สำนักผู้นำสูงสุดซัยยิด อาลี คาเมเนอี

คำปราศรัยของท่านผู้นำสูงสุด ในวันขึ้นปีใหม่

ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ผู้นำการปฏิวัติอิสลาม ได้กล่าวปราศรัย

   เมื่อช่วงเช้าวันศุกร์ที่ผ่านมา  ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ผู้นำการปฏิวัติอิสลาม  ได้กล่าวปราศรัยในวันแรกของฤดูใบ้ไม้ผลิและวันแรกของปีใหม่ ปี 1393    ณ. ฮะรัมท่านอิมามริฎอ(อ) โดยมีพี่น้องประชาชนและผู้ซิยารัตเข้าร่วมอย่างคึกคักและเนืองแน่น  โดย ท่านผู้นำสูงสุด ได้กล่าวแสดงความยินดีอีกครั้งเนื่องในวาระขึ้นปีใหม่  ซึ่ง ฯพณฯ ผู้นำสูงสุด ได้อธิบายถึงมุมมองต่างๆของแนวทางมหาภาคของประเทศในวาระขึ้นปีใหม่นี้ กล่าวคือ “เศรษฐกิจ และวัฒนธรรม ด้วยความมุ่งมั่นแห่งชาติและการบริหารจัดการแบบญิฮาดี”  พร้อมกับกล่าวอธิบาย ถึงข้อเท็จจริง ศักยภาพ และความจำเป็นต่างๆแห่งการบรรลุผลและบังเกิดซึ่งความมั่นคงแห่งเศรษฐกิจ และสิ่งที่ควรและสิ่งที่ไม่ควรปฏิบัติ ในเวทีที่สำคัญของวัฒนธรรม   พร้อมกับกล่าวย้ำว่า จำต้องสร้างตัวเองให้แข็งแกร่งและมีอำนาจเพียงพอ ในการเผชิญหน้าบรรดามหาอำนาจของโลกที่ดันทุรัง ที่ไม่มีวันเพิกเฉยต่อสิทธิของประชาชาตินี้ได้


ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี   ได้อธิบายถึงคำพูดหลักของท่านในปีใหม่ปีนี้  คือ ความจำเป็นในการสร้างความแข็งแกร่งแห่งชาติและประชาชาติ และเสริมสร้างความมั่นคงแห่งชาติ  และความพยายามของบรรดามหาอำนาจโลก ในการบั่นทอนสิทธิมนุษย์ชนของชาติต่างๆ   พร้อมกับกล่าวย้ำว่า  ข้อเท็จจริงต่าง ๆ ของสังคมโลกนั้น ไม่ได้ดำเนินไปตามความปรารถนาและความตั้งใจของอเมริกา สิ่งที่มหาอำนาจจอมอหังการของโลกและบรรดาศัตรูผู้ดันทุรังของประเทศอิหร่านต้องการนั้นไม่บรรลุผลสำเร็จ ในเวทีที่กว้างออกไปในระดับโลกก็ไม่บรรลุความสำเร็จดังนั้นจำต้องมีความแข็งแกร่งและมีการพัฒนาก้าวหน้าให้รุ่งเรืองมากยิ่งขึ้น

 

ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลามได้อธิบายถึงเหตุผลในการเลือกคำขวัญปีนี้ “เศรษฐกิจและวัฒนธรรมด้วยความมุ่งมั่นแห่งชาติและการบริหารจัดการแบบญิฮาดี” ว่า เป็นการบ่งชี้ถึงแผนรวมแห่งปี 93   ในการก้าวเดินที่ยาวไกล และประสบการณ์แห่งความสำเร็จแห่งชาติ และสิ่งอำนวยความสะดวกและศักยภาพต่างๆที่กว้างใหญ่ไพศาลในประเทศ    พร้อมกับกล่าวเสริมว่า แนวทางอันทรงเกียรติ์ “ความทรงเกียรติ์แห่งชาติ” จะสามารถก้าวไกลอย่างรวดเร็วด้วยการให้ความร่วมมือของเจ้าหน้าที่และประชาชนบนพื้นฐานแห่งคำขวัญนี้  


ท่านผู้นำสูงสุดได้อธิบายถึงองค์ประกอบหลักของอำนาจและความแข็งแกร่งของชาติ ซึ่งถือว่าจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องครอบครองอาวุธที่ทันสมัยและก้าวล้ำ พร้อมกับกล่าวเสริมว่า  เศรษฐกิจ วัฒนธรรม และวิทยาศาสตร์ เป็นสามองค์ประกอบหลักของความแข็งแกร่งและเกียรติ์ยศศักดิ์ศรีของชาติ   ซึ่งด้วยความช่วยเหลือจากพระผู้อภิบาล ตลอดระยะเวลา 12 ปี     ล่าสุดนั้น ในประเด็นวิทยาศาสตร์ วิชาการและศาสตร์ความรู้นั้นมีความก้าวล้ำและพัฒนาอย่างสว่างไสวและเปล่งประกายอย่างมาก


ท่านผู้นำสูงสุด ถือว่า การให้ความสำคัญอย่างจริงจังในประเด็นสององค์ประกอบหลักแห่งความแข็งแกร่งและเกียรติ์ยศศักดิ์ศรีแห่งชาติ คือ เศรษฐกิจและวัฒนธรรมนั้นเป็นสิ่งที่จำเป็น   พร้อมกับเน้นย้ำประเด็นเศรษฐกิจและในการปราศรัยของท่านผู้นำสูงสุดครั้งนี้ ได้กล่าวย้ำ  ว่า   จำต้องสร้างความแข็งแกร่งในด้านเศรษฐกิจของอิหร่าน ในลักษณะที่ว่า ไม่ว่าสิ่งใดบนโลกนี้ และไม่ว่าผู้ใดบนพื้นพิภพนี้ ไม่ว่าจะเป็นอเมริกาหรือไม่ใช่อเมริกา  ไม่ว่าจะทำการตัดสินใจใดๆ หรือนั่งบนโต๊ะเจรจา  ก็จะไม่สามารถสร้างอิทธิพลและส่งผลกระทบใดๆเป็นอันขาดต่อเศรษฐกิจของประเทศ และวิถีของประชาชน  และนี้คือเศรษฐกิจแบบยั่งยืน 


ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลามได้ชี้ถึงการประกาศใช้นโยบายเศรษฐกิจแบบยั่งยืน และการตอบรับเป็นอย่างดีของคณะผู้บริหารสามฝ่ายที่มีต่อนโยบายนี้   โดยท่านผู้นำสูงสุด ได้ตั้งโจทย์คำถามที่สำคัญสามข้อ พร้อมกับอธิบายตอบโจทย์คำถามดังกล่าวที่ ว่า 


1      สัญลักษณ์แห่งซัลบีย์ “การบังคับ”และสัญลักษณ์แห่งอิญาบีย์(การละทิ้ง) ของเศรษฐกิจแบบยั่งยืนคืออะไร??

2      เป้าหมายและวัตถุประสงค์ของสิ่งนี้จะประสบความสำเร็จและบรรลุผลหรือไม่    หรือว่าเป็นเพียงแค่ความคาดหวังและความหวังที่ล้มๆแล้งๆเท่านั้น  ???

3      หากการบรรลุผลเป็นสิ่งที่เป็นไปได้ แล้วเราจำต้องปฏิบัติเช่นไร ??? 


ท่านผู้นำสูงสุด ได้ตอบคำถามในโจทย์แรก คือ “คุณลักษณะของเศรษฐกิจแบบยั่งยืน”  ว่า  เศรษฐกิจแบบยั่งยืนเป็นหนึ่งแบบฉบับทางวิทยาศาสตร์และวิชาการที่สอดคล้องกับความต้องการของประเทศ ทั้งนี้ยังมีประเทศอีกจำนวนมากที่ได้หันมาใช้เศรษฐกิจแบบยั่งยืนที่สอดคล้องกับสภาวะเฉพาะของตน เพื่อลดอิทธิพลและผลกระทบของตนจากแรงกระตุ้นทางสังคมและภาวะวิกฤติเศรษฐกิจโลก การหันมามองยังสภาวะภายในและการพึ่งพาความสามารถและศักยภาพภายใน  ในขณะเดียวกันการมองยังสภาวะภายนอกและการปฏิสัมพันธ์ที่ถูกต้องกับเศรษฐกิจของบางประเทศ ก็เป็นคุณลักษณะประการที่สองของเศรษฐกิจแบบยั่งยืนที่ท่านผู้นำสูงสุดได้อธิบายในครั้งนี้


ท่านผู้นำสูงสุด กล่าวเสริมว่า เป็นที่น่าเสียดายว่า  นักพูดนักเขียนบางกลุ่ม มีความพยายามสร้างข้อครางแคลนสงสัย อาทิเช่น การจำกัดขอบเขตเศรษฐกิจอิหร่าน อันเป็นเขื่อนสกัดกั้นแห่งการยืนหยัดสรรสร้างเศรษฐกิจของประเทศและความรุ่งเรืองของประชาชาติ  ขณะที่เศรษฐกิจแบบยั่งยืนนั้นมีการปฏิสัมพันธ์กับสังคมได้อย่างถูกต้อง

ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ได้อธิบายคุณลักษณะประการที่สามของเศรษฐกิจแบบยั่งยืนว่า  เศรษฐกิจเช่นนี้ หาใช่เศรษฐกิจของรัฐเท่านั้น ทว่าเป็น “มูลนิธิประชาชน”  ทั้งนี้บรรดาเจ้าหน้าที่ก็มีความจำเป็นที่ต้องตระหนักในการสร้างความพร้อมในเงื่อนไขต่างๆ การชี้นำและการช่วยเหลือในการเข้าร่วม และการปรากฏตัวของประชาชนและการลงทุนภาคเอกชนอีกด้วย เศรษฐกิจมวลมหาภาคแห่งชาติ ในขณะเดียวกันการใช้ประโยชน์จากประสบการณ์ ความเชี่ยวชาญความสามารถด้านทักษะของนักกิจกรรมความเคลื่อนไหวด้านอุตสาหกรรมและการเกษตร  คือข้อเปลี่ยนแปลงประการหนึ่งที่ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลามได้กล่าวย้ำ เพื่อนำมาใช้ในการเสริมสร้างความเข้าใจสำหรับประชาชนโดยรวม อันเป็นหนึ่งในคุณลักษณะของเศรษฐกิจแบบยั่งยืน

การให้ความสำคัญกับความยุติธรรมทางเศรษฐกิจและสังคม และในขณะเดียวกัน ให้ความสำคัญในประเด็นแขนงสาขาต่างๆที่สำคัญของตัวชี้วัดร่วมกันของเศรษฐกิจโลก อาทิเช่น การพัฒนาการเจริญเติบโตของประเทศและจีดีพีแห่งชาติ และความมั่นคงของเศรษฐกิจแบบยั่งยืนในทุกสถานการณ์ไม่ว่าในสมัยที่ถูกคว่ำบาตร หรือไม่ถูกคว่ำบาตรก็ตาม  ก็คือคุณลักษณะประการสุดท้ายที่ท่านผู้นำสูงสุดได้ตอบคำถามโจทย์แรก คือ คุณลักษณะแห่งซัลบีย์และอิญาบีย์(สัญลักษณ์แห่งการบังคับและสัญลักษณ์แห่งละทิ้ง) ของเศรษฐกิจแบบยั่งยืน


ท่านผู้นำสูงสุด ยังได้ตอบคำถามโจทย์เฉพาะในประเด็นที่ว่า เป้าหมายและวัตถุประสงค์ของสิ่งนี้จะบังเกิดและบรรลุผลหรือไม่    หรือว่ามันเป็นเพียงแค่ความคาดหวังและความหวังที่ล้มๆแล้งๆเท่านั้น ?  ซึ่งท่านผู้นำสูงสุด ได้ตอบในเชิงปฏิเสธอย่างหนักแน่นเด็ดเดี่ยว พร้อมกับอธิบายอ้างอิงยังเอกสารข้อมูลและข้อเท็จจริง 

 

ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลาม กล่าวย้ำว่า ศักยภาพอันมหาศาลของกำลังคน  อาทิเช่น จำนวน เยาวชนหนุ่มสาว  ผู้สำเร็จการศึกษาจากสถาบันมหาวิทยาลัยจำนวน 10   ล้านคน   จำนวนนักศึกษาที่มีประมาณ 4   ล้านกว่าคน   และกองกำลังที่มีความเชี่ยวชาญ ชำนาญการ และมีประสบการณ์ด้านอุตสาหกรรมและด้านที่ไม่อุตสาหกรรม อีกนับล้านคน และนอกเหนือจากสิ่งนี้ ยังมีแหล่งธรรมชาติที่มากมาย และเปี่ยมล้นด้วยคุณค่า  ที่ตั้งภูมิศาสตร์ที่โดดเด่น  โครงสร้างขั้นพื้นฐานในด้านซอฟแวร์และฮาร์ดแวร์  ซึ่งสิ่งเหล่านี้บ่งชี้ว่า เศรษฐกิจแบบยั่งยืนจะต้องประสบคามสำเร็จและบรรลุผลอย่างแน่นอน


ท่านผู้นำสูงสุด กล่าวเสริม ว่า บางครั้งอาจมีบางคน กล่าวว่า  ภาวะเงื่อนไขของการถูกคว่ำบาตรนั้น จะไม่เอื้อต่อการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรอันมหาศาลนี้ได้   ถามว่า ในวันนี้ เราไม่ได้ตกอยู่ในสภาวะแห่งการถูกคว่ำบาตรอีกกระนั้นหรือ แต่ขณะเดียวกันในด้านวิทยาศาสตร์ และขีปนาวุธปกป้อง อาทิเช่น นาโน พลังอาวุธนิวเคลียร์ เซลล์ต้นกำเนิดและอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ และขีปนาวุธที่ทันสมัย  แต่เรากลับสามารถพัฒนาและประสบความสำเร็จที่น่าทึ่งได้อย่างมีประสิทธิภาพ 


ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลาม กล่าวย้ำว่า ด้วยการพิจารณาข้อเท็จจริงในสิ่งนี้ หากมีความตั้งใจและมุ่งมั่นอย่างแท้จริง  ร่วมแรงร่วมใจ และร่วมมือซึ่งกันและกัน  และไม่ได้อ่อนข้อต่อศัตรูแม้แต่น้อย  ไม่ว่าจะถูกคว่ำบาตรหรือไม่ถูกคว่ำบาตร  ในเวทีต่างๆ รวมทั้ง เศรษฐกิจ แน่แท้ยิ่งก็จะพบกับความแข็งแกร่งและความมั่งคั่งแห่งชาติอย่างแน่นอนความจำเป็นในการบรรลุผลเศรษฐกิจคือคำถามข้อที่สาม โดยที่ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี  ได้ชี้ถึงเหตุผลแห่งความสำคัญในเรื่องนี้ ซึ่งก็เป็นอีกส่วนหนึ่งของคำปราศรัยของท่านผู้นำสูงสุดในวันแรก ของปีใหม่ปีนี้ในประเด็นนี้ท่านผู้นำสูงสุด ได้เจาะถึงประเด็นสำคัญ สี่ประการด้วยกัน คือ  1    การสนับสนุนของเจ้าหน้าที่จากทุกฝ่าย เริ่มตั้งแต่กระบวนการผลิตแห่งชาติ ภายใต้ห่วงโซ่หลักแห่งการพัฒนาและความเจริญรุ่งเรืองของประเทศ   2   ให้ความสำคัญต่อนักลงทุนและผู้ผลิตเพื่อเพิ่มผลผลิตและการผลิตแห่งชาติ   3   และเลือกเจ้าของลงทุนในภาคกิจกรรมแห่งการผลิต ทดแทนการปรากฏตัวในด้านต่างๆนอกจากเหนือจากการผลิต   4   และความมุ่งมั่นของประเทศในการใช้ผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นและภายใน  โดยที่ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลามอธิบายเสริมว่า  ข้าพเจ้าไม่ได้สั่งห้ามการซื้อขายสิ้นค้าต่างประเทศ แต่ข้าพเจ้าขอกล่าวว่า  การบริโภคสินค้าภายในเพื่อความยืนหยัดและสรรสร้างความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจและความก้าวหน้าของประเทศเป็นสิ่งที่จำเป็นและสำคัญยิ่ง  ซึ่งสามารถส่งผลกระทบเชิงบวกต่อทุกด้าน อาทิเช่น  การจ้างงานและเพิ่มคุณภาพของผลิตภัณฑ์ท้องถิ่น  ซึ่งบรรดาเจ้าหน้าที่และคณะผู้บริหารย่อมมีภารกิจที่หนักกว่าจากบุคคลอื่นๆอย่างแน่นอน 


ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลาม ได้สรุปเนื้อหาที่กล่าวมาข้างต้น พร้อมกับกล่าวย้ำในความร่วมมือและการสร้างบทบาทของประชาชนทุกภาคส่วนและบรรดาเจ้าหน้าที่ในการสร้างความมั่นคงของพื้นฐานต่างๆของเศรษฐกิจ และประเด็นวัฒนธรรม   พร้อมกับกล่าวย้ำว่า ประเด็นนี้มีความสำคัญยิ่งกว่าเศรษฐกิจด้วยซ้ำ 

 

ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ได้อธิบายเหตุผลความสำคัญของวัฒนธรรม ว่า วัฒนธรรมเสมือนกับอากาศ ไม่ว่าเราจะต้องการหรือไม่ ก็จำต้องมีการสูดดมหายใจ  ด้วยเหตุนี้หากมีความบริสุทธิ์ หรือมีความสกปรก ย่อมมีผลกระทบต่างๆนานา ต่อสังคมอย่างแน่นอนแม้ว่าเราจะไม่พึงประสงค์ก็ตาม


ท่านผู้นำสูงสุดได้อ้างถึงข้อมูลที่มีผลกระทบที่ไร้ซึ่งเหตุและผลของวัฒนธรรมในมุมมองของประชาชนต่อประเด็น อาทิเช่น การผลิตผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นและภายใน การเข้มงวดต่อกฎหมาย และประเด็นครอบครัว   พร้อมกับกล่าวเสริมว่า ทุกพฤติกรรมแห่งวิถีของประชาชน ประเพณีการปฏิบัติ และ “มุมมองแห่งเศรษฐกิจ สังคมและการเมือง” ของประชาชนจำต้องเรียนรู้จากวัฒนธรรม  ด้วยเหตุนี้หลักความเชื่อแห่งวัฒนธรรม ย่อมมีความสำคัญกว่าทุกประเด็นและในด้านเวทีอื่นๆอย่างแน่นอน 


ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลาม ถือว่า การพุ่งเป้าและมุ่งโจมตีของศัตรูในประเด็นวัฒนธรรมนั้น ก็เนื่องจากความสำคัญของประเด็นนี้นั้นเอง  พร้อมกับกล่าวย้ำว่า  บรรดาเจ้าหน้าที่วัฒนธรรม จำต้องมีความละเอียดอ่อน  มีไหวพริบและเฉลียวฉลาด และระมัดระวังเหตุการณ์ที่เสี่ยงต่อการเกิดภาวะอันตรายในเรื่องของวัฒนธรรม และจำต้องอาศัยภารกิจในเชิงบวกและการปกป้องตนเองเข้าสู่สนามนี้


ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ได้ชี้ ถึงผลกระทบเชิงลบในข้อบกพร่อง  การทำงานที่น้อยนิด และไร้กฎระเบียบแผนงานภายในต่อประเด็นวัฒนธรรมโดยรวม ว่า ทุกอุปสรรค์ปัญหาทางวัฒนธรรม ไม่ใช่เกิดมาจากศัตรูทั้งหมด แต่ทว่า อย่าทำให้การเคลื่อนไหวต่างๆเหล่านี้ นำมาซึ่งการบ่อนทำลายผลงานสามสิบห้าปีที่บรรดาศัตรูปฏิเสธ หรือเพิกเฉยเป็นอันขาด


ท่านผู้นำสูงสุด ถือว่า “อิสรภาพ” เป็นหนึ่งในคำขวัญหลักของการปฏิวัติและรากฐานของสาธารณรัฐอิสลาม   พร้อมกับกล่าวเสริมว่า ความละเอียดอ่อนของบรรดาเจ้าหน้าที่ในประเด็นปรากฏการณ์และการบิดเบือนทางวัฒนธรรมนั้น มันไม่ได้ค้านและคัดแย้งกับอิสรภาพไม่  เพราะอิสรภาพนั้นถือว่าเป็นนิอ์มัต ความโปรดปรานอันยิ่งใหญ่ของพระผู้อภิบาล และด้วยการเพิกเฉย และการละเลย มันย่อมมีความแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง

 ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลาม ได้ย้ำว่า อิสรภาพที่ไร้ซึ่งกฎเกณฑ์นั้น มันไม่มีความหมายใดๆ  พร้อมกับกล่าวย้ำถึง การยืนหยัดที่แน่วแน่ของผู้แอบอ้างชาวตะวันตกในด้านสิทธิมนุษย์ชนและเขตเส้นสีแดงของตน ซึ่งท่านผู้นำเสริมกล่าวว่า ในยุโรปไม่มีใครกล้าที่จะสร้างข้อครางแคลนสงสัยในประเด็นการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์  ซึ่งข้อเท็จจริงและรูปแบบในการฆ่านั้นยังชัดแจ้ง   แล้วในเวลานั้นยังคาดหวังจากเรา ให้มีการยกเลิกและเพิกเฉยต่อเขตเส้นสีแดงของการปฏิวัติและอิสลาม    


ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ได้ชี้ยังประเด็นบางเรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้ ว่า  หากผู้ใดล้อเลียนและละเล่นยังจิตวิญญาณแห่งอิสรภาพแห่งชาติ ถือว่า ได้ทำการหมิ่นยังรากฐานด้านศีลธรรม อัคลากและสังคมแห่งศาสนาอย่างแน่นอน  คำขวัญหลักของการปฏิวัติอิสลามตกเป็นเป้าโจมตี ภาษาเปอร์เซียและสิ่งรังสรรค์แห่งชาติถูกดูหมิ่นดูแคลน พร้อมกันนั้นมีการส่งเสริมความเสรี โดยมุ่งทำลายจิตวิญญาณแห่งเกียรติยศศักดิ์ศรีแห่งชาติในหมู่เยาวชนชาวอิหร่าน และความเคลื่อนไหวที่จ้องจะทำลายต่างๆเหล่านี้  แล้วเราต้องเพิกเฉยกระนั้นหรือ???

ท่านผู้นำสูงสุด ได้ชี้ถึงการทนรับสภาพที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ของตะวันตกในประเด็น อาทิเช่น ฮิญาบ ความอคติที่มืดบอดต่อประเด็นพี่น้องประชาชนของบางประเทศ ว่า สิ่งเหล่านี้คือสัญลักษณ์ของการทนรับสภาพที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ของตะวันตก ซึ่งบางประเทศชาติที่เป็นมิตร ก็ได้ทำการส่งเสริมปลูกฝั่งวัฒนธรรมอิหร่านอีกด้วย 


ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลามได้กล่าวถึงบรรดาเจ้าหน้าที่หน่วยงานต่างๆภาควัฒนธรรมและการตับลีฆ การเผยแพร่ ทั้งที่เป็นลักษณะตรงและทางอ้อม ที่เกี่ยวข้องกับรัฐบาลชุดนี้ ว่า  จงอย่าหวาดกลัว ความดันทุรันและการประโคมข่าวของสื่อสารมวลชนต่างชาติหรือ สื่อสารมวลชนภาษาต่างๆ และอย่าได้กำหนดระเบียบของวิถีแห่งตนตามพวกเขาเป็นอันขาด


ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ได้อธิบายถึงภารกิจที่หนักอึ้งของบรรดาเจ้าหน้าที่และเจ้าหน้าที่หน่วยงานด้านวัฒนธรรม ว่า ประเด็นที่สำคัญในคำพูดของข้าพเจ้าในประเด็นว่าด้วยวัฒนธรรม คือ ขอกล่าวสำทับแด่บรรดาเยาวชนผู้ศรัทธาและเยาวชนนักปฏิวัติทั่วประเทศ ซึ่งกำลังดำเนินการปฏิบัติงานและดำเนินกิจกรรมต่างๆด้านวัฒนธรรมในรูปลักษณะแห่งความเข้มข้น มุ่งมั่นและสร้างนวัตกรรม และเป็นการปฏิบัติงานที่ดีมาก


ท่านผู้นำสูงสุด ได้กล่าวย้ำถึงบรรดาเยาวชน ว่า  โอ้บรรดาเยาวชนที่รักยิ่งของข้าพเจ้า  จงก้าวมั่นในการปฏิบัติงานให้จริงจังมากกว่านี้ เพราะการจัดกิจกรรมความเคลื่อนไหวด้านวัฒนธรรมของพวกท่าน  นับตั้งแต่เริ่มแรกของการปฏิวัติ มันได้แสดงบทบาทที่สำคัญยิ่งในการยืนหยัดและความเจริญก้าวหน้าของประเทศ 


ท่านผู้นำสูงสุด ได้ชี้ถึงแกนนำด้านวัฒนธรรม อาทิเช่น บรรดาอุลามาอ์ ครูบาอาจารย์  นักคิดนักอ่านที่มีอุดมการณ์ปฏิวัติและบรรดานักศิลปะที่มีความเคร่งครัดในศาสนา  พร้อมกับแนะนำสิ่งที่สำคัญว่า  จงรักษาโลกทัศน์แห่งการวิพากษ์ของตนไว้ที่มีต่อประเด็นวัฒนธรรม  และด้วยตรรกะที่มั่นคง และการอธิบายที่ชัดแจ้ง และชัดเจน ซึ่งสิ่งนี้จำต้องมีการย้ำเตือนเป็นพิเศษต่อบรรดาเจ้าหน้าที่


ท่านผู้นำสูงสุดกล่าวย้ำว่า ในประเด็นนี้จำต้องห่างไกลและหลีกเลี่ยงการใส่ร้ายป้ายสี การสร้างความวุ่นวายและการกล่าวหาซึ่งกันและกัน  และองค์ประกอบรวมทั้งหมดของการปฏิวัติ ซึ่งรวบทั้งบรรดาเยาวชนหนุ่มสาวผู้ศรัทธา บรรดาผู้อาวุโสและมันสองของชาติ จำต้องมีการอาศัยหลักตรรกะที่มั่นคงและโลกทัศน์แห่งการวิพากษ์ ชี้แนะประเด็นจุดอ่อนของบรรดาเจ้าหน้าที่  และนี้คือ ความมุ่งมั่นแห่งชาติและการบริหารจัดการแบบญิฮาดีในประเด็นวัฒนธรรม นั้นเอง


ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ได้ชี้ถึงการประกาศคำขวัญปี 92    ว่า “ปีแห่งการสร้างวีรกรรมทางการเมืองและเศรษฐกิจ”  ว่า ในประเด็นวีรกรรมทางการเมือง นั้น สิ่งที่ประชาชนคาดหวัง มันก็ได้บังเกิดผลและประสบความสำเร็จแล้ว และด้วยการขับเคลื่อนอันยิ่งใหญ่สองครั้ง คือ การเลือกตั้งประธานาธิบดีสมัยที่สิบเอ็ด และเหตุการณ์การเดินขบวนประท้วงครั้งยิ่งใหญ่ในวันที่ 22  บะห์มัน   นั้น    วีรกรรมแห่งการเมืองได้บรรลุผลและบังเกิดขึ้นอย่างแท้จริง

 

ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลาม ถือว่า สองปรากฏการณ์ครั้งใหญ่ การเลือกตั้งประธานาธิบดีและการเดินขบวนประท้วงวันที่ 22  บะห์มัน   ทำให้ได้รับการสะท้อนกันอย่างแพร่หลายในข้อเท็จจริงของประเทศและประชาชาติอิหร่านต่อการประโคมข่าวอันมากมายของสื่อสารมวลชนในเวทีระดับโลกได้เป็นอย่างดี 


ท่านผู้นำสูงสุด ได้กล่าวย้ำ ว่า ประเด็นสำคัญของการเลือกตั้งในระบอบอิสลามคือ  อัตราเฉลี่ยของการเข้าร่วมของประชาชนในการเลือกตั้งครั้งแล้วครั้งเล่า ตั้งแต่เริ่มแรกการปฏิวัตินั้น ไม่เคยลดลงแม้แต่น้อย และในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสมัยที่สิบเอ็ด ก็เช่นกัน มีผู้ออกมาใช้สิทธิ์คิดเป็นร้อยละ 72   อันเป็นสถิติที่โดดเด่นที่สุดที่ถูกจารึกไว้


ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลาม กล่าวเสริมว่า  ความหมายของการปรากฏตัวอย่างต่อเนื่องของประชาชนในทุกเวที อันเป็นการบันทึกและการประทับตราแห่งประชาธิปไตยแบบศาสนาในสาธารณรัฐอิสลามนั้นเอง ซึ่งจำต้องรู้จักคุณค่าของนิอมัตและความโปรดปรานนี้ แต่เป็นที่น่าเสียดายที่ว่า บางเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในการเลือกตั้งปี 88    นั้น  เป็นการเนรคุณต่อนิอ์มัตและความโปรดปรานครั้งใหญ่


ท่านผู้นำสูงสุด ได้ชี้ถึง การเข้าร่วมและการปรากฏตัวอย่างเนืองแน่นและมีความเร่าร้อนเพิ่มมากขึ้นของประชาชนในการเดินขบวนประท้วงวันที่ 22    บะห์มัน  พร้อมกับชี้ถึงเหตุผลที่แท้จริงของการปรากฏตัวและเข้าร่วมอันโดดเด่นเช่นนี้ของประชาชาติอิหร่านในการเผชิญหน้ากับนโยบายแห่งแนวรบของมหาอำนาจในการเผชิญหน้ากับพี่น้องประชาชน ด้วยน้ำเสียงที่ไร้มารยาท และการดูหมิ่นดูแคลนของสหรัฐอเมริกาที่มีต่อประชาชาติอิหร่าน


ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี กล่าวเสริมว่า ในขณะที่มีการเจรจาด้านนิวเคลียร์เพื่อสันติ แต่บรรดานักการเมืองของอเมริกากลับมีความพยายามแสดงออกถึงคำพูดคำจาที่ไร้มารยาท หยาบคาย เพื่อบ่งชี้ว่าประชาชนชาวอิหร่านจะหันกลับและทบทวนคำพูดและหันเหจากหลักพื้นฐานของตน แต่ทว่าประชาชาติอิหร่าน ได้สำแดงความละเอียดอ่อน ความฆัยรัต และแรงจูงใจอันแรงกล้าในปรากฏตัวในทุกเวที  และบ่งชี้ถึงการยืนหยัดบนพื้นฐานหลักของสาธารณรัฐอิสลาม และธงชัยแห่งอิสลามและระบอบอิสลามได้อย่างมีเกียรติยิ่ง


ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ได้กล่าวในช่วงท้าย ถึงความล้มเหลวของอเมริกาในทุกภาคส่วนในพื้นที่ของโลก  อาทิเช่น  ปาเลสไตน์ ซีเรีย อีรัก อัฟกานิสถาน และปากีสถาน   พร้อมกับกล่าวชี้ว่า ข้อเท็จจริงของสังคมโลก ไม่ได้เดินไปตามความต้องการของอเมริกา 


ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลามกล่าวเสริมว่าในประเทศอันเป็นที่รักของเราก็เช่นกัน ภายหลังจากสามสิบปีของความพยายามของศัตรูที่ได้กระทำการต่อต้านการปฏิวัติอันนี้ และด้วยความบารอกัตของการปรากฏตัวและเข้าร่วมของประชาชน พวกเขาก็ไม่บรรลุผลและประสบความสำเร็จเช่นกัน 


ท่านผู้นำสูงสุด กล่าวเสริมว่า   บรรดาบุคคลผู้มีบทบาทในรัฐบาลอเมริกาและระบอบของอเมริกา ได้กล่าวถึงเรื่องนี้ไว้อย่างชัดเจนว่า  พวกเราได้ดำเนินมาตรการและยกระดับความรุนแรงของการค่ำบาตรต่าง ๆ เพื่อที่จะดึงประชาชนออกมาสู่ท้องถนนต่าง ๆ ในการต่อต้านระบอบปกครอง อิสลาม และจะถอนรากถอนโคนการปฏิวัติ  แต่ด้วยการปรากฏตัวอย่างเร่าร้อน กระตือรือร้นและอย่างมีความเข้าใจแจ่มแจ้ง ทำให้พวกเขาประสบกับความล้มเหลวอีกครั้งหนึ่ง


ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลาม ได้กล่าวในช่วงท้ายว่า  ด้วยความโปรดปรานของพระผู้อภิบาล บรรดาเยาวชนที่รักของเราจงรู้เถิดว่า อนาคตอันสดใสบนพื้นแผ่นดินที่ทรงเกียรติ์นี้จะเป็นของบรรดาเยาวชนอย่างแน่นอน และบรรดาศัตรูก็จะพบกับความพ่ายแพ้และสิ้นหวังอีกครั้งอย่างแน่นอน  


700 /