เมื่อช่วงบ่ายวันพุธที่ผ่านมา บรรดาอาจารย์ของมหาลัยนับร้อยคน เข้าพบท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ผู้นำการปฏิวัติอิสลาม ซึ่งในการพบปะครั้งนี้ มีการพูดคุยแลกเปลี่ยนทัศนคติในด้านวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัย วัฒนธรรม สังคม เศรษฐกิจและการเมือง
ในช่วงแรกของการพบปะซึ่งใช้เวลาประมาณสองชั่วโมงครึ่ง มีบรรดาอาจารย์จากมหาลัยต่างๆนำเสนอทัศนะของตนในประเด็นต่างๆที่หลากหลาย จากนั้น ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ได้กล่าวย้ำถึง ความสำคัญของ “ความต่อเนื่องอย่างจริงจัง การพัฒนาแบบก้าวกระโดดและในทุกภาคส่วนของขบวนการด้านวิทยาศาสตร์” อันเป็นปัจจัยสำคัญที่กำเนิดชะตากรรมในอนาคตของอิหร่านและโลกอิสลาม พร้อมกับกล่าวเสริมว่า การบรรลุซึ่งเป้าหมายที่สำคัญนี้ จำต้องอาศัยกิจกรรมความเคลื่อนไหว และการบริหารแบบญิฮาดีย์ สำหรับผู้ที่มีความรักในการพัฒนาแผ่นดินเกิดและประเทศชาติ
ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลาม ถือว่า การพบปะกับบรรดาอาจารย์มหาวิทยาลัยนั้น เป็นหนึ่งของการพบปะที่มีความหวานชื่นที่สุด พร้อมกับกล่าวเสริมว่า เป้าหมายหลักในการพบปะคือ การให้เกียรติและการสรรเสริญสัญลักษณ์ของ “นักปราชญ์และสมาชิกกลุ่มปัญญาชนชั้นนำด้าน วิทยาศาสตร์และความคิดของประเทศ”
ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ได้กล่าวถึงประเด็นเนื้อหาของการนำเสนอของอาจารย์มหาลัยบางท่านในการพบปะครั้งนี้ ว่า ทั้งหมดที่ได้นำเสนอมาล้วนเป็นเนื้อหามีประโยชน์และดีมาก พร้อมกับกล่าวย้ำว่า อินชาอัลลอฮ์ จากเนื้อหาและประเด็นต่างๆที่กล่าวมานั้น จะมีการพูดคุยกับบรรดาเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องและในการกำหนดร่างแผนงานและการเปลี่ยนทัศนะคติ และจะต้องปรากฏเห็นผลต่อเนื้อหาดังกล่าวนี้ด้วย
ท่านผู้นำสูงสุดได้ชี้บางประเด็นที่สำคัญ โดยเฉพาะประเด็นการขับเคลื่อนทางวิทยาศาสตร์ของประเทศ การเร่งรีบและการไม่หยุดนิ่งด้านวิทยาศาสตร์ของประเทศ และการดำเนินการอย่างต่อเนื่องด้วยการขับเคลื่อนแบบก้าวกระโดด รวดเร็วและทวีคูณ คือประเด็นแรกที่ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลามได้นำเสนอ
ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี กล่าวย้ำว่า การขับเคลื่อนด้านวิทยาศาสตร์ของประเทศ เป็นประเด็นหลักสำหรับอนาคตของประเทศ สังคม แม้กระทั้งสำหรับโลกอิสลาม
ท่านผู้นำสูงสุด กล่าวเสริมว่า หลังจากหลายปีที่ได้ย้ำถึงความสำคัญของงานด้านวิทยาศาสตร์ ซึ่งปัจจุบันนี้การขับเคลื่อนทางวิทยาศาสตร์ของประเทศได้ประสบความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ และเป็นที่รู้จักของทั่วโลก ซึ่งในความเป็นจริงแล้วสามารถกล่าวได้ว่า ขบวนการเคลื่อนไหวด้านวิทยาศาสตร์ของสาธารณรัฐอิสลามอิหร่าน เป็นที่ประจักษ์ต่อชาวโลกแล้ว
ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลามได้ชี้ถึงอุปสรรค์ปัญหาที่สำคัญโดยเฉพาะการพัฒนาความเจริญก้าวหน้าด้านวิทยาศาสตร์ของประเทศ พร้อมกับกล่าวว่า ความหวาดวิตกกังวลที่สำคัญคือ ขบวนการเคลื่อนไหวด้านวิทยาศาสตร์ของประเทศ ซึ่งหลังจากหลายปีแห่งความเพียรพยายาม การต่อสู้และการขับเคลื่อนในเส้นทางที่ยากลำบาก ที่ได้ก้าวถึงครึ่งทางมาแล้ว และแล้วจำต้องหยุดชะงักลง
ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี กล่าวย้ำว่า การหยุดนิ่งในเส้นทางนี้ไม่ว่าจะกรณีใดๆ หรือการชะลอตัวในการเร่งเครื่องจักรด้านวิทยาศาสตร์ของประเทศนั้น จะนำมาซึ่งความล่าถอยอย่างแน่นอน
ท่านผู้นำสูงสุด กล่าวเสริมว่า หากขบวนการนี้ และการขับเคลื่อนนี้หยุดชะงักลง การเรียกคืนกลับมานั้นจะเป็นเรื่องที่ยากลำบากเป็นอย่างมาก ดังนั้นทุกคนจำต้องอาศัยทุกความสามารถที่มีอยู่ช่วยเหลือกันในการพัฒนาความก้าวหน้าด้านวิทยาศาสตร์ของประเทศ
ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลาม ถือว่า การหยุดนิ่งต่อขบวนการเคลื่อนไหวด้านวิทยาศาสตร์ของประเทศ เป็นหนึ่งในแผนการหลักของแนวรบของศัตรูระบอบอิสลาม และท่านได้กล่าวถึงในประเด็นของการใช้คำ “ศัตรู”อย่างต่อเนื่องว่า บางคนมีความหวั่นไหวในการใช้คำ “ศัตรู” และกล่าวซ้ำอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่อัลกุรอาน ก็ได้ใช้คำว่า ชัยฎอน “มาร” และอิบลิส นับบ่อยครั้ง ซึ่งมันเป็นการส่งสาส์นว่า อย่าได้เพิกเฉยต่อชัยฎอนและอิบลิสเป็นอันขาด
ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี กล่าวเสริมว่า การเน้นย้ำในประเด็นศัตรู มิได้หมายความว่า ไม่ให้ความสำคัญต่ออุปสรรค์ปัญหาและข้อบกพร่องภายในไม่ ทว่า การเพิกเฉยต่อศัตรูภายนอกนั้น เป็นข้อผิดพลาดเชิงกลยุทธ์ที่ร้ายแรงยิ่ง ซึ่งจะทำให้เราประสบกับความเสียหาย
ท่านผู้นำสูงสุดกล่าวเสริมว่า การเผชิญหน้ากับแผนการและความท้าทายอันป่าเถื่อนรุนแรงของศัตรู จำต้องอาศัยการขับเคลื่อนและการบริหารแบบญิฮาดีย์ในด้านวิทยาศาสตร์ และการเผชิญหน้าอย่างถูกต้องและชาญฉลาดของบรรดาเจ้าหน้าที่ และบรรดาอาจารย์ของมหาวิทยาลัย
ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลาม ได้กำชับแด่บรรดาเจ้าหน้าที่กระทรวงศึกษาธิการและ เจ้าหน้าที่มหาวิทยาลัย และบรรดาอาจารย์ให้มีความระมัดระวังอย่างจริงจังในการสานต่อและดำเนินการแบบก้าวกระโดดของการขับเคลื่อนด้านวิทยาศาสตร์ของประเทศ พร้อมกับกล่าวเสริมว่า เป็นที่น่าเสียดายว่า เราอยู่ในยุคสมัยที่ตัวอย่างต่างๆในมหาวิทยาลัยนั้นไม่เหมาะสมเท่าที่ควร ซึ่งมีการส่งเสริมให้เยาวชนระดับมันสมองออกจากประเทศ หรือในช่วงสมัยที่ มีบุคคลอยู่ในกระทรวงศึกษาธิการที่เป็นตัวกีดกันการขับเคลื่อนทางวิทยาศาสตร์ ซึ่งกรณีดังกล่าวนี้อย่าให้มันเกิดขึ้นซ้ำอีกเป็นอันขาด
ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี กล่าวย้ำว่า อย่าให้มหาวิทยาลัยตกอยู่ในน้ำมือของกลุ่มบุคคลที่ไม่กระตือรือร้นในการพัฒนาความเจริญก้าวหน้าของประเทศเป็นอันขาด ทว่าจำต้องให้ตกอยู่ในมือของบุคคลที่มีความรักในการพัฒนาความเจริญก้าวหน้าด้านวิทยาศาสตร์ของอิหร่าน อีกทั้งมีความตระหนักและเข้าใจถึงความสำคัญของสิ่งเหล่านี้สำหรับชะตากรรมของประเทศและชนชาติ
ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลามถือว่า แม้แต่ในมุมมองของระยะสั้นและระยะกลางนั้น การพัฒนาความเจริญก้าวหน้าด้านวิทยาศาสตร์ของประเทศก็มีประโยชน์ที่ทรงค่าเช่นกัน อาทิเช่น การคว่ำบาตรต่างๆนั้นไร้ผล พร้อมกันนั้นท่านผู้นำสูงสุด กล่าวเสริมว่า ศัตรูใช้เครื่องมือแห่งการคว่ำบาตร ในการทำลายชื่อเสียงและเกียรติยศของประชาชาติอิหร่าน และดูหมิ่นเหยียดหยามประเทศชาติ และด้วยการสานต่อ “ขบวนการและการพัฒนาด้านวิทยาศาสตร์” นั้น ทำให้เครื่องมือต่างๆที่นำมาใช้ไร้ผลอย่างสิ้นเชิง
ท่านผู้นำสูงสุด ได้เรียกร้องให้บรรดาเจ้าหน้าที่ให้ความสำคัญต่อบริษัทวิทยาศาสตร์มหาภาค อันเป็นปัจจัยที่ทรงผลในการเชื่อมสัมพันธ์กับ “ วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและการเกษตร” พร้อมกับกล่าวเสริมว่า บรรดาบริษัทที่มีมาตรฐานและมีตัวชี้วัดที่จำเป็นนั้น อันที่จริงแล้วก็คือวิทยาศาสตร์มหาภาคนั้นเอง ซึ่งสามารถเป็นตัวช่วยและมีบทบาทที่สำคัญในการสานต่อขบวนการด้านวิทยาศาสตร์
ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ได้ชี้ถึง บุคคลที่ถือทริบูน ที่แสดงออกถึงความคลางแคลนสงสัยในหลักพื้นฐานของความเจริญก้าวหน้าด้านวิทยาศาสตร์ของอิหร่าน พร้อมกับกล่าวเสริมว่า การออกมาแสดงทัศนะเช่นนั้นเนื่องจากขาดความรอบรู้ในเรื่องนี้ ซึ่งจำต้องมีการจัดงานวิชาการวิทยาศาสตร์สัญจรให้กับบุคคลเช่นนี้ในภาคส่วนต่างๆ เพื่อจะได้เข้าใจและรับรู้ในการพัฒนาและความเจริญก้าวหน้าที่น่าชื่นชมและน่าสรรเสริญอย่างยิ่ง ในด้านการแพทย์ นิวเคลียร์ นาโน เซลล์ต้นกำเนิดและในด้านอื่นๆอีกมากมาย อีกทั้งจะได้ไม่มีการพูดคุยในลักษณะที่ปราศจากความรู้อีกต่อไป
ท่านผู้นำสูงสุด ถือว่า การร่างแผนงานองค์รวมด้านวิทยาศาสตร์ของประเทศ นั้น เป็นประเด็นเชิงกลยุทธ์และพื้นฐานสำคัญสำหรับการร่างเอกสารเชิงอ้างอิงทางวิชาการด้านวิทยาศาสตร์ของประเทศในภาคส่วนต่างๆของประเทศ พร้อมกับกล่าวเสริมว่า จำเป็นต้องมีการกำหนดหุ้นส่วนที่ชัดเจนสำหรับมหาวิทยาลัยต่างๆในการร่างแผนองค์รวมด้านวิทยาศาสตร์ เพื่อให้สถาบันด้านวิทยาศาสตร์ทำหน้านี้ในด้านนี้ตามความสามารถพิเศษและศักยภาพของตนเอง ในการแบกรับภาระหน้าที่ต่อเอกสารที่สำคัญเหล่านี้
ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลาม ถือว่า การพัฒนากิจกรรมความเคลื่อนไหวด้านวิทยาศาสตร์ที่สอดคล้องกับความต้องการของประเทศนั้นเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่ง พร้อมกับกล่าวเสริมว่า บทความเชิงวิชาการของบรรดาอาจารย์ชาวอิหร่าน ที่เป็นแหล่งอ้างอิงระดับโลกในด้านวิทยาศาสตร์นั้นเป็นความภาคภูมิใจและเป็นสัญลักษณ์ของความเจริญก้าวหน้าของอิหร่านได้เป็นอย่างดี ทว่าบทความและความเคลื่อนไหวต่างๆในด้านการศึกษาวิจัยด้านวิทยาศาสตร์นั้นจำต้องตระหนักถึงความต้องการภายในด้วย เพื่อให้มหาวิทยาลัยต่างๆมีส่วนร่วมและแสดงบทบาทของตนในการช่วยเหลือการบริหารจัดการของประเทศ
อีกประเด็นหนึ่งที่สำคัญที่ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ได้อธิบายในการพบปะกับคณาจารย์มหาวิทยาลัย คือ ผลกระทบเชิงบวก โดยเฉพาะใน “ คำพูด พฤติกรรมและแบบอย่างของอาจารย์” ที่มีต่อบรรดานักศึกษา
ท่านผู้นำสูงสุดกล่าวเสริมว่า ความเชี่ยวชาญด้านวิทยาทานของอาจารย์ สำหรับตัวเขาแล้วจะก่อให้เกิดฐานะภาพที่พิเศษในความนึกคิดและบุคลิกภาพของนักศึกษา ซึ่งจากฐานะภาพอันนี้จำต้องสร้างอิทธิพลและสร้างผลกระทบเชิงบวกในการอบรมบรรดาเยาวชนให้มี “ จิตวิญญาณที่ดี มีความหวัง มีโลกทัศน์ที่ดี มีความกล้าหาญ มีอนาคตไกล มีความศรัทธามั่น และมีความเชื่อมั่นในตัวเองสูง ศรัทธาในรากฐานของระบอบ มีจิตอาสา และยึดมั่นเรื่องราวด้านจิตวิญญาณและรักชาติแผ่นดินเกิด”
ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลาม ได้แสดงออกถึงมุมมองของการวิพากษ์ต่อเหตุการณ์ที่มีความคลั่งไคล้ และตกอยู่ภายใต้อิทธิพลของวัฒนธรรมตะวันตก ว่า เหตุการณ์เช่นนี้ ถึงแม้นว่าเป็นเรื่องแห่งชาติ เป็นหน้าที่สำหรับตนและแผ่นดินเกิด แต่ว่ามันจะเป็นบ่อเกิดแห่งการถูกดูหมิ่นและดูแคลนทั้งทางตรงและทางอ้อม และจะนำมาซึ่งปัจจัยพื้นฐานของความเฉื่อยชาและสิ้นหวังสำหรับนักศึกษา ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่ผิดพลาดอย่างแรง
ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ถือว่า เนื้อหาบทเรียนความรู้ทั่วไปในมหาวิทยาลัยต่างๆนั้น เป็นช่วงเวลาและโอกาสที่มีค่ายิ่ง พร้อมกับกล่าวเสริมว่า หากบรรดาอาจารย์ได้นำเสนอเรื่องราวมะอาริฟอย่างชาญฉลาด และพึ่งพาอาศัยความรอบรู้ที่ลึกซึ้งและทันสมัยต่อบรรดานักศึกษา คุณประโยชน์ ส่วนใหญ่ก็จะกลับคืนสู่ประเทศชาติและสังคมในที่สุด ซึ่งหน่วยงาน องค์กรและตัวแทนต่างๆในมหาวิทยาลัย จำต้องตระหนัก ระมัดระวังให้ดี และวางแผนในเรื่องนี้ด้วย
ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ถือว่า การเปลี่ยนแปลงเชิงพื้นฐานในด้านมนุษย์ศาสตร์นั้น เป็นสิ่งจำเป็นที่แท้จริง พร้อมกับกล่าวเสริมว่า ความหมายของ การเปลี่ยนแปลงขั้นพื้นฐานในมนุษย์ศาสตร์นั้น หาใช่ปราศจากความต้องการในการเคลื่อนไหวด้านวิทยาศาสตร์และการศึกษาวิจัยของตะวันตกไม่
ท่านผู้นำสูงสุด ได้อธิบายถึงเหตุผลของการเปลี่ยนแปลงในด้านมนุษย์ศาสตร์ ว่า พื้นฐานด้านมนุษย์ศาสตร์ของตะวันตกนั้น คือ วัตถุและสิ่งที่ไม่ใช่พระเจ้า ในขณะที่วิชามนุษย์ศาสตร์จะก่อให้เกิดคุณประโยชน์ต่อปัจเจกบุคคลและสังคมนั้น จะต้องวางอยู่บนพื้นฐานของโลกทัศน์แห่งพระเจ้าและอิสลาม ซึ่งในประเด็นนี้จำต้องอาศัยความเพียรพยายามด้วยความรวดเร็วที่เหมาะสม และปราศจากความเฉื่อยชา หรือมีความรีบเร่งเป็นการด่วน
ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลาม ได้อธิบายในช่วงท้าย โดยกล่าวย้ำประเด็นสำคัญอีกครั้งหนึ่ง ว่า เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง และคณะผู้บริหารมหาวิทยาลัยต่างๆ จำต้องมีความมุ่งมั่นและจริงจัง พร้อมกับสกัดกั้น ในการเปลี่ยนสถาบันการศึกษาให้กลายเป็นสถานที่เคลื่อนไหวเหตุการณ์ต่างๆทางการเมือง
ท่านผู้นำสูงสุด ถือว่า การเปลี่ยนมหาวิทยาลัยเป็นสโมสรเคลื่อนไหวทางการเมืองนั้นเป็นยาพิษที่ทำลายล้างการขับเคลื่อนทางวิทยาศาสตร์ของประเทศ พร้อมกับกล่าวเสริมว่า เป็นที่น่าเสียใจว่า ข้าพเจ้าเป็นพยานและร่วมในยุคสมัยของเหตุการณ์ที่มีความเสื่อมเสียครั้งนั้นด้วยจึงมองเห็นในสิ่งเหล่านี้
ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ได้ยืนยัน และปกป้องโลกทัศน์ ความเข้าใจ และสิ่งมึนเมาทางการเมืองที่มีอยู่ในหมู่บรรดานักศึกษา ว่า ประเด็นนี้ การเปลี่ยนให้สถาบันการศึกษาวิทยาศาสตร์เป็นศูนย์กลางคามเคลื่อนไหทางการเมืองนั้น จะมีความแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง
ท่านผู้นำสูงสุด ถือว่า ความสงบสุขในมหาวิทยาลัย เป็นปัจจัยพื้นฐานในการสร้าง และการขับเคลื่อนแบบก้าวกระโดดของการขับเคลื่อนทางวิทยาศาสตร์ของประเทศ และ หากพระองค์ไม่ทรงประสงค์ ความสงบสุขนี้อาจถูกทำลายลง และการขับเคลื่อนทางวิทยาศาสตร์ก็จะต้องหยุดชะงักลง และแล้วอิหร่านก็จะต้องล้าหลังในที่สุด
ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลาม ได้ชี้ถึงบรรยากาศแห่งความบริสุทธิ์ จิตวิญาณ ความสัตย์จริง และความบริสุทธิ์ใจในช่วงเดือนรอมฎอน โดยเรียกร้องให้ทุกคนใช้ประโยชน์อย่างเต็มที่เท่าที่มีความสามารถจากบารอกัตของเดือนอันจำเริญนี้ พร้อมกับเสริมสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับพระองค์ เผยแพร่แวดล้อมและบรรยากาศแห่งความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ความเชื่อมั่น ความรักความเอื้ออาทร และความหวังดีในการสร้างสัมพันธ์ในสังคม
ก่อนที่ท่านผู้นำสูงสุด จะกล่าวปราศรัย ได้มีตัวแทนจากบรรดาอาจารย์จากมหาวิทยาลัยต่างๆและสาขาต่างๆ จำนวน 7 ท่านด้วย ซึ่งได้นำเสนอมุมมอง โลกทัศน์ของตนให้กับท่านผู้นำสูงสุด ได้รับฟัง