สำนักผู้นำสูงสุดซัยยิด อาลี คาเมเนอี

บรรดาปัญญาชนหนุ่มสาวแห่งรั้วมหาลัยและตัวแทนโอลิมปิกวิชาการและมหกรรมวิชาการเข้าพบท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลาม

ความอยู่รอดของประเทศขึ้นอยู่กับการเสริมสร้างความรู้ทางวิทยาศาสตร์และเศรษฐกิจพื้นฐานมหาภาค

บรรดาปัญญาชนหนุ่มสาวแห่งรั้วมหาลัยและตัวแทนโอลิมปิกวิชาการและมหกรรมวิชาการเข้าพบท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลาม

ความอยู่รอดของประเทศขึ้นอยู่กับการเสริมสร้างความรู้ทางวิทยาศาสตร์และเศรษฐกิจพื้นฐานมหาภาค / การพึ่งพารายได้น้ำมันคือการมอบเศรษฐกิจของอิหร่านให้กับนักกำหนดนโยบายเศรษฐกิจมหาภาคระดับโลก    
เมื่อช่วงเช้าวันพุธที่ผ่านมา (22)  บรรดาปัญญาชนในมหาวิทยาลัยต่างๆ ตัวแทนผู้เข้าร่วมโอลิมปิกวิชาการและงานมหกรรมวิชาการในระดับนานาชาติและระดับประเทศนับร้อยคน เข้าพบท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ผู้นำการปฏิวัติอิสลาม  ซึ่งท่านผู้นำสูงสุด ได้เน้นย้ำถึง  ความจำเป็นที่จะต้องสร้างห่วงโซ่ที่สมบูรณ์ของเครือข่ายขนาดใหญ่ของการผลิตความรู้เชิงวิทยาศาสตร์ในมหาวิทยาลัยและศูนย์การวิจัยทางวิทยาศาสตร์  พร้อมกับกล่าวเสริมว่า อิหร่านจะต้องพึ่งพาทรัพยากรที่มีอยู่บนพื้นแผ่นดิน นั้นหมายถึง การบริหารสติปัญญา ความสามารถและศักยภาพของบรรดาเยาวชน และปัญญาชนในประเทศ ที่จะควบคุมความสามารถของเด็กและเยาวชนที่ยอดเยี่ยม  หาใช่การพึ่งพาอาศัยความผันผวนทรัพยากรใต้ดินและปิโตรเลียม 

ท่านผู้นำสูงสุด ถือว่า การพบปะกับ “บรรดาเยาวชนและปัญญาชนชั้นนำของประเทศ และผู้เป็นความหวังของประเทศในอนาคต” นั้น เป็นสิ่งที่หอมหวาน และได้กำชับสั่งสอนแก่บรรดาเยาวชนทั้งหลายว่า จงสร้างบ้านเกิดเมืองนอนที่เต็มไปด้วยความภาคภูมิใจแห่งมาตุภูมินี้ด้วยพลังทางความคิด ความมุ่งมั่นและความปรารถนาอันแรงกล้า ในลักษณะที่ว่าให้มันสอดคล้องกับประเทศและประวัติศาสตร์ที่เต็มไปด้วยความภาคภูมิใจ

ท่านผู้นำสูงสุด ได้เรียกร้องให้บรรดาปัญญาชน ทำการไตร่ตรอง และพินิจพิเคราะห์อย่างลุ่มลึกในประเด็น “รากฐานของปัญญาชนและความหมายที่แท้จริงของปัญญาชน”  และกล่าวเสริมว่า  ปัญญาชนมีคุณสมบัติที่พิเศษด้วยกันสามประการ  คือ  “สติปัญญาและพรสวรรค์” “ความมุ่งมั่นที่โดดเด่นในการศึกษา การทำงานและการเพรียรพยายาม” และ “มีกำลังใจอย่างน่าชื่นชมในการปฏิบัติและการยืนหยัด”  อันเป็นตัวชี้วัดของโลกทัศน์ที่มีความชาญฉลาด และมีวิทยปัญญาของคุณสมบัติเหล่านี้  ซึ่งทั้งหมดนั้นล้วนแล้วเป็นความโปรดปรานและและเป็นริซกีปัจจัยยังชีพจากพระผู้อภิบาลทั้งสิ้น
ท่านผู้นำสูงสุด ได้ชี้ถึงโองการในพระมหาคัมภีร์อัลกุรอาน กรณีการอินฟาก (ริซกี)ของพระผู้อภิบาลว่า  ริซกีแห่งวิทยาทานความรู้จำต้องมีการ(อินฟาก)ใช้ไปในแนวทางของพระองค์และเพื่อผลประโยชน์ในทิศทางที่ดีของปวงบ่าวของพระองค์  และนำมาใช้เพื่อประโยชน์ในปัจจุบันและอนาคตของ “สังคม ประเทศชาติและประชาชาติ” 

ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ชี้ถึงบรรดาปัญญาชนหนุ่มสาว ว่า  หากบรรดาปัญญาชนมีการอินฟากริซกีและมีการอินฟากความโปรดปรานต่างๆเหล่านี้ของพระผู้อภิบาล  แน่นอนยิ่งการฮิดายะห์ การชี้นำของพระผู้อภิบาลก็จะประสบแด่พวกท่าน  นั้นหมายความว่า ทั้งความชาญฉลาดของพวกท่านจะเพิ่มเป็นทวีคูณแล้ว พระผู้อภิบาลก็จะทรงชี้นำทางพวกท่านในเวทีอื่นๆอีกด้วย ซึ่งจะทำให้ความรู้ต่างๆของพวกท่านเป็นความรู้ที่เป็นเลิศและมีความจำเป็นอย่างแท้จริง 
ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลามได้ชี้ถึงอิทธิพลของชะฮีด ญัมรอน ในการพิทักษ์สงครามตนเองอันศักดิ์สิทธิ์ และชะฮีด ชะห์ริยาร์ ในด้านพลังงานนิวเคลียร์ ว่า ทั้งสองท่านคือสัญลักษณ์แห่งความหมายที่ชัดเจนของการอินฟากวิทยาทาน ความรู้ความชาญฉลาดให้กับสังคมและประเทศชาติ และเป็นกรณีตัวอย่างที่เด่นชัดที่สุดของการชี้นำของพระผู้อภิบาลที่มีต่อปัญญาชน” 

ท่านผู้นำสูงสุดได้ชี้ถึง ความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์ในหนึ่งทศวรรษที่ผ่านมา พร้อมกับถือว่า การเคลื่อนไหวทางวิทยาศาสตร์แบบก้าวกระโดดอย่างต่อเนื่องนั้นคือความต้องการอย่างแท้จริง  พร้อมกับกล่าวว่า   ตามที่สภาปฏิรูปวัฒนธรรมได้ออกกฎล่าสุด โดยเน้นย้ำว่า    การเคลื่อนไหวทางวิทยาศาสตร์นั้นอย่าได้หยุดชะงักลงเป็นอันขาดไม่ว่าจะกรณีใดๆ เพราะการหยุดชะงักจะเป็นเหตุให้เราต้องล้าหลัง  

ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลาม ได้ตั้งข้อสังเกตถึงการแข่งขันในเวทีระดับโลก  ในชนชาติและประเทศต่างๆที่มีเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วในด้านวิทยาศาสตร์ ว่า  แม้จะมีความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์อย่างรวดเร็วก็ตามที  แต่กระนั้นก็ตามความล้าหลังก็ยังมีอยู่อีกดาษดื่น ซึ่งอิหร่านเองก็ยังไม่ได้บรรลุสถานะที่เหมาะสมในด้านนี้เท่าที่ควร   ดังนั้นจึงมีความจำเป็นอย่างยิ่ง ที่จะต้องมีการเคลื่อนไหวและขับเคลื่อนด้านวิทยาศาสตร์ด้วยกับปัจจัยต่างๆที่จำเป็น รวมทั้ง การเสริมสร้างรากฐานที่มั่นคงของความรู้และเศรษฐกิจที่วางอยู่บนฐานความรู้อย่างต่อเนื่อง  

ท่านผู้นำสูงสุดถือว่า แนวทางในการช่วยเหลือประเทศชาติและเพื่ออนาคตที่สดใสของประเทศ นั้น ขึ้นอยู่กับการเสริมสร้างความเข้มแข็งทางวิทยาศาสตร์  พร้อมกับกล่าวเสริมว่า ตามที่ประธานมูลนิธิปัญญาชนได้กล่าวมานั้นถือเป็นสิ่งที่ถูกต้อง ที่ว่า ในด้านเศรษฐกิจนั้นก็ต้องพึ่งพาอาศัยแหล่งทรัพยากรใต้พื้นดิน   และในด้านการพัฒนาภูมิปัญญาก็เช่นกันที่ต้องการพึ่งพาการดึงดูดและการเคลื่อนไหวของบรรดาปัญญาชนเป็นหลัก  หากมิฉะนั้นประเทศชาติก็ไม่มีความก้าวหน้า และเจริญรุ่งเรืองได้ 
 ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ได้เปรียบเทียบ  การบริหารประเทศที่อยู่บนพื้นฐานของการขายทรัพยากรใต้ดินนั้น เหมือนดัง "เด็กร่ำรวยแห่งชาติ " พร้อมกับกล่าวเสริมว่า เด็กๆที่ร่ำรวยเหล่านี้ไม่รู้ถึงคุณค่าของเงินตรา  และมันจะใช้จ่ายในหนทางที่ไร้ประโยชน์ ซึ่งการบริหารประเทศที่อยู่บนพื้นฐานของการขายน้ำมันก็คล้ายกับเรื่องนี้ 

ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลามถือว่า ความเชื่อมั่นในการวางแผนเศรษฐกิจที่พึ่งพารายได้จากการขายน้ำมันนั้น คือการมอบเศรษฐกิจของอิหร่านให้กับนักกำหนดนโยบายเศรษฐกิจมหาภาคระดับโลก    พร้อมกับกล่าวชี้ถึง ความผันผวนของราคาน้ำมันระหว่างประเทศ ว่า  ประเทศที่มีการวางแผนนโยบายเศรษฐกิจของตนในลักษณะเช่นนี้นั้น อนาคตของเขาเป็นที่ชัดเจนว่าจะจบลงเช่นไร  

ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ได้อ้างอิงถึงข้อเท็จจริงที่ชัดเจนในเรื่องนี้ว่า แทนที่อิหร่านจะพึ่งพาอาศัยรายได้จากน้ำมันนั้น ควรที่จะหันมาพึ่งพาอาศัยพลังงานภายในและทรัพยากรใต้พื้นดินแทน นั้นหมายถึง การบริหาร  “สติปัญญา  ความสามารถ และศักยภาพของบรรดาเยาวชน และการผลิตความรู้และวิทยาศาสตร์”  และหากมันเป็นเช่นนี้แล้ว  ก็จะไม่มีมหาอำนาจใดในโลกจะมาเล่นกับเศรษฐกิจอิหร่านได้เป็นอันขาด
  
ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลาม ได้สั่งสอนในประเด็น บทความวิทยาศาสตร์ที่ได้ผลิตมาแล้วนั้น ควรจะมีการบันทึกให้เป็นนวัตกรรมและต้องคำนึงถึงคามต้องการภายในประเทศอีกด้วย

ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ถือว่า ความมุ่งมั่นเพื่อความเป็นเลิศทางวิทยาศาสตร์คือความรับผิดชอบของทุกหน่วยงานและทุกกระทรวง พร้อมกับกล่าวเสริมว่า การกำหนดแผนที่ทางวิทยาศาสตร์แบบองค์รวมของประเทศนั้นจะสามารถกำหนดภาระหน้าที่ความรับผิดชอบของทุกหน่วยงานในด้านนี้ได้เป็นอย่างดี 

ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลามได้สรุปคำบรรยายของท่านในส่วนนี้   ว่า  จำต้องมีความพยายามในการวางแผน  ทุกหน่วยงานเสมือนเป็นห่วงโซ่ที่สมบูรณ์แบบและเป็นเครือขายขนาดใหญ่ในการผลิตวิทยาศาสตร์ ซึ่งทุกหน่วยงานและทุกองค์กรเสมือนเป็นสิ่งเติมเต็มความสมบูรณ์แบบซึ่งกันและกัน ทั้งเป็นการทำงานร่วมกันอีกด้วย  

ท่านผู้นำสูงสุด ได้กำชับและชี้แนะให้กับบรรดาเยาวชนปัญญาชนในการเสริมสร้างความสัมพันธ์กับพระผู้อภิบาลว่า  หัวใจที่สะอาดบริสุทธิ์ของพวกท่านที่เป็นเยาวชนทั้งหลายนั้น  เป็นปัจจัยเหตุที่ทรงค่าในการดึงดูดความพึงพอพระทัยและเพิ่มพูนความโปรดปรานของพระผู้อภิบาลได้อย่างดีเยี่ยม 


700 /