเลิกใช้สิ้นค้าจากต่างประเทศที่เป็นสิ้นค้าคล้ายคลึงกับที่มีอยู่แล้วในประเทศ  

ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ยังได้อธิบายในประเด็น  ที่ว่า จำเป็นที่จะหลีกเลี่ยงการฟุ่มเฟือย ป้องกันความเสื่อมเสียของทรัพยากรสาธารณะ  อาศัยการพึ่งพาบริษัทแม่ และปราบปรามการลักลอบค้าของเถื่อนอย่างจริงจัง  พร้อมกับกล่าวเสริมว่า  เพื่อแก้ไขอุปสรรค์ปัญหาเศรษฐกิจ จำต้องปฏิบัติในสิ่งต่างๆเหล่านี้ให้ได้ 

ท่านผู้นำสูงสุด กล่าวเสริมว่า ในช่วงหลายปีมานี้ ข้าพเจ้าได้กล่าวเตือนหลายต่อหลายครั้งมาแล้ว และก็ได้มีความเพียรพยายามในการปฏิบัติมากขึ้น  ทว่า คำตักเตือนเหล่านี้ถือว่ายังไม่เพียงพอและความพยายามของบรรดาเจ้าหน้าที่เหล่านี้ก็ยังไม่เพียงพอเช่นกัน

ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลาม ได้ย้ำถึง ความพยายามและความมุ่งมั่นที่มากไปกว่านี้และการขอความช่วยเหลือจากความสามารถและศักยภาพของประชาชน ว่า  เราสามารถที่จะยืนหยัดต้านทานเสียงอึกกะทึกครึกโครมและการกระทำของศัตรูในประเด็นการคว่ำบาตร ได้  อีกทั้งสามารถทำให้เป้าหมายของพวกเขาล้มเหลวได้

ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี กล่าวย้ำว่า  หากเราไม่ปฏิบัติและไม่พยายามอย่างเต็มที่ในด้านเศรษฐกิจ เราก็จะเห็นผลลัพธ์ในประเด็นนิวเคลียร์ตามที่ศัตรูได้กำหนดเงื่อนไขต่อเรา  จากนั้นเมื่อเขากล่าวว่า  หากไม่ยอมรับเงื่อนไข เขาก็จะเดินหน้าคว่ำบาตรเราต่อไป !!! 

ท่านผู้นำสูงสุด ได้ย้ำถึง แนวรบของศัตรูที่จะใช้การคว่ำบาตรเป็นอาวุธให้มากที่สุดในการคว่ำบาตรอิหร่าน ว่า  เป้าหมายหลักของพวกเขาจากการกระทำสิ่งนี้ ก็เพื่อดูถูกเหยียดหยามประชาชาติอิหร่านและหยุดการเคลื่อนไหวอันยิ่งใหญ่ของประชาชนและระบอบอิสลามไปสู่อารยะธรรมใหม่ของอิสลามต่างหาก   และข้าพเจ้าเชื่อมั่นว่า ถ้าหากปัญหานิวเคลียร์ดำเนินไปอย่างที่พวกเขากำลังบงการอยู่ในขณะนี้แล้ว การคว่ำบาตรต่างๆก็จะยังไม่ถูกยกเลิก เนื่องจากพวกเขาต่อต้านหลักการและรากฐานของการปฏิวัติ 

ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลาม ได้ย้ำถึงความจำเป็นในการใช้ประโยชน์จากศักยภาพสูงของเหล่าเยาวชนโดยเฉพาะบรรดานักศึกษาที่เป็นสมาชิกของบาสิจญ์ในประเด็นของประเทศและการก้าวบรรลุซึ่งอุดมการณ์และและเป้าหมายของการปฏิวัติ  จากการถูกข่มขวัญและคุกคามจากรัฐบาลผู้อหังการเช่นอเมริกา และการคว่ำบาตรครั้งใหม่จากชาติยุโรป  ว่า หากวางอยู่บนพื้นฐานการคว่ำบาตร  ประชาชาติอิหร่านก็สามารถที่จะทำการคว่ำบาตรได้เช่นกัน และสิ่งนี้เราจะทำให้เห็น

ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี กล่าวเสริมว่า ประชาชาติอิหร่านมีความปรารถนาอันแรงกล้า  และสาธารณรัฐอิสลามก็เช่นกัน ในทุกๆประเด็นที่เข้ามา ก็จะสำแดงให้เห็นความมุ่งมั่นของตนอย่างแท้จริง

ท่านผู้นำสูงสุด ถือว่า การเผชิญหน้าต่อสู้กับกลุ่มก่อการร้ายไอซิส เป็นหนึ่งตัวอย่างในความปรารถนาอันแรงกล้าของอิหร่าน อีกทั้งยังได้ชี้ถึง การโกหกปลิ้นปล่อนและคามเจ้าเล่ห์ของอเมริกาและพันธมิตรร่วมในการเผชิญหน้าต่อสู้และปราบปรามกลุ่มก่อการร้ายไอซิส   ว่า  อเมริกาได้เขียนจดหมายยังกระทรวงต่างประเทศของเรา  โดยกล่าวว่า เราจะไม่ให้การสนับสนุนไอซิส  แต่ถัดจากนั้นไม่กี่วัน มีการแพร่ภาพการลำเลียงส่งอาวุธทางทหารของอเมริกาให้กับกลุ่มก่อการร้ายไอซิส

ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลาม ยังได้รำลึกครบรอบวีรกรรมของพี่น้องประชาชนชาวตับรีซ ในวันที่ 29    บะห์มัน ปี   1356    ซึ่งได้แสดงให้เห็นภาวะการเป็นผู้นำ การรู้จักเวลา การปฏิบัติการในช่วงเวลาที่เหมาะสม  ความกล้าหาญ และความศรัทธาอย่างแท้จริง   เหล่านี้อันเป็นหนึ่งในคุณลักษณะที่โดดเด่นของประชาชนชาวอาเซอร์ไบจารและตับรีซ ในห้วงเวลาต่างๆ  อีกทั้งยังได้ชื่นชมในบุคลิกภาพของอยาตุลลอฮ์ มุจญตะฮิด ชุชตารีย์ ในฐานะนักการศาสนาผู้เป็นนักต่อสู้และบาศีรัต 

ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ย้ำว่า ประชาชนคือเจ้าของหลักที่แท้จริงของการปฏิวัติและประเทศชาติ   และในช่วงท้าย ท่านได้กล่าวย้ำว่า ในอนาคตอันใกล้นี้ประชาชาติอิหร่านจะสามารถยืนหยัดอยู่บนจุดสูงส่งแห่งเกียรติยศและความภูมิใจอย่างแน่นอน  





700 /