สำนักผู้นำสูงสุดซัยยิด อาลี คาเมเนอี

คณะผู้บริหารหน่วยงานต่างๆด้านเศรษฐกิจ เข้าพบท่านผู้นำสูงสุด

นักกิจกรรมเคลื่อนไหวด้านเศรษฐกิจ และบรรดาผู้อำนวยการสถาบัน

เมื่อช่วงเช้าวันอังคารที่ผ่านมา คณะผู้บริหารองค์กร หน่วยงานต่างๆ  นักกิจกรรมเคลื่อนไหวด้านเศรษฐกิจ และบรรดาผู้อำนวยการสถาบัน” วิทยาศาสตร์ สื่อสารมวลชน และคณะตรวจสอบ”  นับร้อยคน เข้าพบท่าน อยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ผู้นำการปฏิวัติอิสลาม   โดยที่ ท่านผู้นำสูงสุด ได้ทำการอธิบาย “ดัชนีตัวชี้วัด และองค์กรประกอบต่างๆของนโยบายเศรษฐกิจแบบยั่งยืน  ปัจจัย และแรงจูงใจในการร่างนโยบายต่างๆ และปัจจัยพื้นฐานที่จำเป็น อีกทั้งความคาดหวังในประเด็นนี้จากคณะผู้บริหาร”   พร้อมกับกล่าวย้ำว่า  “ความตั้งใจอย่างจริงจังของคณะผู้บริหาร”  “การเปลี่ยนนโยบายต่างๆให้เป็นไปตามแผนร่างที่ชัดเจนพร้อมในการดำเนินการ”  “การตรวจสอบที่ละเอียดรอบคอบ”  ขจัดสิ่งขวางกั้นต่อการเข้าร่วมของนักกิจกรรมเคลื่อนไหวและประชาชนในเวทีเศรษฐกิจ”  และ “สร้างวาทกรรม”  ซึ่งเป็นปัจจัยและสิ่งอำนวยความสะดวกในการก่อให้บังเกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งสามารถประจักษ์ชัดถึงผลลัพธ์อันหวานชื่น และสัมผัสถึงแบบอย่างแห่งท้องถิ่น ดั่งเดิมและวิทยาศาสตร์ ภายในระยะเวลาทีเหมาะสมในวิถีของประชาชน 


ช่วงแรก ในการพบปะครั้งนี้ ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ถือว่า วัตถุประสงค์ในการจัดประชุมที่มีคณะผู้บริหารระบอบเข้าร่วมนั้น เพื่อสร้างพื้นฐานแห่งความสามัคคี และมีความคิดอันหนึ่งเดียว เพื่อดำเนินการตามนโยบายรวมของเศรษฐกิจแบบยั่งยืน  และ การเร่งรีบในการพัฒนาประเทศและขับเคลื่อนสู่แนวทางแห่งการบรรลุซึ่งอุดมการณ์อันสูงส่งของระบอบอิสลาม


ท่านผู้นำสูงสุด ชี้ถึงการประกาศใช้นโยบายต่างๆที่หลากหลายในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ว่า วัตถุประสงค์ในการประกาศใช้นโยบายต่างๆเหล่านี้ เพื่อนำเสนอแผนร่างให้กับทุกหน่วยงาน  แต่ทว่าในประเด็นของนโยบายโดยรวมของเศรษฐกิจแบบยั่งยืน นั้น  นอกเหนือจากเป็นแผนร่างแล้ว  ยังมีการกำหนดวางโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อประกาศใช้ให้เป็นแขนงสาขาที่จำเป็นและถูกต้องเพื่อก้าวเดินในเส้นทางที่ถูกต้อง 


 ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลามกล่าวย้ำว่า  องค์ประกอบของนโยบายโดยรวมของเศรษฐกิจแบบยั่งยืน นั้น ในความเป็นจริงแล้ว เป็นแบบอย่าง ต้นแบบแห่งภูมิปัญญาท้องถิ่น และวิทยาศาสตร์  ซึ่งมีพื้นฐานมาจากวัฒนธรรมแห่งการปฏิวัติ  พื้นฐานอิสลาม และสอดคล้องกับสถานการณ์ในวันนี้และอนาคตของประเทศ

ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี   ถือว่า นโยบายต่างๆของเศรษฐกิจแบบยั่งยืน มิได้เจาะจงจำเพาะเพียงแค่สถานการณ์และเงื่อนไขในวันนี้เท่านั้น ทว่าเป็นการบริหารเชิงระยะยาวเพื่อเศรษฐกิจของประเทศ และเพื่อบรรลุยังเป้าหมายที่สูงส่งแห่งเศรษฐกิจของระบอบอิสลาม


ท่านผู้นำสูงสุด ยังได้ชี้ถึง   แผนนโยบายโดยรวมของเศรษฐกิจแบบยั่งยืนว่า  นโยบายต่างๆเหล่านี้สามารถที่จะเสริมและปรับปรุงให้สมบูรณ์แบบและนำมาประยุกต์ใช้ให้สอดคล้องกับเงื่อนไขต่างๆของวันนี้ และการดำเนินไปในลักษณะเช่นนี้ก็จะสามารถให้เศรษฐกิจของประเทศมีสภาพคล่องในทิศทางที่ดีขึ้น และสามารถขจัดสภาพล้มเหลวทางเศรษฐกิจในสภาวะเขื่อนไขต่างๆได้เป็นอย่างดี


ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลาม กล่าวเสริมว่า หนึ่งในคุณลักษณะที่สำคัญของนโยบายโดยรวมของเศรษฐกิจแบบยั่งยืน คือ การมีมิติและความเห็นชอบเหมือนกันของทุกฝ่าย และหน่วยงานที่รับผิดชอบต่างๆ ในประเด็นนี้ เพราะแบบอย่างเช่นนี้ ถูกร่างขึ้น ด้วยความมุ่งมั่น เพียรพยายาม และมีความคิดที่เหมือนกันจากบรรดานักคิด เจ้าของทัศนะ และมีการพิจารณา วิเคราะห์ในมัจญมะอ์ ตัสฆีส มัศฮัตเตนิศอมอีกด้วย  ซึ่งก็มีคณะผู้บริหารสามฝ่าย และคณะผู้บริหารจากหน่วยงานและองค์กรต่างๆเข้าร่วม  


ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี  ถือว่า นโยบายเศรษฐกิจแบบยั่งยืนเป็นองค์ประกอบที่มีความแม่นยำและมั่นคง   พร้อมกับกล่าวย้ำว่า การแสวงหาเศรษฐกิจแบบยั่งยืนมิได้มีเฉพาะประเทศอิหร่านเท่านั้น ซึ่งในปีล่าสุดที่ผ่านมา อันเนื่องจากภาวะวิกฤติทางเศรษฐกิจโลก มีประเทศจำนวนมากแสวงหาความมั่นคั่งทางเศรษฐกิจ โดยอาศัยเงื่อนไขและโครงสร้างภายในของตนเป็นที่ตั้ง


ท่านผู้นำสูงสุด กล่าวย้ำว่า  ทั้งนี้ทั้งนั้นประเทศของเรา  มีความจำเป็นต่อเศรษฐกิจแบบยั่งยืนมากกว่าประเทศอื่นๆ เพราะด้านหนึ่งนั้นประเทศเหมือนเรา ก็เหมือนประเทศอื่นๆมีความสัมพันธ์กับเศรษฐกิจของโลก และมีความตั้งใจอย่างแน่วแน่ในการสานต่อความสัมพันธ์เช่นนี้ และแน่แท้ยิ่งย่อมได้รับผลกระทบจากประเด็นเศรษฐกิจโลกชนิดที่เลี่ยงไม่ได้  และอีกด้านหนึ่งระบอบอิสลาม เนื่องจากด้วยเหตุผลแห่งความอิสรภาพ  และยึดมั่นบนพื้นฐานแห่งเกียรติ์ยศ ศักดิ์ศรี และไม่ตกอยู่ภายใต้อิทธิพลของนโยบายต่างๆของมหาอำนาจโลก จึงถูกคุกคาม ปองร้ายและสร้างความวุ่นวายให้เกิดขึ้นอยู่เสมอ 


ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลาม กล่าวย้ำว่า บนพื้นฐานของรากฐานดังกล่าวนี้และเหตุผลตามหลักตรรกะ จำต้องยืนหยัดอย่างมั่นคงบนพื้นฐานแห่งเศรษฐกิจของประเทศ  และอย่าให้เหตุการณ์ต่างๆ  แรงกดดันและแรงกระตุ้นที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้มาบ่อนทำลาย   เช่นเดียวกันอย่าทำให้เศรษฐกิจของประเทศต้องตกอยู่ภายใต้อิทธิพลของการถูกปองร้าย และการแซงชั่นของมหาอำนาจเป็นอันขาด


หลังจากที่ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ได้อธิบายบทบาทและความสำคัญของนโยบายโดยรวมของเศรษฐกิจแบบยั่งยืน  ที่อยู่บนพื้นฐานตามหลักเหตุผล รากฐานด้านสติปัญญาแห่งการยืนหยัดเศรษฐกิจอย่างมั่นคั่ง    ก็ได้อธิบายถึงคุณลักษณะและองค์ประกอบสิบประการของเศรษฐกิจแบบยั่งยืน 


ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลาม กล่าวในประเด็นนี้ว่า  ภายหลังจากการดำเนินนโยบายเศรษฐกิจโดยรวมแบบยั่งยืนแล้ว ก็จำต้องสรรสร้างภาคส่วนต่างๆให้เกิดขึ้น  อาทิเช่น  การเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ  การผลิตแห่งชาติ  ความยุติธรรมทางสังคม การจ้างงาน อัตราเงินเฟ้อ และสวัสดิการโดยรวม ต้องมีการพัฒนาสู่ทิศทางที่ดีขึ้น และสร้างความมั่นคั่งทางเศรษฐกิจให้เกิดขึ้น 


ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ได้ย้ำเตือนและชี้ประเด็นหนึ่งขององค์ประกอบนี้  พร้อมกับกล่าวย้ำว่า ความยุติธรรมทางสังคมเป็นดัชนีตัวชี้วัดที่สำคัญ ในบรรดาดัชนีตัวชี้ข้ออื่นๆ   เพราะความมั่นคั่งของเศรษฐกิจ ไม่อาจถูกตอบรับได้หากปราศจากความยุติธรรมทางสังคม  และทุกความเจริญรุ่งเรืองและการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ จำต้องมีการแก้ไขยกระดับฐานะของชนชั้นที่ด้อยโอกาสให้ดีขึ้น ตามความหมายอย่างแท้จริง

ท่านผู้นำสูงสุด ถือว่า ความสามารถแห่งการยืนหยัดต่อปัจจัยแห่งการคุกคามต่างๆ เป็นคุณลักษณะประการที่สองของนโยบายโดยรวมของเศรษฐกิจแบบยั่งยืน  พร้อมกับกล่าวย้ำว่า แรงกระตุ้นของเศรษฐกิจโลก ภัยพิบัติทางธรรมชาติ และแรงกระตุ้นที่รุนแรง อาทิเช่น การคว่ำบาตร  ถือเป็นหนึ่งในปัจจัยเหตุของการถูกคุกคาม


ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลาม ได้อธิบายถึงดัชนีตัวชี้วัดประการที่สามของนโยบายเศรษฐกิจแบบยั่งยืน คือ  การพึ่งพายังศักยภาพและความสามารถต่างๆที่มีอยู่ภายใน  พร้อมกับกล่าวว่า ความสามารถในที่นี้ หมายถึง ความสามารถอย่างแพร่หลายทางวิทยาศาสตร์  มนุษย์ศาสตร์   ทรัพยากรธรรมชาติ  การเงิน ภูมิศาสตร์ และภูมิอากาศ   ซึ่งจำต้องพึ่งพาอาศัยสิ่งเหล่านี้ในการดำเนินการตามนโยบายเศรษฐกิจแบบยั่งยืน


ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ได้ชี้ถึงประเด็นหนึ่งที่สำคัญที่ ว่า การพึ่งพาอาศัยศักยภาพและความสามารถภายในนั้น มันมิได้หมายถึง  การปิดกั้นสิ่งอำนวยความสะดวกจากต่างประเทศ  แต่ทว่า ระบอบอิสลาม ขณะที่พึ่งพาอาศัยความสามารถภายในที่มีอยู่ แล้ว ก็ต้องอาศัยใช้สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆจากต่างประเทศ เท่าที่มีความสามารถให้ได้มากที่สุด


ท่านผู้นำสูงสุด ได้ชี้ถึงองค์ประกอบและตัวชี้วัดประการที่สี่ ถึงปฏิกิริยาด้านความมุมานะและเพียรพยายาม ว่า การดำเนินนโยบายนี้ มิอาจบังเกิดขึ้นได้ ด้วยการขับเคลื่อนแบบปรกติธรรมดา อีกทั้งความฝันอันเลื่อนลอยและปราศจากความกระตือรือร้นใดๆ  แต่จำต้องอาศัยการวางแผนที่ดี  การขับเคลื่อนเชิงวิทยาศาสตร์ มีความตั้งใจและการบริหารจัดการอย่างมุ่งมั่น


ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลามกล่าวย้ำว่า  เป็นที่น่ายินดี ที่ประธานาธิบดีที่มีเกียรติ์ ได้ประกาศในที่ประชุมของคณะผู้บริหารสามฝ่ายครั้งล่าสุด ว่า บรรดาคณะฝายผู้บริหารทุกท่านที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับนโยบายนี้  ได้ตัดสินใจในการขับเคลื่อนและมีความตั้งใจอย่างจริงจังและมุ่งมั่น การมีส่วนร่วมของประชาชนเป็นที่ตั้ง เป็นองค์ประกอบและดัชนีชี้วัดประการที่ห้าที่ ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ได้ชี้ถึงในครั้งนี้  พร้อมกับกล่าวเสริมว่า ตามหลักพื้นฐานของมาอารีฟอิสลามและศาสนา อีกทั้งบนพื้นฐานแห่งประสบการณ์ตลอดช่วง 35     ปีที่ผ่านมา  ในทุกเวทีที่ประชาชนมีส่วนร่วมและเข้าสู่ภาคสนาม ความโปรดปรานและการช่วยเหลือของพระผู้อภิบาลจะคงมีอยู่เสมอ และกิจการงานทั้งหลายก็จะรุดหน้าได้อย่างรวดเร็ว


ท่านผู้นำสูงสุด กล่าวเสริมว่า  ถึงแม้นว่าในวันนี้ ในเวทีภาคเศรษฐกิจ จะไม่ได้ให้ความสำคัญเท่าที่ควรต่อการเข้าร่วมของประชาชน  ขณะที่ปัจจัยพื้นฐานในการใช้ประโยชน์จากความสามารถของพลังภายในที่ไร้ขีดความจำกัดของประชาชน รวมทั้งนักเคลื่อนไหทางเศรษฐกิจ ผู้ประกอบการ ผู้คิดค้นนวัตกรรม นักลงทุน และผู้ชำนาญการ นั้น มีความพร้อมอยู่แล้ว และจำต้องให้การสนับสนุนบุคคลเหล่านี้อย่างจริงจัง  ซึ่งภาระหน้าที่ทั้งหมดในการนี้จึงเป็นภาระหน้าที่ของรัฐบาล

ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลาม ถือว่า เป้าหมายของการประกาศใช้นโยบายโดยรวมตามมาตรา ที่ 44    ในช่วงหลายปีที่ผ่านมานั้น เพื่อนำมาใช้ประโยชน์จากศักยภาพ ขีดความสามารถและสิ่งอำนวยความสะดวกของประชาชนในภาคเศรษฐกิจของประเทศ  พร้อมกับกล่าวย้ำว่า  เป็นที่น่าเสียดาย ที่ นโยบายดังกล่าวนี้ยังไม่ได้ปฏิบัติเท่าที่ควร


ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี  ถือว่า การรักษาความปลอดภัยเชิงกลยุทธ์และสินค้าโภคภัณฑ์ที่จำเป็นโดยเฉพาะอย่างยิ่งอาหารและยารักษาโรคและการพึ่งตัวเองในรายการเหล่านี้   เป็นดัชนีชีวัดและองค์ประกอบประการที่หก ของนโยบายโดยรวมของเศรษฐกิจแบบยั่งยืน   พร้อมกับกล่าวเสริมในประเด็นประการที่เจ็ด ว่า ลดการพึ่งพารายได้จากน้ำมัน  ก็เป็นหนึ่งในคุณลักษณะหลักของนโยบายต่างๆเหล่านี้


ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลาม ถือว่า การปรับเปลี่ยนรูปแบบการบริโภค เป็นดัชนีชี้วัดและองค์ประกอบประการที่แปด   พร้อมกับกล่าวเสริมว่า  ประเด็นเนื้อหาหลักของประเด็นนี้ ต้องการที่จะมุ่งเป้ายังคณะเจ้าหน้าที่  ซึ่งในลำดับแรก จำต้องกำหนดบทบาทของภารกิจของตนเอง  จากนั้นจำต้องหลีกเลี่ยงการฟุ่มเฟือยและสุรุยสุร่าย ให้มากที่สุด  และลำดับขั้นต่อมาในการนี้ คือ ในเรื่องของวิถีชีวิตของตนเองก็จำต้องระมัดระวังด้วย


ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี  กล่าวย้ำ ว่า ความเคร่งครัดของบรรดาเจ้าหน้าที่ ในการหลีกเลี่ยงจากความฟุ่มเฟือย และสุรุยสุร่าย นั้น จะเป็นตัวช่วยในการผลักดันจิตวิญญาณของประชาชนได้อย่างรวดเร็วและดีที่สุด  พร้อมกับกล่าวเสริมว่า  ความหมายของคำว่า  ปรับเปลี่ยนรูปแบบการบริโภค หาใช่เป็นการสร้างความยุ่งยากลำบากและพึ่งพอใจต่อสิ่งเหล่านี้ไม่  ทว่า เป้าหมายของสิ่งนี้ คือ การบริโภคที่วางอยู่บนพื้นฐานของแบบอย่างแห่งสติปัญญา มีการบริหารจัดการที่ดี  ถูกต้อง และเป็นไปตามแบบอย่างของอิสลาม


ท่านผู้นำสูงสุด ได้ชี้ถึง คำชุบฮาตต่างๆที่มีบางคน ได้นำเสนอในประเด็นเกี่ยวกับเศรษฐกิจแบบยั่งยืน   พร้อมกับกล่าวย้ำว่า เศรษฐกิจแบบยั่งยืน มันเป็นสิ่งที่ตรงกันข้ามกับสิ่งที่ได้ตั้งชุบฮาตขึ้นมา  เพราะเศรษฐกิจแบบยั่งยืนจะนำมาซึ่ง สวัสดิการ  การปรับปรุงวิถีชีวิตของประชาชนโดยรวมโดยเฉพาะชนชั้นผู้ด้อยโอกาสและยากไร้ การทุจริตคอรัปชั่น เป็นดัชนีชี้วัดและองค์ประกอบประการที่เก้า ที่ท่านผู้นำสูงสุดได้นำเสนอและกล่าวย้ำ ว่า ปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อนที่บริสุทธิ์ และเต็มไปด้วยการขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจอย่างเต็มกำลัง คือการรักษาความปลอดภัย และปัจจัยสำคัญของการรักษาความปลอดภัยทางเศรษฐกิจ คือ การมีมาตรการจัดการกับผู้ทุจริตคอรัปชั่นทางเศรษฐกิจและกลุ่มบุคคลที่ฝ่าฝืนกฎหมายอย่างเคร่งครัด 


ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ถือว่า ความโปร่งใส คือเงื่อนไขหลักในการเผชิญหน้ากับการทุจริตคอรัปชั่น   พร้อมกับกล่าวเสริมว่า จำต้องสร้างแวดล้อมและภาวะแห่งการแข่งขัน และสร้างให้เกิดความมั่นคั่งทางเศรษฐกิจ เพราะในสภาพแห่งแวดล้อมของความโปร่งใส บรรดาผู้ประกอบทางเศรษฐกิจจะมีความรู้สึกปลอดภัย พร้อมกันนั้น ในเงื่อนไขเช่นนี้ การแสวงหาความร่ำรวย ด้วยการคิดค้นนวัตกรรมใหม่ และก้าวหน้า ก็เป็นที่อนุญาตและเป็นที่ยอมรับของระบอบ


ท่านผู้นำสูงสุด ได้ชี้ถึงการประกาศความพร้อมของคณะผู้บริหารสามฝ่ายในการเผชิญหน้าจัดการกับการทุจริตคอรัปชั่นทางเศรษฐกิจว่า  ในประเด็นนี้ เพียงแค่การพูดจาอย่างเดี่ยว ถือว่าไม่เพียงพอ  และคณะเจ้าหน้าที่ทุกท่าน ทั้งฝ่ายบริหาร ตุลาการและนิติบัญญัติก็จำต้องรับผิดชอบอย่างจริงจัง  ประเด็นความรู้วิชาการ คือหัวข้อสุดท้ายของดัชนีชี้วัดและองค์ประกอบของเศรษฐกิจแบบยั่งยืน พร้อมกับกล่าวย้ำว่า  เงื่อนของประเทศในวันนี้ ในแง่ของการพัฒนาและการเจริญเติบโตด้านวิทยาศาสตร์และวิชาการนั้น ก็เป็นเป้าหมายหนึ่งของเรา ซึ่งสามารถที่จะก้าวไปสู่เศรษฐกิจแบบมวลรวมมหาภาค  ได้อย่างรวดเร็วด้วยความตั้งมั่นและความมุ่งมั่นอย่างแท้จริง


ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี กล่าวย้ำว่า เศรษฐกิจมวลรวมแบบมหาภาค เป็นโครงสร้างขั้นพื้นฐานที่สำคัญของเศรษฐกิจทุกประเทศ  และหากมีการให้ความสำคัญอย่างจริงจังต่อประเด็นนี้แล้ว  แน่นอนยิ่งกงล้อแห่งวิทยาศาสตร์และความรู้จะก้าวไปถึงความมั่นคั่งและสมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น


ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลาม ได้เริ่มคำพูดของท่านในช่วงที่สอง ด้วยการเปิดประเด็นคำถาม ว่า  นโยบายเศรษฐกิจโดยรวมแบบยั่งยืน เป็นการขับเคลื่อนแบบห้วงเวลาชั่วขณะ ซึ่งก่อรูปขึ้นมาภายใต้การถูกคว่ำบาตรกระนั้นหรือ??  คำตอบที่ท่านผู้นำสูงสุด มีไว้ในประเด็นนี้เป็นคำตอบที่หนักหน่วงชัดเจนว่า ไม่ใช่


ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลามกล่าวย้ำว่า เศรษฐกิจแบบยั่งยืน หาใช่นโยบายแบบห้วงเวลาชั่วขณะอย่างแน่นอน  ทว่า เป็นการบริหารจัดการเชิงกลยุทธ์ ซึ่งมีไว้สำหรับทุกยุคทุกสมัย “ไม่ว่าจะเป็นช่วงเวลาที่ถูกคว่ำบาตร หรือไม่ถูกคว่ำบาตรก็ตาม” โดยมันจะเป็นคุณประโยชน์  เป็นการปูทาง และเอื้อต่อความสำเร็จ


ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ได้อธิบายเหตุผลและแรงจูงใจในการร่าง และประกาศใช้นโยบายเศรษฐกิจแบบยั่งยืน  ด้วยการนำเสนอสี่ปัจจัยหลักที่สำคัญ  คือ ศักยภาพอันมากมายเหลือล้นในด้านวัตถุและจิตวิญญาณภายในประเทศ  การแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจที่รื้อรัง และยาวนาน   การจัดการกับการถูกคว่ำบาตร และลดลงอย่างเต็มรูปแบบต่อผลกระทบที่เกิดจากภาวะวิกฤติเศรษฐกิจโลก


ท่านผู้นำสูงสุด ได้ชี้ถึงประเด็นแรก ว่า  ศักยภาพอันสูงส่งด้านจิตวิญญาณของมนุษย์  ต้นทุน “แหล่งแร่ธาตุ ทรัพยากรธรรมชาติ และอุตสาหกรรม”  อีกทั้งมีภูมิศาสตร์ของประเทศที่ดีเลิศ  เป็นแจงจูงใจที่ทรงพลังเพื่อกำหนดแบบแผนแห่งความก้าวหน้าด้านเศรษฐกิจ นั้นหมายถึงเศรษฐกิจแบบยั่งยืน นั้นเอง 


ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ได้อธิบายถึงแรงจูงใจประการที่สองในการประกาศใช้นโยบายเศรษฐกิจแบบยั่งยืน ถึงความจำเป็นในการแก้ไขอุปสรรค์ปัญหาที่มีอยู่


โดยท่านผู้นำสูงสุด กล่าวเสริมว่า อุปสรรค์ปัญหาที่เรื้อรังและยาวนาน อาทิเช่น  อัตราเงินเฟ้อ  อัตราการว่างงาน  การพึ่งรายได้น้ำมัน  การนำเข้าตามอำเภอใจ  ข้อบกพร่องในโครงการสร้างบางประการ ผลผลิตตกต่ำ และมีรูปแบบแห่งการบริโภคที่ไม่ถูกต้อง  ซึ่งสิ่งต่างๆเหล่านี้ไม่อาจที่จะแก้ไขปรับปรุงเศรษฐกิจแบบยั่งยืนได้ นอกเสียจากการขับเคลื่อนที่มีการวางแผนที่ดีมาก่อนเป็นอันดับแรก 

ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ได้อธิบายการเผชิญหน้ากับสงครามทางเศรษฐกิจของศัตรูทุกรูปแบบ ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยเหตุผลในการร่างแผนนโยบายเศรษฐกิจแบบยั่งยืนครั้งนี้  พร้อมกับกล่าวเสริมว่า การคว่ำบาตรมีขึ้นก่อนหน้าประเด็นนิวเคลียร์ด้วยซ้ำ  หากการเจรจาบรรลุผล การคว่ำบาตรก็จะยังคงมีต่อไป  เพราะประเด็นนิวเคลียร์  ประเด็นสิทธิมนุษย์ชนและเรื่องอื่นๆนั้น  เป็นเพียงแค่คำกล่าวอ้างเท่านั้น  ซึ่งในคามเป็นจริงแล้วนั้น บรรดามหาอำนาจโลก มีความหวาดผวาต่อความเป็นอิสรภาพ และแบบอย่างของประชาชาติอิหร่าน


ท่านผู้นำสูงสุด กล่าวเสริมว่า แนวทางในการเยียวยาที่แข็งแกร่งที่สุดต่อการถูกคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจโดยศัตรู คือ  จำต้องทำให้เศรษฐกิจของตนมีความมั่นคงและแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น โดยที่อิทธิพลอันนี้ทำให้พวกเขาสิ้นหวังในการคว่ำบาตร ซึ่งเป้าหมายนี้ จะบังเกิดผลก็ต่อเมื่อมีการดำเนินการตามแผนนโยบายเศรษฐกิจที่ได้ประกาศใช้เท่านั้น 


ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี  ถือว่า ปัจจัยประการที่สี่ของการร่างนโยบายแห่งการยืนหยัดเศรษฐกิจของประเทศ เพื่อลดภาวะกดดันและอิทธิพลจากวิกฤติเศรษฐกิจโลก พร้อมกับกล่าวย้ำว่า ปัจจัยเหตุผลสี่ประการดังกล่าวนั้น เป็นบ่อเกิดแห่งโมเดลในการวางแผนงานเศรษฐกิจแบบยั่งยืนในการประกาศใช้นโยบายของระบอบ  ประเด็นที่สามในคำพูดของท่านผู้นำสูงสุด ในท่ามกลางผู้เข้าพบนับร้อยคน ที่มาจากคณะเจ้าที่หน้าสามฝ่าย และผู้ประกอบการด้าน “เศรษฐกิจ สังคม และสื่อสารมวลชน”  โดยท่านผู้นำสูงสุด ได้อธิบายประเด็นจำเพาะในหัวข้อ ข้อควรปฏิบัติและความคาดหวัง


ท่านผู้นำสูงสุด ถือว่า ความมุ่งมั่นอย่างแท้จริง ของบรรดาเจ้าหน้าที่สามฝ่าย โดยเฉพาะฝ่ายตุลาการ นั้น เป็นปัจจัยที่สำคัญยิ่งในการสร้างระบอบการยืนหยัดทางเศรษฐกิจ   พร้อมกับกล่าวเสริมว่า การนำเสนอนโยบายเศรษฐกิจแบบยั่งยืนเพียงอย่างเดียว  ไม่อาจที่จะแก้ไขอุปสรรค์ปัญหาได้ ทว่า ความมุ่งมั่น ความตั้งใจและความพยายามอย่างแท้จริงของบรรดาเจ้าหน้าที่ในทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องกับนโยบายนี้ ต่างหาก ที่จะเป็นการสร้างฐานในการบรรลุซึ่งเป้าหมายตามที่ได้ประกาศไว้


ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลาม ถือว่า การเข้าสู่ภาคสนามของเจ้าหน้าที่ ก็เป็นอีกหนึ่งความคาดหวัง พร้อมกับกล่าวย้ำว่า แผนครั้งนี้และนโยบายโดยรวมจำต้องมีการวางแผนในรูปแบบต่างๆในภาคปฏิบัติ เพื่อจะสามารถสร้างวีรกรรมทางเศรษฐกิจอย่างแท้จริง 


ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ได้ชี้ถึง เหตุผลในการตั้งชื่อปีนี้ เป็นปีแห่งวีรกรรมทางการเมืองและเศรษฐกิจ ว่า เป็นที่น่ายินดี ที่ว่า วีรกรรมทางการเมืองได้บังเกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรมแล้ว แต่ วีรกรรมทางเศรษฐกิจ ยังมีความล้าหลังอยู่ และหวังว่า ประเด็นนี้ภายใต้นโยบายที่ประกาศแล้ว ในปี 93 คงจะมีการเฝ้าติดตามและปฏิบัติกันอย่างจริงจัง


ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลาม ถือว่า การร่างแผนงานในการปฏิบัติอย่างมีระเบียบก็เป็นปัจจัยสำคัญประการที่สามในเรื่องนี้ พร้อมกับกล่าวย้ำว่า จำต้องมีการแบ่งสัดส่วนให้กับทั้งสามฝ่าย อีกทั้งแบ่งสัดส่วนของทุกหน่วยงานในด้านการบริหารนโยบายเศรษฐกิจแบบยั่งยืนอย่างละเอียดอีกด้วย


ท่านผู้นำสูงสุด กล่าวเสริมว่า จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีการร่างแผนปฏิบัติงานที่โปร่งใส และวางกรอบระยะเวลาที่ชัดเจน  เพื่อสามารถประเมินผลในการพัฒนาและความก้าวหน้าในทุกการปฏิบัติงาน  การปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่สามฝ่ายในการเตรียมการและเชื่อมสัมพันธ์และประสานงานระหว่างหน่วยงานต่างๆ และมีการตรวจสอบในทุกขั้นตอน ก็เป็นปัจจัยที่สี่และที่ห้า ที่สำคัญ ซึ่งในการนี้  ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลามได้กล่าวย้ำ    และท่านก็ได้กล่าวเสริมว่า ว่า มัจญมะอ์ตัสฆียส มัศลาฮัต ก็เช่นกันจำต้องระมัดระวังในการปฏิบัติหน้าที่ของการตรวจสอบที่ได้รับการมอบหมายอย่างสมบูรณ์แบบ การขจัดสิ่งกีดขวาง “เชิงกฎหมาย การบริหารจัดการ สิทธิ และการตัดสินความ” ในการบั่นทอนแนวทางแห่งการดำเนินนโยบายเศรษฐกิจแบบยั่งยืน เป็นภาระหน้าที่ประการที่หกที่ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลามได้กล่าวย้ำแด่คณะเจ้าหน้าที่ทั้งสามฝ่าย


ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลาม ถือว่า การสร้างวาทกรรม และการนำเสนอภาพลักษณ์ที่ถูกต้องของเศรษฐกิจแบบยั่งยืน นั้น เป็นภาระหน้าที่ของกรมประชาสัมพันธ์ สื่อสารมวลชน เจ้าหน้าที่ และบรรดานักคิดนักอ่านในประเทศ  พร้อมกับกล่าวย้ำว่า หน่วยงานด้านสื่อและการโฆษณาชวนเชื่อ ที่ต่อต้านความเจริญก้าวหน้าของอิหร่าน มีความพยายามอย่างหนักในการสร้างข้อครางแคลนสงสัย สร้างปมปัญหา ต่อนโยบายที่ได้ถูกประกาศไปแล้ว  โดยถือว่าเป็นสิ่งที่ไม่สำคัญมากเท่าใดนัก  ทว่าหากมีความเข้าใจอย่างถูกต้องในการขับเคลื่อนอันยิ่งใหญ่และมีการสนับสนุนอย่างแข็งกล้าแล้ว  วาทกรรมทางเศรษฐกิจก็จะบังเกิดขึ้น ประชาชนก็จะมีความเชื่อมั่น พร้อมกับเรียกร้องเจ้าหน้าที่ให้มีการดำเนินการปฏิบัติในลักษณะนี้เพื่อจะได้ก้าวไปข้างหน้าอย่างต่อเนื่อง


ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลาม ได้อธิบายประเด็นสุดท้าย ถึงความคาดหวังต่อเจ้าหน้าที่ในประเด็นฐานข้อมูลและระบบการสื่อสารมวลชนที่แม่นย้ำ การรวบรวมและเก็บข้อมูล การค้นคว้า และการกำหนดประเด็นหัวข้อในภาคส่วนต่างๆของสื่อสารมวลชนยังประชาชน ก็เป็นอีกหนึ่งภาระหน้าที่ ที่ท่านผู้นำสูงสุดได้ให้ความสำคัญต่อหน่วยงานนี้


ท่านผู้นำสูงสุด ได้ทิ้งท้ายคำพูดในครั้งนี้ ด้วยประโยค อินชาอัลลอฮ์  การงานอันยิ่งใหญ่ได้เริ่มต้นแล้ว และด้วยการตะวักกัล มอบหมายตนยังอัลลอฮ์ และการก้าวไปอย่างรวดเร็วนั้น แน่แท้ประชาชนก็จะได้สัมผัสความหอมหวานในผลงานของรัฐบาลชุดนี้อย่างแน่นอน  


700 /