เมื่อช่วงเช้าวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา( 6 มีนาคม ) บรรดาคณะสมาชิกสภามัจญลิสคุบเรฆอน รอฮ์บารีย์ ได้เข้าพบท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ผู้นำการปฏิวัติอิสลาม ซึ่งท่านผู้นำสูงสุด ได้ให้โอวาทที่สำคัญยิ่ง พร้อมกับชี้ถึงความเป็นจริงของโลกบางประการ โดยอธิบายและกล่าวย้ำถึง “ภาระหน้าที่หลักของคณะผู้บริหารระบอบอิสลาม” ในสถานการณ์ที่ละเอียดอ่อนและสลับซับซ้อนยุคปัจจุบันนี้ ว่า “ การมีโลกทัศน์อย่างแท้จริง และมองเห็นจุดแข็งอันมากมายควบคู่กับจุดอ่อนบางประการ” “มีความภาคภูมิใจต่อเยาวชนหนุ่มสาวผู้ศรัทธาและนักปฏิวัติ” “ใช้ประโยชน์จากความสามารถและศักยภาพภายในและศักยภาพแห่งชาติที่มีอยู่อย่างมากมาย” ไม่เพิกเฉยต่อศัตรูของศัตรู” “กำหนดขอบเขตที่ชัดเจนและโปร่งใสในการเผชิญหน้ากับแนวรบของมหาอำนาจ” “ไม่เกรงกลัวต่อศัตรู” “พึ่งพาประชาชนและส่งเสริมการขับเคลื่อนแบบญิฮาด” “ปกป้องรักษาและเสริมสร้างเอกภาพแห่งชาติ” “ให้ความสำคัญยังวัฒนธรรมศาสนาและการปฏิวัติ” “สร้างวาทกรรม” ซึ่งทั้งหมดเป็นส่วนหนึ่งของภาระหน้าที่อันหนักอึ้งของบรรดาคณะผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ของระบอบในทุกภาคส่วน
ในเบื้องต้น ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลาม ได้ชี้ถึงบทบาทและฐานะภาพที่พิเศษของสภามัจญลิสฆุบเรฆอน ซึ่งเป็นหนึ่งในองค์ประกอบหลักของระบอบ ว่า การรวมตัวกันของบรรดาอุลามาอ์ ผู้อาวุโส และนักวินิจฉัยระดับชาติอิหร่าน ในการประชุมวาระต่างๆของมัจญลิสฆุบเรฆอน นั้น ย่อมมีความสำคัญเสมอมา แต่ทว่าความสำคัญเช่นนี้ ในบางภาวะเงื่อนไข และบางยุคสมัยนั้นย่อมเห็นความสำคัญมากขึ้น ซึ่งสถานการณ์ปัจจุบันนี้ ก็เป็นอีกหนึ่งห้วงเวลาที่สำคัญเช่นนี้
ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ได้ชี้ถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญและสลับซับซ้อนในวันนี้ ในโลกและในภูมิภาค โดยถือว่า “การย้อนมองตัวเอง และประเมินภาระหน้าที่ของตนเอง” เป็นหนึ่งในพันธะกิจของคณะผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ พร้อมกับกล่าวเสริมว่า ในสถานการณ์เช่นนี้ องค์กรของระบอบทั้งหมด รวมทั้ง มัจญลิสสภาฆุบเรฆอน จำต้องมีโลกทัศน์ วิสัยทัศน์ในเชิงนวัตกรรมและประเด็นหลักในข้อเท็จจริงของโลก
ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ได้กล่าวอธิบายข้อจริงบางประการของโลกในวันนี้ ว่า จุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญในระดับโลกและระดับภูมิภาค และการเปิดเผยถึงสัญญาณต่างๆของเหตุการณ์นี้ในทุกภูมิภาค อาทิเช่น ในแอฟริกาเหนือ เอเชีย และยุโรป คือหนึ่งในข้อเท็จจริงและความจริงที่เกิดขึ้นในวันนี้ ซึ่งสัญญาณต่างๆเหล่านี้ ควรที่จะสังเกต ประเมินและพิจารณาอย่างละเอียดถี่ถ้วน ความล้มเหลวด้านความสงบมั่นเชิงศีลธรรมของแนวรบของมหาอำนาจ และเหล่ามหาอำนาจเก่าที่ปกครองโลก ก็เป็นข้อเท็จจริงประการที่สอง ที่ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลาม ได้ชี้ถึง พร้อมกับกล่าวย้ำว่า หนึ่งในสัญญาณแห่งความล้มเหลวด้านศีลธรรมภายนอก คือ ภาวะวิกฤติทางเศรษฐกิจของยุโรป และอเมริกา ซึ่งสัญญาณต่างๆแห่งการล้มสลายของระบอบเศรษฐกิจของพวกเขานั้น กำลังเป็นที่เปิดเผยและประจักษ์ชัดมากขึ้น
ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ถือว่า ความล้มเหลวด้านศีลธรรม และการละเมิดสิทธิมนุษยชนและการปรากฏอัตลักษณ์อันดั่งเดิมของอารยะธรรมตะวันตก ที่วางอยู่บนพื้นฐานของมนุษย์นิยม นั้น คือเป็นหนึ่งในสัญญาณแห่งความล้มเหลวด้านความสงบเชิงภายนอกของแนวรบมหาอำนาจ พร้อมกับกล่าวย้ำว่า การเข่นฆ่า การปล้นสะดม การก่อเหตุความรุนแรง การสร้างความเสียหายเสื่อมเสีย และการปลุกตัณหาอารมณ์ที่มึนเมา อาทิเช่น ส่งเสริมกลุ่มรักร่วมเพศ การสนับสนุนอย่างชัดเจนต่อกลุ่มก่อการร้ายหัวรุนแรง และป่าเถื่อนในภูมิภาค และการหมิ่นยังศาสนสถานอันศักดิ์สิทธิ์ของเหล่าผู้อาวุโสของศาสนา ก็เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างที่เป็นรูปธรรมของความล้มเหลว และการล่มสลายของอารยะธรรมตะวันในเชิงศีลธรรม
ท่านผู้นำสูงสุดถือว่า การล่มสลายของรากฐานแห่งการศึกษา และอัตลักษณ์แห่งอารยะธรรมตะวันตก ครั้งแล้วครั้งเล่า อีกทั้งความเกลียดชังของประชาชนทั่วโลกที่มีต่ออเมริกาและมหาอำนาจชาติอื่นๆ และการไร้ซึ่งเกียรติ์ศักดิ์ศรีในเวทีระดับนานาชาติ ก็เป็นอีกหนึ่งสัญญาณแห่งข้อเท็จจริงของโลกในวันนี้ พร้อมกับกล่าวย้ำว่า การตื่นตัวของประชาชาติทั้งหลายโดยเฉพาะการตื่นตัวอิสลาม และการไปถึงจุดสูงสุดของการอิสติกอมัตแห่งอิสลาม ก็เป็นอีกข้อเท็จจริงประการหนึ่งจากสถานการณ์ของโลกในวันนี้
ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลามได้ชี้ ถึง จุดยืนของบางกลุ่มในการเผชิญหน้ากับ ศัพท์ “ การตื่นตัวอิสลาม” พร้อมกับกล่าวย้ำว่า วันนี้เป็นที่ประจักษ์ชัดและชัดเจนแล้วว่า การตื่นตัวครั้งนี้ มันเกี่ยวข้องและสัมพันธ์โดยตรงกับอิสลาม ถึงแม้นว่าในภาพที่ปรากฏเห็นนั้น มันจะดับลงแล้วก็ตามที่ ทว่าจิตวิญญาณแห่งความเชื่อมั่นในตัวเอง และความรู้สึกในอัตลักษณ์แห่งอิสลาม ไม่มีวันหมดสิ้น และปัจจุบันนี้ก็ยังคงอยู่
ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ถือว่า การพัฒนาและการเพิ่มพูนการยืนหยัดและความองอาจและความสูงส่งของอิสลามของประชาชาติอิหร่าน จิตวิญญาณแห่งการถวิลหาความอิสรภาพ ของประชาชาตินี้ หลังจากผ่านพ้นเป็นระยะเวลา 35 ปี ก็เป็นอีกหนึ่งข้อเท็จจริงที่สำคัญของโลกในวันนี้ พร้อมกับกล่าวย้ำว่า จิตวิญญาณแห่งการปฏิวัติจะยังคงมีชีวิตชีวาในหมู่ประชาชนชาวอิหร่านตลอดไปและสิ่งที่ปรากฏขึ้นในวันเดินขบวน 22 บะห์มันปีนี้ ก็เป็นอีกปรากฏการณ์หนึ่งที่หาได้ยากและเป็นการตอกย้ำในประเด็นนี้ได้เป็นอย่างดี
หลังจากที่ท่านผู้นำได้อธิบายข้อเท็จจริงที่สำคัญของโลกในวันนี้แล้ว ท่านผู้นำสูงสุดก็ได้อธิบายถึงภาระหน้าที่ของบรรดาเจ้าหน้าที่และคณะผู้บริหารระบอบอิสลาม ในภาวะเขื่อนไงที่ละเอียดอ่อนและสลับซับซ้อนในขณะนี้ในประเด็นนี้เอง
ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลาม ได้กำหนดภาระหน้าที่สิบสองประการ ให้กับคณะผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ของระบอบอิสลามการมีโลกทัศน์อย่างแท้จริง และมองเห็นจุดแข็งอันมากมายควบคู่กับจุดอ่อนบางประการ เป็นภาระหน้าที่ประการแรกที่ท่านผู้นำสูงสุดได้ชี้ถึง พร้อมกับกล่าวย้ำว่า ในความเป็นจริงนั้น การปฏิวัติอิสลามอิหร่านจะมีความแตกต่างกับการปฏิวัติทั่วๆไปในโลก แม้นว่าหลังจากชัยชนะของการปฏิวัติอิสลามนี้จะผ่านพ้นไปเกือบสามทศวรรษแล้วก็ตาม แต่การปฏิวัติอันนี้ยังคงมีชีวิตชีวา สดใสเปล่งประกาย อีกทั้งจะมีการพูดถึงประเด็นอิสลาม อิสรภาพ การยืนหยัดแห่งชาติ การพัฒนาภายในและความยุติธรรมเป็นที่ตั้งอยู่เสมอ และเพื่อก้าวไปถึงยังเป้าหมายอันยิ่งใหญ่นี้จะมีความมุ่งมั่นและเพียรพยายามอยู่เนื่องนิจ
การมีความภาคภูมิใจต่อเยาวชนรุ่นใหม่ที่มีความศรัทธา ยึดมั่นในการปฏิวัติ และการรู้ถึงคุณค่าของการมีอยู่ของเยาวชนเหล่านี้ คือภาระหน้าที่ประการที่สอง ที่ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลามได้ย้ำเตือนคณะผู้บริหารครั้งนี้ พร้อมกับกล่าวย้ำว่า สถานะภาพของเยาวชนรุ่นใหม่ยุคปัจจุบันที่มีอุดมการณ์ปฏิวัติ มีความสูงส่งไปกว่าบรรดาเยาวชนยุคต้นๆของการปฏิวัติอิสลามด้วยซ้ำ เพราะเยาวชนในวันนี้ เนื่องด้วยการปฏิวัติอิสลามได้ประสบกับชัยชนะแล้ว และไม่เคยเห็นประเด็นก่อนหน้านี้ ซึ่งกำลังตกอยู่ในภาวะเสี่ยงของแวดล้อมทางโลกออนไลน์และทีวีดาวเทียม แต่บรรดาเยาวชนเหล่านี้กลับมีความศรัทธามั่น และสามารถยืนหยัด ยึดมั่นในอุดมการณ์แห่งการปฏิวัติอย่างแท้จริง
ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ถือว่า การให้ความสำคัญต่อความสามารถและศักยภาพภายในและแห่งชาติที่ไร้ขอบเขตและการใช้ประโยชน์จากสิ่งเหล่านี้ ก็เป็นอีกภาระหน้าที่หนึ่งของคณะผู้บริหารและเจ้าหน้าที่รัฐ พร้อมกับกล่าวย้ำว่า เป็นที่น่าชื่นชมและยินดีอย่างยิ่ง ที่คณะรัฐบาลชุดใหม่นี้ รอบรู้และเข้าใจถึงศักยภาพภายในที่ไร้ขีดจำกัด และมีความเชื่อมั่นในการดำเนินการใช้ประโยชน์จากสิ่งเหล่านี้
ท่านผู้นำสูงสุด กล่าวเสริมว่า ศักยภาพภายในอันมากมายนี้เองที่บรรดาคณะผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ของระบอบต้องมีการนำพาไปสู่ประเด็นเศรษฐกิจแบบยั่งยืนให้เป็นรูปธรรม
ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลาม กล่าวย้ำถึง การไม่เพิกเฉยและละเลยต่อศัตรูของศัตรู ซึ่งเป็นอีกภาระหน้าที่หนึ่งที่สำคัญของบรรดาเจ้าหน้าที่รัฐ พร้อมกับกล่าวย้ำว่า ตราบใดที่ระบอบอิสลามและประชาชาติอิหร่าน ยึดมั่นบนหลักพื้นฐานของอิสลาม การปฏิวัติ และอิสรภาพ แล้ว ศัตรูจะไม่มีวันหยุดนิ่งในการทำลายศัตรูของตนอย่างแน่นอน ด้วยเหตุนี้อย่าได้เพิกเฉยและละเลยต่อศัตรูเป็นอันขาด
ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี กล่าวย้ำว่า แนวรบแห่งมหาอำนาจมีความอคติอย่างแรงต่อประชาชาติอิหร่าน และในวันนี้ความอคติอันนี้ และความเกลียดชังของศัตรูเช่นนี้ สามารถพบเห็นในการพูดจาของพวกเขา
ท่านผู้นำถือว่า การดำเนินตามแผนนโยบายเศรษฐกิจแบบยั่งยืน ก็เป็นอีกภาระหน้าที่อีกประการหนึ่งของบรรดาเจ้าหน้าที่และคณะผู้บริหารรัฐ พร้อมกับกล่าวย้ำว่า แม้นว่าศัตรูจะมีความอคติและความเกลียดชังอย่างรุนแรง แต่ทว่า พวกเขาไร้ความสามารถที่จะเผชิญหน้ากับระบอบอิสลามและประชาชาติอิหร่านได้ และด้วยความไร้ความสามารถนี้เอง ก็จะหันมาใช้มาตรการคว่ำบาตร และพวกเขาเองก็ย่อมรู้ว่า มาตรการการคว่ำบาตรนั้น เริ่มจากยุคแรกของการปฏิวัติอิสลามจนถึงขณะนี้นั้น มันไร้ผล
ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลามถือว่า การข่มขู่ทางทหารด้วยวาจาของเจ้าหน้าที่อเมริกา นั้นเป็นสัญญาณแห่งการไร้ผลของการคว่ำบาตรต่างๆเหล่านี้ พร้อมกับกล่าวย้ำ การเห็นพ้องต้องกันซึ่งในวันนี้มันเกิดขึ้นในหมู่คณะผู้บริหารสามฝ่าย และเช่นเดียวกัน บรรดาคณะเจ้าหน้าที่รัฐบาล รวมทั้งประธานาธิบดี คณะรัฐมนตรีในการดำเนินการตามแผนนโยบายเศรษฐกิจแบบยั่งยืนนั้น เป็นความหวังของชาติ ซึ่งด้วยความโปรดปรานของพระองค์ เศรษฐกิจแบบยั่งยืน จะสามารถมีชัยเหนือการคว่ำบาตรและการคุกคามของศัตรูอย่างแน่นอน
ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ถือว่า “การพึ่งพาประชาชนและการขับเคลื่อนแบบญิฮาด” เป็นอีกหนึ่งภาระหน้าที่ที่สำคัญของเจ้าหน้าที่และคณะผู้บริหาร พร้อมกับกล่าวย้ำว่า เริ่มตั้งแต่การปฏิวัติอิสลามประสบความสำเร็จ จนถึงวันนี้ ในทุกเวทีที่ประชาชนออกมาสู่สนาม และด้วยการเอ่ยนามของอัลลอฮ์ ในการเริ่มต้นการขับเคลื่อนแบบญิฮาด ก็จะประสบความสำเร็จและได้รับชัยชนะอยู่เสมอ ซึ่งตัวอย่างที่ชัดเจนที่สุดในเรื่องนี้ คือ ชัยชนะของการปฏิวัติอิสลาม และชัยชนะแห่งสงครามการปกป้องอันศักดิ์สิทธิ์ที่ใช้ระยะเวลาถึงแปดปี
ท่านผู้นำสูงสุด ถือว่า การให้ความสำคัญอย่างต่อเนื่องของคณะผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ ในการเปรียบเทียบภาวะเงื่อนไขปัจจุบัน ขีดความสามารถต่างๆของวันนี้ กับภาวะเงื่อนไขต่างๆในช่วงปีที่ผ่านมา ก็เป็นอีกภาระหน้าที่หนึ่งในภาระหน้าที่ประการที่แปดของคณะเจ้าหน้าที่ พร้อมกับกล่าวย้ำว่า บรรดาเจ้าหน้าที่จำต้องจำกัดขอบเขตที่ชัดเจนและโปร่งใสในการเผชิญหน้ากับแนวรบของศัตรู โดยเฉพาะในสถานการณ์ปัจจุบัน
ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลามกล่าวย้ำว่า บางกลุ่มจะมีการ มุฆอลิฏอห์ โดยจะพยายามนำเสนอว่า การจำกัดขอบเขต หมายถึง การตัดความสัมพันธ์กับนานาชาติ ในขณะที่การจำกัดขอบเขตกับแนวรบกับศัตรูนั้น เสมือนเป็นการจำกัดขอบเขตเชิงภูมิศาสตร์ นั้นเอง ที่จะเป็นตัวกำหนดขอบเขตความสัมพันธ์ระหว่างเรากับศัตรู
ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ได้ทำการตำหนิบางกลุ่มที่มีความพยายามในการลดความเข้มข้นของประเด็นอิสรภาพ ว่า อิสรภาพเป็นพรมแดนและข้อจำกัดประการหนึ่ง ซึ่งผู้ใดก็ตามที่มีความพยายามลดความเข้มข้นหรือต้องการลบพรมแดนแห่งศาสนา หลักความเชื่อ และขอบเขตทางการเมืองแล้ว ถือว่าเขาไม่ได้รับใช้ประชาชนและประเทศชาติ
ท่านผู้นำสูงสุด กล่าวว่า ไม่มีผู้ใดที่ต่อต้านการสร้างสัมพันธ์กับนานาชาติ แต่ทว่าจำต้องมีการกำหนดอย่างชัดเจนว่า ต้องสร้างความสัมพันธ์กับชาติไหน และความสัมพันธ์เช่นนี้จะเป็นไปในลักษณะใด
ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลาม ยังได้ตำหนิบุคคลที่แอบอ้าง ด้วยอุปสรรค์ปัญหาบางประการจึงได้ตำหนิบุคคลที่ทำการยืนหยัดต่ออุปสรรค์ปัญหาต่างๆเหล่านี้ ว่า บางกลุ่มอย่าได้คาดคิดว่า หากเรายอมสยบ อ่อนข้อต่อศัตรูแล้ว อุปสรรค์ปัญหาทุกอย่างจะคลี่คลายลง
ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี กล่าวเสริมว่า ข้าพเจ้าขอขอบคุณคณะผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ระดับประเทศที่แสดงออกถึงจุดยืนที่ชัดเจนในการเผชิญหน้ากับศัตรู และประกาศชัดถึงความไม่อ่อนข้อของประชาชาติอิหร่านและการปฏิวัติอิสลาม และการมีจุดยืนที่ชัดเจนเช่นนี้ในการเผชิญหน้ากับศัตรู ซึ่งสิ่งนี้จำต้องให้กลายเป็นวาทกรรมอย่างแท้จริง
ท่านผู้นำสูงสุด ยังได้ชี้ว่า “การไม่กลัวศัตรูและการพึ่งพายังพระองค์”คือภาระหน้าที่หนึ่งของคณะผู้บริหาร พร้อมกับกล่าวย้ำว่า ในวันนี้ศัตรูของประชาชาติอิหร่านถือเป็นศัตรูที่มีชื่อเสียงในด้านความน่าเกลียดและขยะแขยงมากที่สุด โดยที่รัฐบาลอเมริกาเป็นหนึ่งในตัวละครที่มีความรุนแรง ป่าเถื่อน ก่ออาชญากรรม และละเมิดสิทธิมนุษย์ชนที่มีชื่อเสียงในระดับนานาชาติ และในประเทศอเมริกาเอง ยังถูกรู้จักในนามรัฐบาลทรราช โกหกปลิ้นปล่อน และในวันนี้ ประชาชนในอเมริกาเอง มีความเชื่อมั่นต่อรัฐบาลน้อยที่สุดมากเป็นประวัติการณ์
ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลาม กล่าวเสริมว่า ด้วยเหตุผลนี้ อย่าได้หวาดกลัวต่อรัฐบาลที่ไร้เกียรติ์ไร้ศักดิ์ศรีเช่นนี้ เป็นอันขาด ซึ่งหากเรามีความเชื่อมั่น และอยู่กับพระองค์แล้ว พระองค์ย่อมให้การช่วยเหลือเราอย่างแน่นอน
“การรักษาและส่งเสริมเอกภาพแห่งชาติ” ทั้งเอกภาพในเชิงศาสนา เอกภาพเชิงเผ่าพันธุ์ในประเทศ เป็นภารกิจประการที่สิบที่ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ได้อธิบายให้กับบรรดาคณะผู้บริหารและเจ้าหน้าที่
ท่านผู้นำสูงสุด ยังถือว่า การให้ความสำคัญต่อวัฒนธรรมศาสนาและการปฏิวัติ ก็เป็นอีกหนึ่งภาระหน้าที่ที่สำคัญของบรรดาเจ้าหน้าที่ พร้อมกับชี้ถึงความวิตกกังวลของสมาชิกสภามัจญลิสฆุบเรฆอน จากประเด็นวัฒนธรรมของประเทศ ว่า ข้าพเจ้าเองก็มีความหวาดวิตกในเรื่องนี้เหมือนกัน และข้าพเจ้าก็มีหุ้นส่วนด้วยต่อความหวาดวิตกของสมาชิกสภามัจญลิสฆุบเรฆอน
ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลามกล่าวเสริมว่า รัฐบาลที่มีเกียรติ ชุดนี้ จำต้องให้ความสำคัญในประเด็นนี้ และคณะผู้บริหารด้านวัฒนธรรมก็จำต้องให้ความสำคัญในเรื่องนี้เช่นกัน ว่าจะต้องมีการดำเนินการอย่างไร เพราะในประเด็นของวัฒนธรรมนั้น ไม่อาจที่จะนิ่งเฉยและนิ่งดูดายได้
ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี กล่าวเสริมว่า ประเด็นวัฒนธรรมเป็นสิ่งที่สำคัญยิ่ง เพราะรากฐานแห่งการยืนหยัด และการขับเคลื่อนของระบอบอิสลาม วางอยู่บนพื้นฐานของการพิทักษ์รักษาวัฒนธรรมอิสลาม การปฏิวัติ และการส่งเสริมกระบวนการเคลื่อนไหวด้านวัฒนธรรมแห่งความศรัทธาและการปฏิวัติ
ท่านผู้นำสูงสุด กล่าวเสริมว่า ทุกท่านจำต้องรู้ถึงคุณค่าของเยาวชนผู้ศรัทธาและนักปฏิวัติ เพราะเยาวชนเหล่านี้แหละที่จะยอมถวายอกของตนเพื่อเป็นเกราะกำบังเมื่อวันอันตรายได้มาถึง
ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลามได้ชี้ถึงจำนวนของเยาวชนผู้ศรัทธาและนักปฏิวัติที่เพิ่มขึ้นอย่างมากมายในด้านเวทีวัฒนธรรมและเวทีภาคส่วนอื่นๆ ว่า บุคคลที่มีโลกทัศน์เชิงลบต่อเยาวชนเหล่านี้ และพยายามที่จะลดเกียรติ์ของเยาวชนเหล่านี้ให้ตกต่ำลง ถือว่าเขาไม่ได้รับใช้การปฏิวัติและประเทศชาตินี้อย่างแน่นอน
ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี กล่าวเสริมว่า เยาวชนผู้ศรัทธาและนักปฏิวัติเช่นนี้ จะไม่มีวันตกต่ำเป็นอันขาด
ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี กล่าวย้ำว่า ประเด็นที่กล่าวและอธิบายมาทั้งหมด จำต้องให้เป็นวาทกรรมและสร้างความเชื่อมั่นต่อพี่น้องประชาชนให้ได้ สิ่งที่ควรปฏิบัติเพื่อการนี้ คือ การอธิบายเชิงตรรกะ เชิงเหตุและผลและมีความรอบรู้ในประเด็นเหล่านี้ ควรหลีกเลี่ยงจากการหักโหมที่เกินเลยในรูปลักษณะต่างๆ และต้องมีวาจาที่สุภาพ
ในเบื้องต้นของการพบปะครั้งนี้ ท่านอยาตุลลอฮ์ มะห์ดาวีย์ กะนีย์ ประธานสภามัจญลิสฆุบเรฆอน รอฮ์บารีย์ ได้กล่าวสรุปรายงานการประชุมสภาครั้งที่ที่สิบเอ็ด ที่ได้จัดประชุมเป็นเวลาสองวัน ให้ท่านผู้นำสูงสุดได้รับทราบ