สำนักผู้นำสูงสุดซัยยิด อาลี คาเมเนอี

เมื่อช่วงก่อนเที่ยงของวันจันทร์

อิมามนำนมาซวันศุกร์ทั่วประเทศ เข้าพบท่านผู้นำการปฏิวัติ

เมื่อช่วงก่อนเที่ยงของวันจันทร์ที่  (๑๐   ) บรรดาอิมามนำนมาซวันศุกร์ทั่วประเทศ เข้าพบ ฯพณฯ อยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ผู้นำการปฏิวัติอิสลาม    ซึ่งในการการพบปะครั้งนี้ ท่านผู้นำสูงสุด ถือว่า พิธีนมาซวันศุกร์เป็นเครือข่ายหนึ่งที่สำคัญและทรงค่าแห่งศาสนา  ประชาชาติและรัฐ   พร้อมกับกล่าวย้ำถึงความจำเป็นในการมีโลกทัศน์องค์รวมและมหาภาคในประเด็นปัญหาในประเทศ ภูมิภาค และระดับโลก  ว่า   รัฐบาล  คณะผู้บริหาร นักการเมือง นักการทูต และพลเรือนจำต้องวิเคราะห์ การเคลื่อนไหว   พฤติกรรมที่สลับซับซ้อน   และการสร้างภาพในประเด็นสิทธิมนุษย์ชนของตะวันตกและอเมริกา   ด้วยโลกทัศน์แห่งข้อเท็จจริง  ภายใต้กรอบขอบเขตในการเผชิญหน้าที่ลุ่มลึก และพื้นฐานหลักของตะวันตกกับอิสลาม  เพราะ มิฉะนั้นแล้ว อาจจะเกิดข้อผิดพลาดในการแยกแยะระหว่างกลยุทธ์และยุทธ์วิธีของฝ่ายตรงกันข้ามหรือแม้แต่การรู้จักศัตรูก็อาจจะเกิดความผิดพลาดก็เป็นได้


ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลาม ยังได้อธิบายถึงเหตุผลของความสำคัญ ในการมีโลกทัศน์องค์รวมและมหาภาคในประเด็นปัญหาในประเทศ ภูมิภาค และระดับโลก และการเผชิญหน้ากันระหว่างรากฐานหลักของตะวันตกกับอิสลาม  ตลอดช่วงหลายศตวรรษที่ผ่านมา  และบทบาทแห่งชัยชนะของการปฏิวัติอิสลามอันเป็นจุดเด่นแห่งการเผชิญหน้าในครั้งนี้   พร้อมกับกล่าวย้ำว่า ตะวันตก ในยุคสมัยแห่งการล่าอานานิคมนั้น มีการแพร่ขยายการยึดครองอำนาจอย่างเบ็ดเสร็จทั้งภาคเศรษฐกิจ การเมือง และวัฒนธรรม เหนือตะวันออก อาทิเช่น โลกอิสลาม   โดยอาศัยความเจริญก้าวหน้าด้านวิทยาศาสตร์  เทคโนโลยีเป็นที่ตั้ง    ซึ่งพยายามปลูกฝังว่า  แบบอย่าง และศูนย์กลางแห่งความเจริญก้าวหน้าและการคิดค้นของโลกนั้น คือตะวันตก


ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี กล่าวว่า  แม้กระทั้งการคิดคำนวณด้านภูมิศาสตร์  พวกเขาก็ได้มีการแก้ไขเปลี่ยนแปลงโดยอาศัยความได้เปรียบและความเหนือชั้นของโลกตะวันตก   และได้บัญญัติศัพท์ใหม่ที่ไม่ถูกต้อง  อาทิเช่น  ตะวันออกใกล้  ตะวันออกกลาง และตะวันออกไกลขึ้นมา


ท่านผู้นำสูงสุดได้ชี้ถึง อำนาจอธิปไตย และการเป็นมหาอำนาจของตะวันตกในยุคแห่งการล่าอานานิคม  ว่า  ในสถานการณ์เช่นนี้ ซึ่งประเทศต่างๆทั้งหมดในภูมิภาคนี้ รวมทั้ง อิหร่าน  ก็ตกอยู่ภายใต้อิทธิพลแห่งการครอบงำของตะวันตกและโลกแห่งวัตถุนิยม  และเมื่อการปฏิวัติอิสลามซึ่งวางอยู่บนพื้นฐานแห่งความเป็นเอกราช อิสรภาพอย่างสมบูรณ์แบบ และยึดมั่นต่ออิสลามและรากฐานแห่งอัลกุรอาน ได้รับชัยชนะ  ซึ่งสิ่งนี้ ได้สร้างผลกระทบและความเสียหายอย่างรุนแรงต่อรากฐานเชิงประวัติศาสตร์ของโลกตะวันตก 


ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลาม ชี้ถึงความสัมฤทธิ์ผลของการปฏิวัติอิสลามแห่งอิหร่านในระดับภูมิภาค โลกอิสลาม และเอกลักษณ์แห่งอิสลาม และศาสนา ซึ่งการปฏิวัติครั้งนี้ได้มอบให้กับประชาชาติ ว่า  การขยายตัวและแพร่กระจายทีละน้อยอย่างต่อเนื่องของความคิดอุดมการณ์และเอกลักษณ์ของการปฏิวัติอิสลามแห่งอิหร่าน ทำให้ตะวันตกเกิดความวิตกกังวลอย่างรุนแรง และห้วงเวลาแห่งการหยั่งรากลึกของแนวคิดอุดมการณ์แห่งอิสลามนั้น ทำให้พวกเขามีการวางแผนและร่างแผนการต่าง ๆ ของตนให้มีความสลับซับซ้อนมากขึ้นและลุ่มลึกยิ่งขึ้นกว่าเดิม

ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี กล่าวย้ำว่า ขณะนี้สถานการณ์ในภูมิภาคและโลกอิสลามเป็นไปในลักษณะที่ชาวตะวันตกคาดคิดว่า พวกเขาหล้าหลังจากความเป็นคู่แข่งกับแนวคิดอุดมการณ์ของการปฏิวัติอิสลาม และบนพื้นฐานดังกล่าวนี้เอง พวกเขาจึงทุ่มเทสุดความสามารถ เพื่อที่จะชดเชยความหล้าหลังอันนี้ให้ได้

ท่านผู้นำสูงสุด กล่าวเสริมว่า  ในสถานการณ์เช่นนี้ การตื่นตัวของอิสลามก็ได้เริ่มต้นขึ้นเช่นกันในภูมิภาค และตะวันตกซึ่งได้พบว่าตนเองนั้นหล้าหลังจากการขับเคลื่อนของแนวคิดของการปฏิวัติอิสลามอยู่แล้ว จึงได้หันหน้าเข้ามาสู่สนามด้วยความกระวีกระวาด เพื่อเผชิญหน้ากับการตื่นตัวของอิสลามและอิสลามแบบการเมือง


ท่านผู้นำสูงสุด ย้ำว่า  เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในภูมิภาคจำต้องมีการวิเคราะห์ในลักษณะเช่นนี้  พร้อมกับกล่าวย้ำว่า รัฐบาล  คณะผู้บริหาร นักการเมือง นักการทูต และพลเรือน และพี่น้องประชาชนทุกภาคส่วน จำต้องมีโลกทัศน์และวิสัยทัศน์ มุมมองเชิงองค์รวม และถูกต้องเพราะว่า หากมิได้เป็นเช่นนี้แล้ว ก็จะไม่เห็นข้อเท็จจริง และนอกจากจะถูกหลอกแล้วยังจะได้รับผลกระทบเชิงลบและความเสียหายอย่างรุนแรงที่ติดตามอีกด้วย


ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลาม ถือว่า  สาธารณรัฐอิสลามอิหร่าน คือ หนึ่งในความหมายของ “ฟัตฮุล ฟุตุห์”  ในเวทีแห่งการเผชิญหน้าระหว่างโลกแห่งวัตถุนิยมกับอิสลาม พร้อมกับกล่าวย้ำว่า  การพิชัยประตูแห่งชัยชนะนี้ (ฟัตฮุลฟุตุห์) จะยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่องด้วยกับพลังอำนาจที่แข็งแกร่งและมั่นคง และการมีความมั่นคงภายในที่แข็งแกร่งกว่าเดิมและการยืนหยัดอย่างมั่นคงของหน่วยงานองค์กรต่างๆต่อคุณค่าและรากฐานแห่งการปฏิวัติอิสลามนั้น  แน่นอนยิ่งฟัตฮุล ฟุตุห์ และพลังอำนาจนี้จะไม่มีใครสามารถต้านทานและทำลายลงได้เป็นอันขาด


ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี กล่าวย้ำว่า  จำต้องเผชิญหน้ากับโลกตะวันตกอย่างองอาจและมีเกียรติ เพราะพวกเขาได้แสดงออกมาแล้วว่า พวกเขาจะไม่ปราณีใคร  ซึ่งมันขัดแย้งกับคำกล่าวอ้างในเรื่องสิทธิมนุษยชนและการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีของพวกเขาในเรื่องนี้  เพราะการสังหารและเข่นฆ่าพี่น้องประชาชนนับล้านคนนั้น มันมิได้ส่งผลกระทบด้านมโนธรรม สามัญสำนึกใดๆต่อพวกเขาเลย


ท่านผู้นำสูงสุด ถือว่า การโกหกและการสร้างภาพคือคุณลักษณ์นิสัยของนักการเมืองตะวันตก  พร้อมกับกล่าวย้ำว่า  เบื้องหน้าเบื้องหลังข้อเท็จจริงของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น  ไม่ว่า การเข่นฆ่าสังหารพี่น้องประชาชนในฮีโรชิม่า  การเข่นฆ่าสังหารพี่น้องประชาชนนับล้านๆคนในสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง และสงครามโลกครั้งที่สอง   การสังหารพี่น้องผู้บริสุทธิ์ในปากีสถาน อัฟกานิสถาน และอีรัก ซึ่งล้วนแล้วเป็นฝีมือของตะวันตกทั้งสิ้น แต่พวกเขาก็ยังไม่มีความรู้สึกในความเจ็บปวดใดๆเลยต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น  และในอนาคตก็เช่นกัน  ทุกหนแห่งที่เอื้อผลประโยชน์ให้กับพวกเขา พวกเขาก็จะไม่มีความรู้สึกผิด และจะไม่ยั้งมือในการเข่นฆ่าสังหารพี่น้องประชาชนแต่ประการใด และ ด้วยเหตุนี้ เราจำต้องเสริมสร้างพลังอำนาจภายในให้เกิดขึ้นอย่างมีประสิทธิภาพทั้งในด้านการเมือง  การปกครอง วิถีชีวิตและประชาชน


ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลาม ถือว่า การนมาซวันศุกร์คือเครือข่ายหนึ่งที่ทรงคุณค่าของศาสนา ประชาชน  รัฐ และการปกครอง    พร้อมกับกล่าวย้ำว่า  การนมาซวันศุกร์ประกอบด้วยการอธิบายข้อเท็จจริงแห่งจิตวิญญาณ และหลักคำสอนของอิสลาม และการปรากฏตัวและเข้าร่วมของพี่น้องประชาชนที่ปราศจากข้อบังคับในเวทีนี้ ก็คือการสร้างความสัมพันธ์กับรัฐบาลอิสลามนั้นเอง


ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลาม ได้กล่าวย้ำถึงความสัมพันธ์ระหว่างการนมาซวันศุกร์กับการปกครองว่า   มันอาจจะตรงกันข้ามกับความคิดของบางคน     เพราะรัฐบาลมิได้มีหน้าที่เพียงแค่เอื้ออำนวยความสะดวกสบาย สวัสดิการ และอิสรภาพทางการเมืองเท่านั้น ทว่ารัฐบาลยังมีหน้าที่ในการดูแลประเด็นเรื่องศาสนา  และความเชื่อของพี่น้องประชาชนอีกด้วย


ท่านผู้นำสูงสุด กล่าวเสริมว่า  เครือข่ายดังกล่าวนี้ นอกเหนือจากเป็นเครือข่ายของพี่น้องประชาชน อิสลาม รัฐบาลและการเมืองแล้ว มันมิได้เป็นการแบ่งพรรคแบ่งพวกของพี่น้องประชาชน และพรรคการเมืองแต่อย่างใด


ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลาม กล่าวเสริมว่า การนมาซวันศุกร์ถือเป็นภาระหน้าที่หนึ่ง หากพิจารณาจากมุมมองแห่งหลักพื้นฐาน และคุณค่าของการปฏิวัติอิสลาม  และการนมาซวันศุกร์ก็จำต้องคำนึงและยึดมั่นต่อคุณค่าของอิสลามและต้องสอดคล้องกับหลักพื้นฐานแห่งรากฐานทางอุดมการณ์และสติปัญญาอีกด้วย 


ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี  ได้แนะน้ำและกำชับให้บรรดาอิมามนำนมาซวันศุกร์  อ่านคุตบะห์สั้นๆ แต่ในขณะเดียวกัน เต็มไปด้วยเนื้อหา สาระ วิทยปัญญาและเป็นการตักเตือนแด่พี่น้องประชาชน   พร้อมกับกล่าวย้ำว่า  จงพยายามนำเสนอเนื้อหาของคุตบะห์นมาซวันศุกร์ที่มีใจความเนื้อหาอันสอดคล้องตามความต้องการแห่งวิถีและความจำเป็นของประชาชน   สามารถตอบโจทย์คำถามและปมปัญหาด้านความคิดต่างๆของผู้เข้าร่วมนมาซ โดยเฉพาะบรรดาเยาวชนหนุ่มสาว ในประเด็นหลักความศรัทธา หลักการปฏิบัติ และการเมืองได้เป็นอย่างดี 


 ท่านผู้นำสูงสุด ได้กล่าวย้ำถึง ทิศทางในการอ่านคุตบะห์นมาซวันศุกร์ในอนาคต นั้น จำต้องมีสารัตถะแห่งความหวัง  และการเสริมสร้างความสัมพันธ์อันมั่นคงระหว่างพี่น้องประชาชนกับระบอบการปกครองอิสลาม   อีกทั้ง ฯพณฯ ผู้นำสูงสุด ยังกล่าวตักเตือนและแนะนำ อิมามนำนมาซวันศุกร์ ให้มีความสัมพันธ์ ปฏิสัมพันธ์ กับพี่น้องประชาชน   ปรากฏตัวในสังคมในหมู่เยาวชน นักศึกษา และนักเรียนศาสนา และการน้อมรับฟังคำพูดต่างๆของพวกเขาด้วย


ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลาม กล่าวเสริมว่า  อีกประเด็นหนึ่งซึ่งจำต้องให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก ในคุตบะห์นมาซวันศุกร์ คือ ประเด็นวิถีชีวิต โดยอาศัยการนำเสนออธิบายที่เต็มไปด้วยหลักฐานอ้างอิงที่สมบูรณ์และทันต่อเหตุการณ์  


เบื้องต้นก่อนที่ท่านผู้นำสูงสุด จะกล่าวสุนทโรวาท  ฮุจญะตุลอิสลาม วัลมุสลีมีน ตะกะวีย์  ประธานสภาชูรอฝ่ายนโยบายอิมามนำนมาซวันศุกร์ทั่วประเทศ ได้อธิบายชี้ถึงการจัดประชุมสัมมนาประจำปีอิมามนำนมาซวันศุกร์ครั้งที่ ๒๒   ว่า    ขณะนี้ มี 750   จุด ทั่วประเทศที่มีการจัดพิธีนมาซวันศุกร์ทุกๆสัปดาห์ 















700 /