เมื่อเช้าวันพุธ (๑๑) ที่ผ่านมา บรรดาเจ้าหน้าที่และคณะผู้ดูแลผู้แสวงบุญปีนี้ ได้เข้าพบกับ ท่าน อยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ผู้นำการปฏิวัติอิสลาม ซึ่ง ฯพณฯ ถือว่า ฮัจญ์คือปัจจัยสร้างความแข็งแกร่งแห่งพลังอำนาจทางการเมือง วัฒนธรรม และจิตวิญญาณแห่งสังคมอิสลาม พร้อมกับชี้ถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในโลกอิสลาม ภูมิภาคในวันนี้ และความพยายามของบรรดาผู้ประสงค์ร้ายเพื่อสร้างความทะเลาเบาะแว้งและการเผชิญหน้าในหมู่พี่น้องมุสลิม ด้วยการใช้ข้ออ้างแห่งความแตกต่างเชิงนิกาย อีกทั้งภัยคุกคามต่างๆนาๆและการก่อไฟให้ปะทุขึ้นมาโดยบรรดามหาอำนาจผู้ล่าอานานิคม ซึ่ง ฯพณฯ กล่าวย้ำว่า หวังว่า ท่าทีและปฏิกิริยาครั้งใหม่ของอเมริกาที่มีต่อซีเรีย นั้น มีอย่างจริงจังและห่างไหลจากการหลอกลวง และ และเป็นการหันกลับอย่างแท้จริงต่อท่าทีและปฏิกิริยาตามอำเภอใจและหลงผิดในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา
ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลามกล่าวย้ำว่า หนึ่งในตัวชี้วัดที่สำคัญของการประกอบพิธีฮัจญ์ทีแท้จริงคือ พฤติกรรมและการแสดงออกอย่างเป็นมิตรภาพของพี่น้องมุสลิมในเวทีแห่งบทบัญญัติที่ยิ่งใหญ่ครั้งนี้ พร้อมกับกล่าวเสริมว่า การห่างไกลจากการโต้เถียง พิพาทในช่วงเทศกาลประกอบพิธีฮัจญ์ โดยที่อัลกุรอานเองก็ได้กำชับและเน้นย้ำในสิ่งนี้ ซึ่งย่อมหมายความว่า คือการไม่โต้เถียง และไม่พิพาทระหว่างพี่น้องร่วมศาสนาและพี่น้องมุสลิมด้วยกัน และมันยังรวมถึงการหลีกเลี่ยงจากการโต้เถียง การพิพาทเชิงวาจา และการเกลียดชังภายในหัวใจอีกด้วย
ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี กล่าวว่า เป็นที่น่าเสียดาย ว่า บางคนที่มีความคิดความอ่านที่ผิดเพี้ยน และทำการอธิบายในทางที่ผิดในประเด็นที่ ว่า ไม่มีการพิพาทในการประกอบพิธีฮัจญ์ โดยพยายามที่จะสร้างปมปัญหาในประเด็นปรัชญาแห่งพิธีบะรออัตจากบรรดากุฟฟาร์มุชรีกีนขึ้นมา ในขณะที่ การโต้เถียงและการพิพาทกับชิรก์ (การตักภาคี) และกุฟร์ (การปฏิเสธ) นั้น เป็นหนึ่งในบทบัญญัติหลักที่สำคัญของศาสนาอิสลาม
ท่านผู้นำสูงสุด ยังเรียกร้องให้มวลมุสลิมมีความชาญฉลาด ระมัดระวัง และมีความไหวพริบในแผนการของผู้ประสงค์ร้ายเพื่อสร้างความแตกแยกและการเผชิญหน้าระหว่างมัศฮับ พร้อมกับกล่าวย้ำว่า บรรดาศัตรูของเหล่าอุมมัติอิสลาม ย่อมตระหนักและเข้าใจเป็นอย่างดีว่า การสร้างความแตกแยกและการเผชิญหน้าระหว่างมัศฮับนั้น ย่อมส่งผลประโยชน์ให้กับยิวไซออนิสต์ และบนพื้นฐานอันนี้เอง จึงได้จัดตั้งกลุ่มก่อการร้ายตักฟีรีย์ขึ้นมา และอีกด้านหนึ่ง ด้วยการสร้างสื่อสารมวลชน ซึ่งในภาพลักษณ์อาจจะเห็นภาพว่าเป็นอิสลามหรือชีอะห์ เพื่อสร้างความแตกแยกให้เกิดขึ้น และอีกด้านหนึ่ง ก็พยายามมุ่งให้พี่น้องมุสลิมต่อสู้และสู้รบกันเอง
ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลาม กล่าวเสริมว่า เหล่าอุลามาอ์ผู้อาวุโสของชีอะห์ รวมทั้งท่านอิมามโคมัยนี(รฎ) และบุคคลท่านอื่นๆ ก็มีความพยายาม และกล่าวย้ำอยู่เสมอให้รักษาความเป็นเอกภาพของอุมมัติอิสลาม ด้วยเหตุนี้ บรรดาชีอะห์ที่ต้องการจะกระพือและสร้างความแตกแยกให้เกิดขึ้นโดยอาศัยสื่อสารมวลชนที่มีอยู่ในลอนดอนและอเมริกาในการโฆษณาเชิญเชื่อนั้น แท้จริงเขาหาได้เดินอยู่บนเส้นทางอันแท้จริงของชีอะห์เลย
ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ถือว่า หนึ่งในจุดแข็งของฮัจญ์ที่เป็นการปูทางในการสร้างพลังอำนาจให้เพิ่มขึ้น คือ การแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมอิสลามอันบริสุทธิ์ระหว่างพี่น้องมุสลิม และการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารข้อเท็จจริง และความเจริญก้าวหน้าของสังคมอิสลามในช่วงเทศกาลประกอบพิธีฮัจญ์ พร้อมกับกล่าวย้ำว่า หากพิจารณาจากจำนวนยอดปริมาณที่เพิ่มสูงขึ้นและไม่อาจจะวาดภาพถึงอิทธิพลของสื่อสารมวลชนที่ปฏิปักษ์ต่อระบอบอิสลามนั้น ทำให้หนึ่งในภาระหน้าที่ของผู้แสวงบุญชาวอิหร่านที่ต้องปฏิบัติคือ การแนะนำ และสร้างความเข้าใจในภาพลักษณ์ที่แท้จริงของอิสลาม ภาพลักษณ์ที่แท้จริงของชีอะห์ สัจธรรม ข้อเท็จจริง และความก้าวหน้าของระบอบอิสลาม ด้วยวาจาและการปฏิบัติ
ท่านผู้นำการปฏิวัติ กล่าวย้ำ ถึง การเสริมสร้างจิตวิญญาณก็เป็นอีกหนึ่งหัวข้อหลักที่สำคัญของฮัจญ์ที่แท้จริง พร้อมกับเสริมกล่าวว่า ความศรัทธาที่เข้มแข็ง การตะวักกัลยังพระองค์ และการมีเจตนาดีต่อพันธะสัญญาของพระผู้อภิบาล คือสิ่งจำเป็นยิ่งที่จะสามารถข้ามผ่านและฝ่าฝันด่านแห่งความยากลำบากและการไม่เกรงกลัวในอำนาจภายนอกของเหล่ามหาอำนาจ ซึ่งสิ่งเหล่านี้สามารถบังเกิดผลได้อย่างแท้จริงในพิธีฮัจญ์
ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลาม ได้ชี้ถึง การโหมกระพือเพลิงไฟแห่งฟิตนะห์ของศัตรูแห่งประชาชาติอิสลามในปากีสถาน อัฟกานิสถาน อีรัก ซีเรีย และบาห์เรน ด้วยข้ออ้างชีอะห์ ซุนนี่ และการเข่นฆ่าประชาชนผู้บริสุทธิ์นับร้อยคน
พร้อมกับกล่าวย้ำว่า บรรดาผู้ล่าอานานิคม และมหาอำนาจ โดยเฉพาะอเมริกา เพื่อให้ได้มาซึ่งผลประโยชน์ที่ไร้ซึ่งความชอบธรรมของตนเอง ยอมทำทุกวิธีทางในการทำลายล้างและสร้างความเสียหายในหลายประเทศ อีกทั้งทำการเข่นฆ่าพี่น้องประชาชนผู้บริสุทธิ์อย่างไม่ยอมลดละราวีแต่อย่างใด
ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ได้ชี้ถึงปรากฏการณ์ในซีเรียและการคุกคามอย่างหนักในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมาของอเมริกาเพื่อสร้างสงครามในภูมิภาค ว่า พวกเขาเพื่อปกป้องสิทธิผลประโยชน์แห่งชาติของตนเองตามคำกล่าวอ้างนั้น ซึ่งอันที่จริงแล้วมันเป็นการปกป้องผลประโยชน์ของยิวไซออนิสต์ และนายทุนรายใหญ่ของโลกต่างหาก โดยยอมที่จะจุดเพลิงไฟสงครามเพื่อทำลายล้าง และ เหยียบย่ำทำลายผลประโยชน์ต่างๆ ของประเทศอื่นและชาติอื่นนับสิบประเทศ
ท่านผู้นำสูงสุด ย้ำถึง โดยหวังว่าท่าที่และปฏิกิริยาของอเมริกาที่แสดงออกมาล่าสุดในประเด็นซีเรียนั้น เป็นเรื่องที่จริงจัง และห่างไกลจากการเล่มเกมการเมือง พร้อมกับกล่าวย้ำว่า หากเป็นเช่นนี้ หมายความว่า อเมริกาได้หันออกไปจากการกระทำที่ผิดพลาดตามอำเภอใจและหลงผิดที่พวกเขาได้พยายามในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา
ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลาม กล่าวย้ำว่า สาธารณรัฐอิสลามอิหร่าน จะคอยเฝ้าระวังและเฝ้าติดตามสถานการณ์เหล่านี้อย่างใกล้ชิด และด้วยความเอาใจใส่ ด้วยมุมมองและสายตาที่เปิดกว้าง
ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี กล่าวเสริมว่า เราในฐานะที่เป็นประชาชาติผู้ยิ่งใหญ่ในภูมิภาคที่มีความละเอียดอ่อนเช่นนี้ จะต้องมีมุมมองและโลกทัศน์ที่ถูกต้อง และอาศัยพลังอำนาจแห่งอิสลาม เป้าหมายและวัตถุประสงค์ที่สูงส่งแห่งความเป็นมนุษย์ ที่วางอยู่บนพื้นฐานอิสลาม ให้เป็นที่ประจักษ์ชัดต่อสายตามนุษย์ชาติทั้งมวล อีกทั้งเรียกร้องเชิญชวนมนุษย์ชาติสู่ผลสัมฤทธิ์แห่งการขับเคลื่อนที่วางอยู่บนพื้นฐานอิสลามอีกด้วย
ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลาม กล่าวเสริมว่า ผลสัมฤทธิ์ของการขับเคลื่อนตามหลักพื้นฐานของอิสลามนั้น คือการสร้างพลังอำนาจภายในแห่งชาติ ซึ่งจะสามารถบรรลุผลได้ ด้วยความศรัทธาอันแรงกล้า ความเป็นเอกภาพของพี่น้องประชาชน จุดยืนและปฏิกิริยาที่ถูกต้องของคณะผู้บริหาร ความเห็นอกเห็นใจของพี่น้องประชาชน และผู้บริหาร และการตะวักกัลยังพระองค์
ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลาม ถือว่า ภูมิปัญญา จิตวิญญาณ การตะวักกัล การขับเคลื่อน และการปฏิบัติ คือ ห้าองค์ประกอบหลักที่สำคัญในการสร้างพลังอำนาจภายใน พร้อมกับกล่าวย้ำว่า การขับเคลื่อนของระบอบอิสลามในเส้นทางนี้ และการมีพลังอำนาจที่แข็งแกร่งขึ้นทุกวันนั้น ซึ่งย่อมส่งผลกระทบต่อเงื่อนไขในภูมิภาคอย่างแน่นอน ดั่งที่มันเคยเป็นอยู่ในวันนี้