เมื่อช่วงก่อนเที่ยงของวันจันทร์ที่ (๑๐ ) บรรดาอิมามนำนมาซวันศุกร์ทั่วประเทศ เข้าพบ ฯพณฯ อยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ผู้นำการปฏิวัติอิสลาม ซึ่งในการการพบปะครั้งนี้ ท่านผู้นำสูงสุด ถือว่า พิธีนมาซวันศุกร์เป็นเครือข่ายหนึ่งที่สำคัญและทรงค่าแห่งศาสนา ประชาชาติและรัฐ พร้อมกับกล่าวย้ำถึงความจำเป็นในการมีโลกทัศน์องค์รวมและมหาภาคในประเด็นปัญหาในประเทศ ภูมิภาค และระดับโลก ว่า รัฐบาล คณะผู้บริหาร นักการเมือง นักการทูต และพลเรือนจำต้องวิเคราะห์ การเคลื่อนไหว พฤติกรรมที่สลับซับซ้อน และการสร้างภาพในประเด็นสิทธิมนุษย์ชนของตะวันตกและอเมริกา ด้วยโลกทัศน์แห่งข้อเท็จจริง ภายใต้กรอบขอบเขตในการเผชิญหน้าที่ลุ่มลึก และพื้นฐานหลักของตะวันตกกับอิสลาม เพราะ มิฉะนั้นแล้ว อาจจะเกิดข้อผิดพลาดในการแยกแยะระหว่างกลยุทธ์และยุทธ์วิธีของฝ่ายตรงกันข้ามหรือแม้แต่การรู้จักศัตรูก็อาจจะเกิดความผิดพลาดก็เป็นได้
ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลาม ยังได้อธิบายถึงเหตุผลของความสำคัญ ในการมีโลกทัศน์องค์รวมและมหาภาคในประเด็นปัญหาในประเทศ ภูมิภาค และระดับโลก และการเผชิญหน้ากันระหว่างรากฐานหลักของตะวันตกกับอิสลาม ตลอดช่วงหลายศตวรรษที่ผ่านมา และบทบาทแห่งชัยชนะของการปฏิวัติอิสลามอันเป็นจุดเด่นแห่งการเผชิญหน้าในครั้งนี้ พร้อมกับกล่าวย้ำว่า ตะวันตก ในยุคสมัยแห่งการล่าอานานิคมนั้น มีการแพร่ขยายการยึดครองอำนาจอย่างเบ็ดเสร็จทั้งภาคเศรษฐกิจ การเมือง และวัฒนธรรม เหนือตะวันออก อาทิเช่น โลกอิสลาม โดยอาศัยความเจริญก้าวหน้าด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีเป็นที่ตั้ง ซึ่งพยายามปลูกฝังว่า แบบอย่าง และศูนย์กลางแห่งความเจริญก้าวหน้าและการคิดค้นของโลกนั้น คือตะวันตก
ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี กล่าวว่า แม้กระทั้งการคิดคำนวณด้านภูมิศาสตร์ พวกเขาก็ได้มีการแก้ไขเปลี่ยนแปลงโดยอาศัยความได้เปรียบและความเหนือชั้นของโลกตะวันตก และได้บัญญัติศัพท์ใหม่ที่ไม่ถูกต้อง อาทิเช่น ตะวันออกใกล้ ตะวันออกกลาง และตะวันออกไกลขึ้นมา
ท่านผู้นำสูงสุดได้ชี้ถึง อำนาจอธิปไตย และการเป็นมหาอำนาจของตะวันตกในยุคแห่งการล่าอานานิคม ว่า ในสถานการณ์เช่นนี้ ซึ่งประเทศต่างๆทั้งหมดในภูมิภาคนี้ รวมทั้ง อิหร่าน ก็ตกอยู่ภายใต้อิทธิพลแห่งการครอบงำของตะวันตกและโลกแห่งวัตถุนิยม และเมื่อการปฏิวัติอิสลามซึ่งวางอยู่บนพื้นฐานแห่งความเป็นเอกราช อิสรภาพอย่างสมบูรณ์แบบ และยึดมั่นต่ออิสลามและรากฐานแห่งอัลกุรอาน ได้รับชัยชนะ ซึ่งสิ่งนี้ ได้สร้างผลกระทบและความเสียหายอย่างรุนแรงต่อรากฐานเชิงประวัติศาสตร์ของโลกตะวันตก
ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลาม ชี้ถึงความสัมฤทธิ์ผลของการปฏิวัติอิสลามแห่งอิหร่านในระดับภูมิภาค โลกอิสลาม และเอกลักษณ์แห่งอิสลาม และศาสนา ซึ่งการปฏิวัติครั้งนี้ได้มอบให้กับประชาชาติ ว่า การขยายตัวและแพร่กระจายทีละน้อยอย่างต่อเนื่องของความคิดอุดมการณ์และเอกลักษณ์ของการปฏิวัติอิสลามแห่งอิหร่าน ทำให้ตะวันตกเกิดความวิตกกังวลอย่างรุนแรง และห้วงเวลาแห่งการหยั่งรากลึกของแนวคิดอุดมการณ์แห่งอิสลามนั้น ทำให้พวกเขามีการวางแผนและร่างแผนการต่าง ๆ ของตนให้มีความสลับซับซ้อนมากขึ้นและลุ่มลึกยิ่งขึ้นกว่าเดิม
ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี กล่าวย้ำว่า ขณะนี้สถานการณ์ในภูมิภาคและโลกอิสลามเป็นไปในลักษณะที่ชาวตะวันตกคาดคิดว่า พวกเขาหล้าหลังจากความเป็นคู่แข่งกับแนวคิดอุดมการณ์ของการปฏิวัติอิสลาม และบนพื้นฐานดังกล่าวนี้เอง พวกเขาจึงทุ่มเทสุดความสามารถ เพื่อที่จะชดเชยความหล้าหลังอันนี้ให้ได้
ท่านผู้นำสูงสุด กล่าวเสริมว่า ในสถานการณ์เช่นนี้ การตื่นตัวของอิสลามก็ได้เริ่มต้นขึ้นเช่นกันในภูมิภาค และตะวันตกซึ่งได้พบว่าตนเองนั้นหล้าหลังจากการขับเคลื่อนของแนวคิดของการปฏิวัติอิสลามอยู่แล้ว จึงได้หันหน้าเข้ามาสู่สนามด้วยความกระวีกระวาด เพื่อเผชิญหน้ากับการตื่นตัวของอิสลามและอิสลามแบบการเมือง
ท่านผู้นำสูงสุด ย้ำว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในภูมิภาคจำต้องมีการวิเคราะห์ในลักษณะเช่นนี้ พร้อมกับกล่าวย้ำว่า รัฐบาล คณะผู้บริหาร นักการเมือง นักการทูต และพลเรือน และพี่น้องประชาชนทุกภาคส่วน จำต้องมีโลกทัศน์และวิสัยทัศน์ มุมมองเชิงองค์รวม และถูกต้องเพราะว่า หากมิได้เป็นเช่นนี้แล้ว ก็จะไม่เห็นข้อเท็จจริง และนอกจากจะถูกหลอกแล้วยังจะได้รับผลกระทบเชิงลบและความเสียหายอย่างรุนแรงที่ติดตามอีกด้วย
ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลาม ถือว่า สาธารณรัฐอิสลามอิหร่าน คือ หนึ่งในความหมายของ “ฟัตฮุล ฟุตุห์” ในเวทีแห่งการเผชิญหน้าระหว่างโลกแห่งวัตถุนิยมกับอิสลาม พร้อมกับกล่าวย้ำว่า การพิชัยประตูแห่งชัยชนะนี้ (ฟัตฮุลฟุตุห์) จะยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่องด้วยกับพลังอำนาจที่แข็งแกร่งและมั่นคง และการมีความมั่นคงภายในที่แข็งแกร่งกว่าเดิมและการยืนหยัดอย่างมั่นคงของหน่วยงานองค์กรต่างๆต่อคุณค่าและรากฐานแห่งการปฏิวัติอิสลามนั้น แน่นอนยิ่งฟัตฮุล ฟุตุห์ และพลังอำนาจนี้จะไม่มีใครสามารถต้านทานและทำลายลงได้เป็นอันขาด
ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี กล่าวย้ำว่า จำต้องเผชิญหน้ากับโลกตะวันตกอย่างองอาจและมีเกียรติ เพราะพวกเขาได้แสดงออกมาแล้วว่า พวกเขาจะไม่ปราณีใคร ซึ่งมันขัดแย้งกับคำกล่าวอ้างในเรื่องสิทธิมนุษยชนและการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีของพวกเขาในเรื่องนี้ เพราะการสังหารและเข่นฆ่าพี่น้องประชาชนนับล้านคนนั้น มันมิได้ส่งผลกระทบด้านมโนธรรม สามัญสำนึกใดๆต่อพวกเขาเลย
ท่านผู้นำสูงสุด ถือว่า การโกหกและการสร้างภาพคือคุณลักษณ์นิสัยของนักการเมืองตะวันตก พร้อมกับกล่าวย้ำว่า เบื้องหน้าเบื้องหลังข้อเท็จจริงของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น ไม่ว่า การเข่นฆ่าสังหารพี่น้องประชาชนในฮีโรชิม่า การเข่นฆ่าสังหารพี่น้องประชาชนนับล้านๆคนในสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง และสงครามโลกครั้งที่สอง การสังหารพี่น้องผู้บริสุทธิ์ในปากีสถาน อัฟกานิสถาน และอีรัก ซึ่งล้วนแล้วเป็นฝีมือของตะวันตกทั้งสิ้น แต่พวกเขาก็ยังไม่มีความรู้สึกในความเจ็บปวดใดๆเลยต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และในอนาคตก็เช่นกัน ทุกหนแห่งที่เอื้อผลประโยชน์ให้กับพวกเขา พวกเขาก็จะไม่มีความรู้สึกผิด และจะไม่ยั้งมือในการเข่นฆ่าสังหารพี่น้องประชาชนแต่ประการใด และ ด้วยเหตุนี้ เราจำต้องเสริมสร้างพลังอำนาจภายในให้เกิดขึ้นอย่างมีประสิทธิภาพทั้งในด้านการเมือง การปกครอง วิถีชีวิตและประชาชน
ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลาม ถือว่า การนมาซวันศุกร์คือเครือข่ายหนึ่งที่ทรงคุณค่าของศาสนา ประชาชน รัฐ และการปกครอง พร้อมกับกล่าวย้ำว่า การนมาซวันศุกร์ประกอบด้วยการอธิบายข้อเท็จจริงแห่งจิตวิญญาณ และหลักคำสอนของอิสลาม และการปรากฏตัวและเข้าร่วมของพี่น้องประชาชนที่ปราศจากข้อบังคับในเวทีนี้ ก็คือการสร้างความสัมพันธ์กับรัฐบาลอิสลามนั้นเอง
ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลาม ได้กล่าวย้ำถึงความสัมพันธ์ระหว่างการนมาซวันศุกร์กับการปกครองว่า มันอาจจะตรงกันข้ามกับความคิดของบางคน เพราะรัฐบาลมิได้มีหน้าที่เพียงแค่เอื้ออำนวยความสะดวกสบาย สวัสดิการ และอิสรภาพทางการเมืองเท่านั้น ทว่ารัฐบาลยังมีหน้าที่ในการดูแลประเด็นเรื่องศาสนา และความเชื่อของพี่น้องประชาชนอีกด้วย
ท่านผู้นำสูงสุด กล่าวเสริมว่า เครือข่ายดังกล่าวนี้ นอกเหนือจากเป็นเครือข่ายของพี่น้องประชาชน อิสลาม รัฐบาลและการเมืองแล้ว มันมิได้เป็นการแบ่งพรรคแบ่งพวกของพี่น้องประชาชน และพรรคการเมืองแต่อย่างใด
ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลาม กล่าวเสริมว่า การนมาซวันศุกร์ถือเป็นภาระหน้าที่หนึ่ง หากพิจารณาจากมุมมองแห่งหลักพื้นฐาน และคุณค่าของการปฏิวัติอิสลาม และการนมาซวันศุกร์ก็จำต้องคำนึงและยึดมั่นต่อคุณค่าของอิสลามและต้องสอดคล้องกับหลักพื้นฐานแห่งรากฐานทางอุดมการณ์และสติปัญญาอีกด้วย
ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ได้แนะน้ำและกำชับให้บรรดาอิมามนำนมาซวันศุกร์ อ่านคุตบะห์สั้นๆ แต่ในขณะเดียวกัน เต็มไปด้วยเนื้อหา สาระ วิทยปัญญาและเป็นการตักเตือนแด่พี่น้องประชาชน พร้อมกับกล่าวย้ำว่า จงพยายามนำเสนอเนื้อหาของคุตบะห์นมาซวันศุกร์ที่มีใจความเนื้อหาอันสอดคล้องตามความต้องการแห่งวิถีและความจำเป็นของประชาชน สามารถตอบโจทย์คำถามและปมปัญหาด้านความคิดต่างๆของผู้เข้าร่วมนมาซ โดยเฉพาะบรรดาเยาวชนหนุ่มสาว ในประเด็นหลักความศรัทธา หลักการปฏิบัติ และการเมืองได้เป็นอย่างดี
ท่านผู้นำสูงสุด ได้กล่าวย้ำถึง ทิศทางในการอ่านคุตบะห์นมาซวันศุกร์ในอนาคต นั้น จำต้องมีสารัตถะแห่งความหวัง และการเสริมสร้างความสัมพันธ์อันมั่นคงระหว่างพี่น้องประชาชนกับระบอบการปกครองอิสลาม อีกทั้ง ฯพณฯ ผู้นำสูงสุด ยังกล่าวตักเตือนและแนะนำ อิมามนำนมาซวันศุกร์ ให้มีความสัมพันธ์ ปฏิสัมพันธ์ กับพี่น้องประชาชน ปรากฏตัวในสังคมในหมู่เยาวชน นักศึกษา และนักเรียนศาสนา และการน้อมรับฟังคำพูดต่างๆของพวกเขาด้วย
ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลาม กล่าวเสริมว่า อีกประเด็นหนึ่งซึ่งจำต้องให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก ในคุตบะห์นมาซวันศุกร์ คือ ประเด็นวิถีชีวิต โดยอาศัยการนำเสนออธิบายที่เต็มไปด้วยหลักฐานอ้างอิงที่สมบูรณ์และทันต่อเหตุการณ์
เบื้องต้นก่อนที่ท่านผู้นำสูงสุด จะกล่าวสุนทโรวาท ฮุจญะตุลอิสลาม วัลมุสลีมีน ตะกะวีย์ ประธานสภาชูรอฝ่ายนโยบายอิมามนำนมาซวันศุกร์ทั่วประเทศ ได้อธิบายชี้ถึงการจัดประชุมสัมมนาประจำปีอิมามนำนมาซวันศุกร์ครั้งที่ ๒๒ ว่า ขณะนี้ มี 750 จุด ทั่วประเทศที่มีการจัดพิธีนมาซวันศุกร์ทุกๆสัปดาห์