เมื่อช่วงเช้าวันอาทิตย์ที่ผ่านมา( 22 มิถุนายน ) ประธานและบรรดาเจ้าหน้าที่ระดับสูงของฝ่ายตุลาการ บรรดาหัวหน้าผู้พิพากษาของศาลสถิตยุติธรรม และบรรดาทนายประจำเมืองต่างๆ ได้เข้าพบท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ผู้นำการปฏิวัติอิสลาม
โดยท่านผู้นำสูงสุดได้อธิบายถึงลำดับความสำคัญหลักของการดำรงตำแหน่งเป็นประธานสมัยใหม่ ของ
อยาตุลลอฮ์ ออมูลี ลอริญานีย์ ในฝ่ายตุลาการเป็นระยะเวลาห้าปี พร้อมกับกล่าวว่า ความร่วมมือ ความเป็นหนึ่งเดียวและมีเสียงเป็นอันหนึ่งเดียวกันของบรรดาเหล่าคณะผู้บริหารสามฝ่าย ในประเด็นมหาภาคและผลประโยชน์โดยรวมของชาติ เป็นสิ่งที่จำเป็นและสำคัญยิ่ง พร้อมกันนั้น ท่านผู้นำสูงสุดยังได้ชี้ถึงเหตุการณ์ล่าสุดที่กำลังเกิดขึ้นในอิรักโดยย้ำว่า เบื้องหลังของผู้ที่สร้างภัยฟิตนะห์และจุดเพลิงแห่งความรุนแรงในอิรักคือ มหาอำนาจตะวันตกผู้ล่าอานานิคม โดยมีอเมริกาเป็นหัวหอกสำคัญ และสาธารณรัฐอิสลาม ประกาศอย่างชัดเจน และขอคัดค้านอย่างเต็มที่ต่อการแทรกแซงของอเมริกา เกี่ยวกับกิจการภายในของอิรัก และเราเชื่อมั่นว่ารัฐบาลและประชาชนชาวอิรักและสถาบันมัรเญีอ์ทางศาสนาของประเทศนี้ มีความสามารถพอที่จะทำให้วิกฤตนี้สิ้นสุดลงได้
ในการพบปะครั้งนี้ ท่านผู้นำสูงสุด ได้รำลึกเหตุการณ์ชูฮาดาอ์ ฮัมตุม เมตียร์ โดยเฉพาะชะฮีด อยาตุลลอฮ์ เบเฮชตี้ อีกทั้งยังได้เทิดเกียรติชะฮีด อยาตุลลอฮ์ กุดดูซีย์ อีกด้วย ซึ่ง ฯพณฯ ผู้นำสูงสุด ถือว่า คุณลักษณะที่สำคัญที่สุดของฝ่ายตุลาการ ที่มีบทบาทเหนืออำนาจฝ่ายอื่นๆนั้นคือ การบังเกิดซึ่งการธำรงไว้ซึ่งความสัจจริงและความยุติธรรมในทุกภาคส่วนของระบอบอิสลาม พร้อมกับกล่าวเสริมว่า บนพื้นฐานอันนี้จึงคาดหวังอย่างสูงต่อฝ่ายตุลาการ และหากพิจารณาถึงความสามารถและคุณสมบัติที่เหมาะสมและโดดเด่นของประธานฝ่ายตุลาการ ที่เป็นอุลามาอ์ที่มีเกียรติ์ เคร่งครัดในศาสนา เป็นมุจญตะฮิด มีโลกทัศน์ที่ดีและถูกต้อง เป็นนักปฏิวัติ รู้ทันสถานการณ์และมีความกล้าหาญ ซึ่งการบังเกิดความคาดหวังและเป้าหมายดังกล่าวนั้นมีความเป็นไปได้อย่างสูง
ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลาม ยังได้กล่าวขอบคุณในความเพียรพยายามของประธานและเจ้าหน้าที่ของฝ่ายตุลาการ ตลอดช่วงห้าปีที่ผ่านมา พร้อมกับอธิบายลำดับสำคัญหลักของหน้าที่ในสมัยใหม่นี้อีกด้วย
กลไกที่เฉพาะเจาะจงและชัดเจนสำหรับการดำเนินการตามนโยบาย คือประเด็นสำคัญลำดับแรกที่ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลาม ได้ชี้ถึง พร้อมกับกล่าวเสริมว่า ควรจะมีกลไกที่เฉพาะเจาะจงและชัดเจนสำหรับการตรวจสอบและการดำเนินนโยบายที่เกี่ยวข้องกับการพิจารณาคดีในศาลตุลาการ และปรับนโยบายต่างๆเหล่านี้ ให้กลายเป็นแผนการดำเนินงานและการประยุกต์ใช้อย่างเป็นรูปธรรม
ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลาม ได้ชี้ถึงความสำคัญหลักลำดับที่สองของศาลตุลาการ คือ การตรวจสอบประสิทธิภาพการทำงานรวมทั้งประสิทธิภาพของผู้พิพากษาและบรรดาเจ้าหน้าที่ พร้อมกับกล่าวย้ำว่า การตรวจสอบนี้ควรจะเป็นอย่างจริงจังและแพร่หลาย ซึ่งข้อบกพร่องและข้อร้องเรียนบางส่วนของการดำเนินการให้ถึงระดับต่ำสุดเท่าที่จะทำได้
ท่านผู้นำสูงสุดได้ชี้ถึง “ความจำเป็นที่จะต้องไม่ชะลอการดำเนินคดี” ซึ่งเป็นความจำเป็นลำดับที่สามในเรื่องนี้ พร้อมกับกล่าวเสริมว่า บางส่วนของความล่าช้าในการดำเนินคดี เป็นผลพวงจากข้อบกพร่องบางอย่าง ซึ่งจะต้องมีทำความเข้าใจและแก้ไข
ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลามได้ย้ำถึงประเด็นความยาวนานของการพิจารณาคดีในชั้นศาล ว่า การลดลงของสถิติให้อยู่ในระดับปานกลางในการพิจารณาคดีชั้นศาลนั้นเป็นสิ่งที่ดี แต่มันควรพิจารณาและตรวจสอบว่า จำนวนคดีภายในระยะเวลาสูงสุดของสถิติเหล่านี้มีมากน้อยเท่าใดหากเทียบกับสถิติระดับปานกลาง และหากสถิติเหล่านี้สูงเกินก็ควรจะปรับให้ลดลง
“การสร้างทีมงานและการวางแผนการสืบทอด” เป็นความสำคัญลำดับที่สี่ ที่ท่านผู้นำสูงสุดได้ชี้ อีกทั้ง “การป้องกันอาชญากรรม” ก็เป็นความสำคัญลำดับที่ห้า พร้อมกับกล่าวเสริมว่า การป้องกันอาชญากรรมเป็นประเด็นที่ทุกฝ่ายต้องรับผิดชอบ ดังนั้นตุลาการในการป้องกันอาชญากรรมเหล่านี้ ควรสร้างสัมพันธ์ที่ดีกับฝ่ายที่เกี่ยวข้องให้มั่นคง และ เสริมสร้างจุดแข็งร่วมระหว่างพวกเขา
ท่านผู้นำกล่าวเสริมว่า การป้องกันอาชญากรรมเป็นปัญหาทางวิทยาศาสตร์ที่มีความจำเป็น อย่างยิ่ง ด้วยเหตุนี้จึงจำเป็นที่จะต้องระบุสาเหตุของการเกิดอาชญากรรมและภัยอันตรายที่เกิดจากสิ่งเหล่านี้ ด้วยการปรึกษาและร่วมมือกับเจ้าหน้าที่และผู้เชี่ยวชาญในประเด็นนี้ ความสำคัญลำดับที่หกและสุดท้ายที่ท่านผู้นำสูงสุดได้ชี้ คือ เสริมสร้างความร่วมมือให้มากขึ้นของฝ่ายบริหารทั้งสามฝ่าย
ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี กล่าวว่า คำตักเตือนและข้อแนะนำของข้าพเจ้าที่มีอยู่เสมอๆให้กับผู้มีอำนาจทั้งสามฝ่าย คือ การเสริมสร้างคามร่วมมือ การทำงานร่วมกัน ในสองประเด็นหลักคือภายในหน่วยงาน และประเทศระดับมหาภาคของประเทศ
ท่านผู้นำสูงสุดกล่าวย้ำว่า ในระบอบอิสลามโดยรวมจำต้อง ได้ยิน คำว่า "สามัคคี" จากเหล่าผู้อำนาจทั้งสามฝ่าย ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลาม ได้ชี้ถึงจุดยืนที่ดียิ่ง มั่นคง และหนักแน่น ของ อยาตุลลอฮ์ ออมูลี ลอริญานีย์ ในประเด็นต่างๆ ว่า ความร่วมมือและการทำงานร่วมกันของผู้มีอำนาจทั้งสามฝ่ายนั้น จะสามารถช่วยเหลือในการแพร่กระจายจุดยืนเหล่านี้ในหน่วยงานต่างๆของรัฐบาลได้เป็นอย่างดี
ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ย้ำถึง “ผลประโยชน์ของชาติเป็นใหญ่เหนือทุกสิ่ง” โดยกล่าวย้ำว่า เหล่าคณะผู้บริหารทั้งสามฝ่ายจำต้องมีการประชุมร่วมกันให้มากขึ้น เพราะการประชุมเหล่านี้เป็นตัวช่วยที่ดีที่จะสามารถคลี่คลายปมปัญหาต่างๆ การพัฒนาและก้าวหน้าในกิจการงาน และช่วยขจัดอุปสรรค์ปัญหาต่างได้เป็นอย่างดี
ท่านผู้นำสูงสุด ได้ชี้ถึงประเด็นสำคัญของประเทศว่า มีปมปัญหาต่างๆอยู่ภายในประเทศ แม้กระทั่งสิ่งที่เป็นปมปัญหาบางส่วน แต่ทว่าทุกคนสามารถแก้ไขได้ แต่มีเงื่อนไขอยู่ว่า ต้องพึ่งพาตัวเองและความสามารถภายในของเรา
ท่านผู้นำสูงสุด ถือว่า หนึ่งในความท้าทายที่สำคัญของประเทศ คือ ความป่าเถื่อนและการเป็นปรปักษ์อย่างรุนแรงของระบอบมหาอำนาจตะวันตกที่มีต่อระบอบอิสลาม ซึ่งจำต้องสร้างความเข้าใจและต้องเข้าใจในข้อเท็จจริงของสิ่งให้ดี
ท่านผู้นำสูงสุดกล่าวเสริมว่า หากเราไม่เข้าใจระบอบการปกครองที่ป่าเถื่อนแล้ว เราก็จะเกิดความผิดพลาดในการวิเคราะห์ประเด็นในประเทศอย่างแน่นอน
ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี กล่าวเสริมว่า บรรดาผู้ที่ไม่พร้อม ที่จะเห็นหน้าศัตรูในการเผชิญหน้ากับแนวรบของศัตรูนั้น เสมือนกับผู้ที่ปิดตาตัวเองให้กับศัตรู
ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ถือว่าสาเหตุหลักแห่งความเป็นศัตรูของระบบจักรวรรดินิยม ที่มีต่อสาธารณรัฐอิสลามแห่งอิหร่าน คือ "คำพูดใหม่" ของระบอบอิสลาม และ "ความสั่นคลอนของรากฐานของระบอบจักรวรรดินิยม" ซึ่งท่านได้ชี้ถึงสถานการณ์ล่าสุดในอิรัก ว่า ในกรณีของอิรัก บรรดามหาอำนาจผู้ครอบงำแห่งตะวันตก โดยเฉพาะอย่างยิ่งรัฐบาลของสหรัฐอเมริกา กำลังพยายามที่จะใช้ประโยชน์ในทางมิชอบจากความโง่เขลาและความมีอคติของกลุ่มคนจำนวนหนึ่งที่ตกเป็นเหยื่อและเครื่องมือโดยไม่ได้ตั้งใจ
ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ได้กล่าวเสริมว่า เป้าหมายหลักของสถานการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นล่าสุดในอิรักนั้น คือการลิดรอนประชาชนของประเทศนี้จากความสำเร็จต่างๆ ที่พวกเขาได้รับมา แม้จะมีการปรากฏตัวและมีการแทรกแซงจากอเมริกาอยู่ก็ตาม ซึ่งสิ่งที่สำคัญที่สุดของความสำเร็จเหล่านั้น ก็คืออำนาจการปกครองในระบอบประชาธิปไตย
ท่านผู้นำสูงสุดของการปฏิวัติอิสลาม กล่าวย้ำว่า อเมริกาไม่พึงพอใจต่อแนวโน้มความเป็นไปในขณะนี้ในประเทศอิรัก หมายถึง การจัดการเลือกตั้งโดยการเข้าร่วมอย่างดียิ่งของประชาชน และการกำหนดตัวเลือกต่างๆ ที่ได้รับความไว้วางใจจากประชาชน เนื่องจากอเมริกาพยายามที่จะทำให้อิรักอยู่ในการครอบงำของตนและหาทางที่จะทำให้ผู้ที่เชื่อฟังคำสั่งของอเมริกามีอำนาจปกครอง
ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ได้ชี้ถึงคำพูดต่างๆ ของบรรดาเจ้าหน้าที่รัฐบาลของอเมริกาที่กำลังพยายามจะบอกว่า สถานการณ์ต่างๆ ในอิรักนั้นเป็นสงครามทางนิกาย พร้อมกับกล่าวเสริมว่า สิ่งที่เกิดขึ้นในอิรักนั้นไม่ใช่สงครามระหว่างชีอะฮ์กับซุนนี แต่ทว่าระบบจักรวรรดินิยมมีความพยายามที่จะทำลายความมั่นคงและความสงบสุขของอิรักและคุกคามบูรณภาพแห่งดินแดนของประเทศนี้ โดยใช้ประโยชน์จากกากเดนของระบอบซัดดัม ในฐานะตัวเล่นหลัก และสมาชิกของกลุ่มตักฟีรีย์ที่บ้าคลั่ง ในฐานะพลทหารราบ
ท่านผู้นำสูงสุดได้กล่าวว่า ตัวการหลักของการสร้างวิกฤติในอิรักนั้น มีความเป็นศัตรูกับชาวซุนนีที่เป็นผู้ศรัทธา และผู้เชื่อมั่นในเอกราชของอิรัก เช่นเดียวกับที่พวกเขามีความเป็นศัตรูกับพี่น้องชาวชีอะฮ์
ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลามได้ย้ำว่า ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นในอิรักนั้น เป็นความขัดแย้งระหว่างผู้ที่ต้องการให้อิรักเข้าอยู่ในค่ายของอเมริกา กับผู้ที่ต้องการความเป็นเอกราชของอิรัก
ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ยังได้ย้ำถึงประเด็นที่ว่า ชาวอิรักเองมีความสามารถที่จะจัดการกับไฟแห่งวิกฤตนี้และขจัดมันออกไปได้ พร้อมกับเสริมว่า เราขอคัดค้านอย่างเต็มที่ต่อการแทรกแซงของอเมริกาและชาติอื่นๆ เกี่ยวกับกิจการภายในของอิรัก เราไม่ขอกล่าวย้ำในเรื่องนี้ เพราะเราเชื่อมั่นว่ารัฐบาล ประชาชนชาวอิรักและสถาบันมัรเญีอ์ทางศาสนาของประเทศนี้ มีความสามารถพอที่จะทำให้วิกฤตนี้สิ้นสุดลงได้ และอินชาอัลลอฮ์พวกเขาจะทำให้มันสิ้นสุดลง