เมื่อช่วงบ่ายวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ทางอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ผู้นำการปฏิวัติอิสลาม ออกสาสน์เนื่องในสัปดาห์ ดีฟออ์ มุกัดดัส(การพิทักษ์อันศักดิ์สิทธิ์)และวันแห่งการเทิดเกียรติ์เหล่าชูฮาดาอ์และผู้พลีอุทิศ โดย ฯพณฯ ผู้นำสูงสุดกล่าวย้ำว่า ด้วยการเสียสละของเหล่าชูฮาดาอ์ และด้วยความอดทนของเชลยศึกและเหล่าทหารผ่านศึก และด้วยความเสียสละอันแรงกล้าของครอบครัวผู้มีเกียรติเหล่านี้ ทำให้สามารถนำชาติอิหร่าน ไปถึงจุดสูงสุดแห่งเกียรติยศศักดิ์ศรีอย่างสมบูรณ์แบบ
เนื้อหาของสาสน์ดังกล่าว ถูกอันเชิญอ่านเนื่องในพิธีการทำความสะอาดและการประดับประดาดอกไม้และกลิ่นหอมหวนสุสานชุฮาดะห์อย่างพร้อมเพรียงกันทั่วประเทศ โดย ฮุจญะตุลอิสลาม วัลมุสลีมียน ชะฮีดีย์ มุฮัลลาตีย์ ตัวแทนวะลียุลฟากีห์ ในมูลนิธิชะฮีดและการพลีอุทิศ ณ.กุลซอร์ ชุฮาดาอ์ ชะฮีด เบเฮชตี่ กรุงเตหะราน ซึ่งมีใจความดังนี้
بسم اللهالرحمن الرحیم
(ด้วยพระนามของอัลลอฮ์ ผู้ทรงเมตตาปราณียิ่งเสมอ)
การเทิดเกียรติ์และจัดงานรำลึกนามอันทรงค่าของเหล่าวีรบุรุษนั้น ก่อนที่จะบังเกิดผลต่อตัวของพวกเขาเองนั้น มันจะนำมาซึ่งเกียรติยศศักดิ์ศรีแด่ประเทศชาติ ซึ่งเป็นชาติทีได้ทำการอบรมบ่มเพาะสิ่งล้ำค่าที่มีอยู่ภายในประเทศของตัวเอง เราจัดงานเทิดเกียรติแด่พวกเขา มิได้มีเป็นการทวงหนี้บุญคุณ แต่ด้วยความวีรกรรมอันเจิดจำรัสของพวกเขา ทำให้เรามีความภาคภูมิใจเช่นนี้ และเป็นการตอบแทนในบุญคุณของพวกเขาที่มีเหนือพวกเรา
ด้วยความเสียสละของเหล่าบรรดาชะฮีด ด้วยความอดทนของเชลยศึกและเหล่าทหารผ่านศึก และด้วยความเสียสละอันแรงกล้าของครอบครัวผู้มีเกียรติเหล่านี้ สามารถนำชาติอิหร่าน ไปถึงจุดสูงสุดแห่งเกียรติยศและศักดิ์ศรีอย่างสมบูรณ์แบบและก้าวสู่เส้นทางอันชัดแจ้งในภายภาคหน้าได้เป็นอย่างดี
ขอความศานติจากพระองค์ มะลาอีกะห์ และบรรดาผู้บริสุทธิ์ทั้งหลายของพระองค์ พึงประสบแด่ บรรดาชูฮาดาอ์ ทหารผ่านศึก และครอบครัวผู้อดทนทั้งหลายด้วยเทอญ
ซัยยิด อาลี คาเมเนอี
๔ เมหร์ ๑๓๙๒
(๒๖ กันยายน ๒๕๕๖)