ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลาม ออกจากโรงพยาบาลแล้ว
ขอขอบคุณอย่างล้นเหลือในความรัก ความห่วงใยและเอื้ออาทรของประชาชนทุกหมู่เหล่า บุคคลสำคัญ และบรรดาผู้บริหารประเทศ/ รายละเอียดข้อเรียกร้องในความร่วมมือของอเมริกาจากอิหร่านในประเด็นเรื่องของดาอิช และอิหร่านปัดปฏิเสธอย่างชัดแจ้ง / หลังดาอิชเดาะ เพราะกองกำลังของประชาชนชาวอิรัก หาใช่น้ำมืออเมริกา / อเมริกาแสวงหาข้ออ้างในการทิ้งระเบิดในพื้นที่ต่างๆในอีรักและซีเรีย
หลังจากท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ผู้นำสูงสุดของปฏิวัติอิสลาม สิ้นสุดการรักษาตัวในโรงพยาบาลชะฮีด ราญาอีย์ และอาการป่วยได้หายอย่างสมบูรณ์แล้ว ในช่วงเช้าวันจันทร์ (15 ก.ย.) ก่อนออกจากโรงพยาบาล ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลามได้ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวของสำนักข่าวกลาง ซึ่งท่านได้แสดงความพึงพอใจต่อการผ่าตัดและช่วงเวลาของการรักษาตัว ซึ่งท่านกล่าวว่า
ตอนนี้ข้าพเจ้ากำลังจะเดินทางกลับบ้าน พร้อมกับสุขภาพร่างกายที่สมบูรณ์แข็งแรงและร่าเริงเบิกบานใจ แต่การแสดงความรัก ความห่วงใยและความเอื้ออาทรอย่างท่วมท้นที่ข้าพเจ้าได้รับในช่วงหลายวันที่ผ่านมานั้น ทำให้ข้าพเจ้ารู้สึกละอายและรู้สึกถึงภาระที่หนักอึ้งที่อยู่บนบ่าของข้าพเจ้า
ท่านผู้นำสูงสุดได้แสดงความขอบคุณและชื่นชมเป็นพิเศษต่อความรักอย่างมากมายเหลือล้นที่ประชาชนทุกหมู่เหล่าได้มอบให้แก่ท่าน รวมทั้งบรรดามัรเญีอ์ตักลีด นักวิชาการศาสนา บุคคลสำคัญ บรรดาผู้บริหารประเทศ นักการเมือง ศิลปินและนักกีฬา พร้อมกับเสริมว่า นอกจากการแสดงความรักของประชาชนในประเทศแล้ว ประชาชนของประเทศอื่นๆ ก็ได้แสดงความกรุณาอย่างมากมาย ซึ่งเป็นเครื่องแสดงให้เห็นถึงสิ่งที่ข้าพเจ้าได้เคยเน้นย้ำอยู่เสมอว่า ประเทศอิหร่านนั้นมีแนวทางการปฏิบัติที่ลึกซึ้งท่ามกลางประเทศอื่นๆ
ท่านผู้นำสูงสุดของการปฏิวัติอิสลามได้ย้ำว่า เราจะไม่พบเห็นระบอบหรือประเทศใดที่จะมีสายสัมพันธ์และความผูกพันต่างๆ ทางด้านอารมณ์ความรู้สึก ความเชื่อและความศรัทธา นอกพรมแดนกับประเทศอื่นๆ ได้มากถึงเพียงนี้
ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ยังได้ขอบคุณอย่างมากต่อบรรดาทีมแพทย์และพยาบาลของโรงพยาบาลที่ให้การดูแลท่าน พร้อมกับกล่าวว่า เมื่อใดก็ตามที่มนุษย์ได้เห็นถึงความรู้ที่สูงส่ง ความสามารถและความเชี่ยวชาญของบรรดาแพทย์และบุคลากรทางการแพทย์และพยาบาลของประเทศ เขาย่อมที่จะภาคภูมิใจกับความมั่งคั่งอันยิ่งใหญ่ทางด้านบุคลากรในภาคส่วนที่เกี่ยวกับสาธารณสุข ซึ่งเป็นหนึ่งในส่วนที่เป็นพื้นฐานและมีความสำคัญยิ่งในชีวิตของประชาชนและสังคม
ในส่วนถัดไปของการให้สัมภาษณ์ ท่านยังได้หยิบยกถึงประเด็นหนึ่ง โดยกล่าวว่า ในช่วงหลายวันที่ข้าพเจ้าพักรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล การพักผ่อนหย่อนใจอีกประการหนึ่งของข้าพเจ้านั่นก็คือ การรับฟังคำพูดต่างๆ ของเจ้าหน้าที่รัฐบาลอเมริกันเกี่ยวกับประเด็นการต่อสู้กับกลุ่มดาอิช (ไอซิส)!!! ซึ่งเป็นบ่อเกิดของความผ่อนคลายทางอารมณ์อย่างแท้จริง
ท่านผู้นำสูงสุดของการปฏิวัติอิสลามถือว่า คำแถลงต่างๆ ของบรรดาเจ้าหน้าที่อเมริกันเกี่ยวกับการต่อสู้กับกลุ่มดาอิช นั้น เป็นเรื่องไร้สาระ ไร้แก่นสารและมีนัยยะแอบแฝง และท่านได้ชี้ถึงคำพูดของรัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศและโฆษกกระทรวงต่างประเทศของอเมริกาที่ได้ประกาศอย่างชัดเจนว่า พวกเขาจะไม่เชิญอิหร่านเข้าร่วมในการต่อสู้กับกับกลุ่มดาอิช พร้อมกับกล่าวเสริมว่า การที่อเมริกาจะสิ้นหวังจากการเรียกร้องเชิญชวนอิหร่านเพื่อให้เข้าร่วมในการกระทำที่ผิดๆ และจอมปลอมร่วมกันนั้น เป็นบ่อเกิดของความภาคภูมิใจของเรา และเราไม่เห็นว่าจะมีสิ่งใดที่จะเป็นความภาคภูมิใจของเรามากไปกว่าสิ่งนี้
ต่อจากนั้น เพื่อที่จะชี้ให้เห็นถึงความโป้ปดมดเท็จของอเมริกาในการต่อสู้กับกลุ่มดาอิช ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ได้อธิบายถึงรายละเอียดต่างๆ ที่อยู่เบื้องหลังของเรื่องราวดังกล่าวนี้
ท่านกล่าวว่า ในช่วงวันแรกๆ ที่กลุ่มดาอิช ทำการโจมตีอิรักอย่างหนักหน่วง ทูตอเมริกาในอิรัก ได้เรียกร้องจากทูตของเราในอิรักว่า อิหร่านและอเมริกาควรจะจัดให้มีการประชุมเพื่อเจรจาหารือและประสานงานกันเกี่ยวกับกรณีของกลุ่มอิช
ท่านผู้นำสูงสุดของการปฏิวัติอิสลาม กล่าวว่า ทูตของเราในอิรักก็ได้สะท้อนเรื่องนี้กลับเข้ามาในประเทศ ซึ่งเจ้าหน้าที่บางคนก็ไม่ขัดข้องกับการประชุมนี้ แต่ข้าพเจ้าไม่เห็นด้วย และข้าพเจ้าได้กล่าวว่า ในกรณีนี้เราจะไม่ร่วมมือกับอเมริกาเป็นอันขาด เนื่องจากว่าอเมริกานั้นมีเจตนาและมือที่สกปรก แล้วจะเป็นไปได้อย่างไรที่เราจะให้ความร่วมมือกับอเมริกาในสถานการณ์เช่นนี้
ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ชี้ไปที่คำพูดของรัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศของอเมริกาในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมาที่ได้ประกาศว่าเราจะไม่เชิญอิหร่านสำหรับการเข้าร่วมเป็นพันธมิตรในการจัดการกับกลุ่มดาอิช
ท่านผู้นำสูงสุดได้กล่าวย้ำว่า รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศของอเมริกาผู้นี้แหละที่ตัวเขาเองได้เรียกร้องจากดร.ซอรีฟ (รัฐมนตรีต่างประเทศของอิหร่าน) ว่า จงมาให้ความร่วมมือกับเราในประเด็นเกี่ยวกับกลุ่มดาอิช แต่ดร.ซอรีฟ ได้ปัดปฏิเสธคำขอร้องของเขา
ท่านผู้นำสูงสุดเสริมว่า แม้กระทั่งรองรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศของอเมริกาเอง ซึ่งเป็นผู้หญิงคนหนึ่งและทุกคนรู้จักเธอดี ในการเจรจากับนายอารักจี เธอได้กล่าวย้ำคำขอร้องนี้ซ้ำอีกครั้งหนึ่ง แต่นายอารักจีก็ได้ปฏิเสธคำขอร้องของเขาเช่นเดียวกัน
ท่านผู้นำสูงสุดของการปฏิวัติอิสลาม ได้ชี้ถึงการคัดค้านของสาธารณรัฐอิสลามแห่งอิหร่าน ในการที่จะให้ความร่วมมือกับอเมริกาในการต่อสู้กับกลุ่มดาอิช โดยกล่าวว่า มาตอนนี้พวกเขากำลังพูดโกหกว่า เราจะไม่เชิญอิหร่านเข้ามามีส่วนร่วมในความเป็นพันธมิตร ในขณะที่อิหร่านได้ประกาศถึงการคัดค้านของตนเองตั้งแต่แรกแล้วที่จะไม่เข้าเป็นแนวร่วมกับกลุ่มดังกล่าว
ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี กล่าวย้ำว่า ก่อนหน้านี้อเมริกาก็เคยโหมกระพืออย่างมากมายที่จะจัดตั้งแนวร่วมต่อต้านประเทศซีเรีย โดยการเข้าร่วมของประเทศเหล่านี้ แต่พวกเขาก็ไม่สามารถทำอะไรได้ และในกรณีของอิรักสถานการณ์ก็จะเป็นแบบเดียวกันนี้
ท่านได้ย้ำถึงประเด็นที่ว่า อเมริกาไม่มีความตั้งใจจริงที่จะจัดการอย่างจริงจังกับกลุ่มดาอิช พร้อมกับกล่าวเสริมว่า ตัวเอมริกาเอง หรือแม้แต่กลุ่มดาอิชเอง พวกเขารู้เป็นอย่างดีว่า การเคลื่อนไหวในการปฏิบัติการที่ทำให้หลังของกลุ่มดาอิชเดาะนั้น ไม่ใช่การดำเนินการของอเมริกา แต่เป็นการดำเนินการของกองกำลังต่างๆ ของประชาชนและกองทัพของอิรัก โดยที่พวกเขาเรียนรู้การต่อสู้กับกลุ่มดาอิชเป็นอย่างดี และได้สร้างความเสียหายอย่างรุนแรงต่อกลุ่มนี้
ท่านผู้นำสูงสุดของการปฏิวัติอิสลามได้ย้ำถึงประเด็นที่ว่า การโจมตีของกองกำลังประชาชนและกองทัพของอิรักต่อกลุ่มดาอิชนั้นจะยังคงดำเนินต่อไป พร้อมกับกล่าวว่า ความจริงก็คือว่า อเมริกากำลังมองหาข้ออ้างอย่างหนึ่งที่จะทำสิ่งเดียวกันกับที่พวกเขากำลังกระทำในปากีสถาน แม้จะมีรัฐบาลที่มั่นคงและกองทัพที่แข็งแกร่ง พวกเขาจะเข้าสู่ดินแดนของประเทศนี้โดยปราศจากการขออนุญาต พวกเขาจะทิ้งระเบิดในจุดต่างๆ โดยจะกระทำทั้งในอิรักและซีเรีย
ท่านผู้นำสูงสุดได้ย้ำว่า ชาวอเมริกันรู้ดีว่า หากพวกเขากระทำเช่นนี้ ปัญหาต่างๆ เช่นเดียวกับที่เกิดขึ้นกับพวกเขาในอิรักในช่วงสิบปีที่ผ่านมาก็จะเกิดขึ้นกับพวกเขาอีกครั้งหนึ่ง
ท่านผู้นำสูงสุดของการปฏิวัติอิสลาม ได้กล่าวในตอนท้ายของการให้สัมภาษณ์ของท่านว่า อย่างไรก็ตามในช่วงไม่กี่วันมานี้ คำพูดต่างๆ ของบรรดาเจ้าหน้าที่อเมริกันนั้นเป็นเรื่องคลายเครียดบนเตียงของโรงพยาบาล และก่อนที่ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอีจะเดินทางออกจากโรงพยาบาล ท่านได้กล่าวแสดงความขอบคุณต่อบรรดาบุคลากรทางการแพทย์และพยาบาลที่ได้มารวมตัวกันอย่างใกล้ชิด นอกจากนี้ก่อนที่ท่านผู้นำสูงสุดของการปฏิวัติอิสลามจะออกจากโรงพยาบาล ท่านได้เข้าเยี่ยมอายะตุลลอฮ์มะฮ์ดะวี กะนี ประธานสภาผู้เชี่ยวชาญอีกด้วย