เมื่อเช้าวันพุธที่ผ่านมา (๒๘) ท่าน อยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ได้พบปะกับคณะรัฐบาลชุดใหม่สมัยที่สิบเอ็ด โดยกล่าวขอบคุณในความร่วมมือระหว่างรัฐบาลกับรัฐสภาเพื่อเริ่มต้นภารกิจของรัฐบาลชุดใหม่ พร้อมกับถือว่า อะกอ โรฮานีย์ เป็นประธานาธิบดีที่มีความเหมาะสม ได้รับความไว้วางใจ และเป็นนักปฏิวัติที่ผ่านประสบการณ์อันเป็นที่ประจักษ์ชัด
พร้อมกันนั้น ฯพณฯ ผู้นำสูงสุด ได้อธิบายชี้แจงในประเด็นตัวชี้วัดที่สำคัญในพันธะกิจของรัฐบาลชุดใหม่ อาทิเช่น หลักความเชื่อและจริยธรรมที่สมบูรณ์และบริสุทธิ์ การรับใช้พี่น้องประชาชน ความยุติธรรม เศรษฐกิจที่มั่นคั่ง การต่อสู้กับสิ่งฟาซาด หลักนิติธรรม ฮิกมัต วิทยะปัญญา ภูมิปัญญาและการพึ่งพาพลังความสามารถที่มีอยู่ภายในประเทศ พร้อมกับกล่าวย้ำว่า จงนำเอาประเด็นเศรษฐกิจและวิทยาศาสตร์เป็นนโยบายหลักของรัฐ และสร้างความหวังในอนาคตให้กับพี่น้องประชาชนอย่างต่อเนื่อง ด้วยการชะลออัตราเงินเฟ้อ ให้หลักประกันและรองรับความต้องการขั้นพื้นฐานของประชาชน กระตุ้นกระบวนการผลิต เร่งการเคลื่อนไหว ความมั่นคงและเสถียรในด้านเศรษฐกิจ
ท่านผู้นำสูงสุดถือว่า การแทรกแซงของสหรัฐต่อกิจการภายในซีเรียนั้น เป็นโศกนาฏกรรมหนึ่งที่จะบังเกิดขึ้นอย่างแน่นอนในภูมิภาคนี้ พร้อมกับกล่าวย้ำว่า การแทรกแซงและการก่อสงครามนั้นไม่ว่าจะด้วยวิธีการและรูปแบบใดก็ตาม มันจะจุดประกายเพลิงไฟให้ลุกลามและร้อนระอุเป็นทวีคูณอย่างแน่นอน
ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ได้แสดงความยินดีเนื่องในสัปดาห์รัฐ แด่เหล่าคณะผู้บริหาร ข้าราชการและเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหาร พร้อมกับถือว่า สัปดาห์แห่งรัฐได้ถูกประดับด้วยกับชื่อของชะฮีดผู้ทรงเกียรติ สองท่าน คือ ชะฮีด ราญาอี และชะฮีด บอโฮนาร์ และคณะชุดรัฐบาลต่างๆที่ได้นำเอาอุดมการณ์และชื่อของชะฮีดทั้งสองมาปฏิบัตินั้น ล้วนแล้วเป็นการขับเคลื่อนที่ทรงความหมายยิ่ง
ท่านผู้นำสูงสุด ได้ชื่นชมประธานาธิบดี ที่ได้รีบดำเนินการในการปฏิบัติภารกิจของประธานาธิบดีในการนำเสนอรายชื่อของเหล่าคณะรัฐมนตรีต่อรัฐสภาอิสลามพิจารณา ว่า มติและการได้รับคะแนนเสียงโหวตที่ดีจากรัฐสภาต่อคณะรัฐมนตรีที่ถูกเสนอชื่อมานั้น เป็นการปูทางที่สำคัญยิ่งในการเริ่มจัดตั้งคณะรัฐบาลชุดใหม่ ซึ่งประเด็นดังกล่าวนี้ เป็นการบ่งชี้ถึงความร่วมมือและความสัมพันธ์ที่ทรงค่ายิ่งระหว่างสองฝ่าย และเป็นประเด็นที่ละเอียดอ่อนยิ่งที่ควรแก่การชื่นชมยังประธานาธิบดีและรัฐสภา สำหรับการเริ่มต้นภารกิจใหม่ของรัฐบาลชุดนี้
ท่านผู้นำสูงสุด ได้ตั้งความหวังในการปรากฏเห็นจุดเด่นของรัฐบาลชุดนี้อย่างเป็นรูปธรรม อีกทั้งความต่อเนื่องและการเพิ่มความหวังให้กับพี่น้องประชาชน พร้อมกับกล่าวย้ำว่า การมีอยู่ของ อะกอ โรฮานี (ผู้ที่มีประสบการณ์อย่างโชกโชนในการต่อสู้ การปฏิวัติ และมีจุดยืน อุดมการณ์ที่ดีและถูกต้องในช่วงสามทศวรรษที่ผ่านมา)ซึ่งสิ่งนี้ปราศจากข้อครางแคลนสงสัยใดๆว่านี้คือจุดเด่นของรัฐบาลชุดนี้
ท่านผู้นำสูงสุด ได้ชี้ถึงความตั้งมั่นและความมุ่งมั่นอันแรงกล้าของประธานาธิบดีในการแก้ไขอุปสรรค์ปัญหาต่างๆ ว่า อินชาอัลลอฮ์ คณะรัฐบาลชุดนี้ ด้วยการพึ่งพาพื้นฐานแห่งความมุ่งมั่น ที่มั่นคง จะสามารถขับเคลื่อนบนเส้นทางที่ถูกต้อง และสามารถปฏิบัติภาระหน้าที่ที่หนักอึ้งสำเร็จลุล่วงได้เป็นอย่างดี
คำปราศรัยของท่านผู้นำสูงสุด ในการพบปะครั้งแรกนี้กับคณะรัฐบาลชุดใหม่สมัยที่สิบเอ็ด ซึ่งฯพณฯ ได้ทำการอธิบายเจ็ดตัวชี้วัดที่สำคัญในภาระหน้าที่หลักของรัฐบาลอิสลามในอุดมคติ
ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลาม ถือว่า หลักความเชื่อและจริยธรรมที่สมบูรณ์และบริสุทธิ์ นั้น เป็นตัวชี้วัดที่สำคัญลำดับต้นของรัฐบาลอิสลามในอุดมคติ พร้อมกับกล่าวย้ำว่า ความศรัทธาเช่นนี้ และการมีโลกทัศน์ที่ถูกต้องยังข้อเท็จจริงในสังคมนั้น จะนำมาซึ่งความถูกต้อง ความสันติและความสมบูรณ์ในปฏิกิริยาของรัฐบาล
ท่านผู้นำสูงสุด ถือว่า คำชี้แนะ คำแนะนำและจุดยืนของท่านอิมามโคมัยนี(รฎ) นั้น ก็เป็นอีกหนึ่งตัวชี้วัดที่สำคัญ โดย ฯพณฯ กล่าวย้ำว่า รากฐานและคุณค่าแห่งการปฏิวัติ ได้ปรากฏฉายอย่างชัดแจ้งในสุนทรพจน์ต่างๆและจุดยืนของท่านอิมามโคมัยนี(รฎ) และหากมีการยึดมั่นอย่างแท้จริงและผูกมัดใจอย่างแน่วแน่กับสิ่งนี้ และในช่วงยามคลุมเครือนั้น ได้ย้อนกลับยังสิ่งนี้แล้ว แน่นอนยิ่งด้วยความโปรดปรานของพระผู้อภิบาล ภารกิจและการงานทั้งหลาย “ อนาคตจะมีความสดใสอย่างแน่นอน” และจะก้าวมั่นสู่หนทางข้างหน้าได้อย่างรวดเร็วมากยิ่งขึ้น
ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลาม ยังอธิบายถึงตัวชี้วัดของหลักความเชื่อและจริยธรรมที่สมบูรณ์และบริสุทธิ์ คือ ความไว้วางใจ เชื่อมั่นอย่างจริงแท้ในพันธะสัญญาแห่งการช่วยเหลือของพระองค์ ซึ่งสิ่งนี้เป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่ง พร้อมกับกล่าวย้ำว่า ในประสบการณ์ที่ผ่านมา อาทิเช่น ชัยชนะของการปฏิวัติ การปกป้องอันศักดิ์สิทธิ์ และการมีชัยเหนือกลุ่มผู้ก่อจลาจลจากชนเผ่าที่เกิดขึ้นนับหลายต่อหลายครั้งในช่วงเริ่มต้นของการปฏิวัติ ซึ่งประชาชาติ และคณะผู้บริหารประเทศ ล้วนได้สัมผัสอย่างแท้จริงในพันธะสัญญาต่างๆของพระองค์ได้เป็นอย่างดี ซึ่งประสบการณ์ต่างๆเหล่านี้นั้น ล้วนเป็นสิ่งที่ทรงค่ายิ่ง และเป็นปัจจัยที่สำคัญในการสร้างความมั่นใจและความวางไว้ใจอย่างสมบูรณ์แบบต่อพันธะสัญญาแห่งการช่วยเหลือของพระองค์
ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ได้ชี้ถึงคำพูดของประธานาธิบดี พร้อมกับกล่าวเสริม ว่า การมอบความไว้วางใจแด่พระผู้อภิบาล การมีโลกทัศน์ที่ถูกต้อง ภูมิปัญญาและวิทยะปัญญา คือตัวช่วยที่จะสามารถแก้ไขและคลี่คลายอุปสรรค์ปัญหาต่างๆได้อย่างดีเยี่ยมการรับใช้พี่น้องประชาชน คือตัวชี้วัดประการที่สองของคุณลักษณะแห่งรัฐบาลอิสลามในอุดมคติ ที่ ท่านผู้นำการปฏิวัติ ได้ทำการอธิบาย
ท่านผู้นำสูงสุด ถือว่า การบริการและการรับใช้พี่น้องประชาชน คือ วาทะกรรมหลักของรัฐบาลอิสลามและปรัชญาของการมีอยู่ของคณะผู้บริหาร พร้อมกับกล่าวย้ำว่า ไม่ว่าจะเกิดอุปสรรค์ปัญหาอะไร บรรดาคณะผู้บริหารจะต้องไม่เพิกเฉยต่อการรับใช้และการบริการต่อพี่น้องประชาชน
ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี กล่าวย้ำว่า ทัศนะคติ และความนิยมชื่นชอบทางการเมือง – เศรษฐกิจ และสังคมที่แตกต่างกันนั้นเป็นเรื่องปลีกย่อย และการรับใช้พี่น้องประชาชนเป็นตัวบทหลักที่สำคัญ ฉะนั้นจงอย่าได้เอาเรื่องปลีกย่อยมาสร้างผลกระทบต่อตัวบทหลักที่สำคัญเป็นอันขาด
ท่านผู้นำการปฏิวัติ ย้ำเตือนรัฐบาลชุดใหม่ กรณีช่วงเวลาแห่งการรับใช้พี่น้องประชาชนจะผ่านพ้นไปอย่างรวดเร็วยิ่ง ว่า ข้าพเจ้าเคยกล่าวกับคณะรัฐบาลชุดก่อนๆที่ผ่านมาแล้ว ว่า โอกาสแห่งการรับใช้พี่น้องประชาชนจะผ่านพ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งในการแบกรับภารกิจอันนี้ บางครั้ง ใช้เวลาแค่ 4 ปี หรือ 8 ปีเท่านั้น แต่ในช่วงเวลาและขอบเขตที่จำกัดเช่นนี้ จะครอบคลุมโอกาสต่างๆอย่างไม่มีวันสิ้นสุดในการรับใช้พี่น้องประชาชน ซึ่งทุกคนอย่าปล่อยโอกาสให้มันหลุดมือเป็นอันขาด
ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ถือว่า การรับใช้พี่น้องประชาชน โลกทัศน์ และการงานที่มุ่งมั่นเพียรพยายามเป็นประเด็นที่ทรงค่ายิ่ง พร้อมกับกล่าวย้ำว่า การงานที่มุ่งมั่นและเพียรพยายาม นั้น หาใช่ว่าไร้ซึ่งหลักแห่งกฎหมาย ซึ่งข้าพเจ้าขอต่อต้านอย่างหนักยังบรรดาผู้ที่ไร้ซึ่งกฎหมาย แต่ทว่า ภายใต้กรอบของกฎหมาย สามารถที่จะเหินห่างจากมุมมองระบบของสำนักงาน แล้วหันกลับมาปฏิบัติด้วยมุมมอง “โลกทัศน์แห่งความเพียรพยายาม และถวิลหาอุดมการณ์” อีกทั้งฝ่าฝันสิ่งกีดขวางต่างๆได้เป็นอย่างดี
ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ถือว่า ความยุติธรรมเป็นอีกหนึ่งตัวชี้วัดที่สำคัญของรัฐบาลอิสลามในอุดมคติ พร้อมกับกล่าวย้ำว่า เหมือนดังที่เคยกล่าวและกำชับมาแล้วก่อนหน้านี้ เรากำลังมุ่งสู่ความเจริญก้าวหน้า หรืออีกนัยหนึ่งอันเป็นที่รับรู้คือการพัฒนา ซึ่งการพัฒนานั้นจำต้องควบคู่ไปด้วยความยุติธรรม และหากมิได้เป็นเช่นนี้แล้ว ในที่สุดสังคมก็จะกลายเป็นชาติตะวันตก ซึ่งจะมีแต่ความแตกแยก การเลือกปฏิบัติ และความไม่พึงพอใจความมั่นคงปลอดภัยเชิงเศรษฐกิจ และการต่อสู้กับสิ่งฟาซาด เป็นตัวชี้วัดประการที่สี่ ที่สำคัญของรัฐบาลอิสลามแห่งอุดมคติ ในมุมมองและทัศนะของท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลาม
ท่านผู้นำสูงสุด ได้ย้ำเตือนแด่คณะผู้บริหารรัฐบาลชุดใหม่ ว่า ตำแหน่งรัฐมนตรีนั้น เป็นแหล่งของการกระซิบกระซากแห่งอำนาจและเป็นแหล่งอ้างอิงในเชิงวัตถุ ซึ่งเสมือนกับดวงตาที่ลักแหลม บาศีรัต และนูรรัศมีอันเปล่งประกายที่ทรงพลังและยั่งยืนถาวร ดังนั้นพึงระวังให้ดี หน่วยงานและองค์กรที่อยู่ภายใต้การบริหารดูแลของพวกคุณ จงห่างไกลจากการกระซิบกระซาก และฟาซาดอย่างสิ้นเชิง
ท่านผู้นำสูงสุด ได้ชี้ถึงหน่วยงานตรวจสอบจากทั้งสามฝ่าย พร้อมกับกล่าวย้ำแด่คณะรัฐบาลว่า ฟาซาดเสมือนดังปลวก ดังนั้นจงบริหารด้วยความมุ่งมั่นเพื่อขจัด “ ฟาซาด การใช้เส้นสาย อภิสิทธิ์ สินบนและความฟุ่มเฟือย” ให้หมดสิ้น โดยที่ไม่ต้องรอให้คณะผู้ตรวจสอบเข้ามาตรวจสอบในการบริหารงานของพวกคุณ
ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลามถือว่า พนักงาน ข้าราชการและคณะผู้บริหารฝ่ายบริหารนั้นเป็นบุคคลที่บริสุทธิ์และมีเกียรติยิ่ง พร้อมกับกล่าวย้ำว่า การมีอยู่ของมนุษย์กลุ่มหนึ่งที่สกปรก นั้น เป็นสิ่งที่น่าเสียดายว่า บุคคลเช่นนี้เสมือนเป็นเชื้อโรค ที่จะคอยกัดกร่อย บ่อนทำลายความเหน็ดเหนื่อย ความพยายามของพนักงานและข้าราชการในหน่วยงานและสังกัดของตนเอง ซึ่งจำต้องกำจัดสิ่งเหล่านี้ให้หมดไป
ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ถือว่า หลักนิติธรรม เป็นตัวชี้วัดที่สำคัญอีกประการหนึ่งของรัฐบาลแห่งอุดมคติ พร้อมกับกล่าวย้ำว่า กฎหมายคือรางแห่งการเคลื่อนไหวของรัฐบาล และหากเกิดตกรางขึ้นมาแล้ว ไม่ว่าจะกรณีใดๆ ประเทศชาติและพี่น้องประชาชนก็จะต้องประสบพบกับผลกระทบอย่างแน่นอน
ท่านผู้นำสูงสุด กล่าวเสริมว่า บางครั้งอาจเป็นไปได้ว่า กฎหมายอาจจะมีช่องโวและข้อบกพร่อง แต่ทว่า การไม่ปฏิบัติตามกฎหมายนั้นจะมีผลกระทบและความเสียหายมากกว่า การดำเนินการใช้กฎหมายด้วยซ้ำไป ดังนั้นจงปลูกฝัง มุ่งมั่นและพยายามจัดระเบียบหลักนิติธรรมในทุกหน่วยงานและองค์กรอย่างเคร่งครัด
ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลามถือว่า การกำหนดใช้กฎหมายเบื้องบน เป็นนโยบายรวมของระบอบ และเป็นฐานแห่งวิสัยทัศน์ นั้นคือหนึ่งในความหมายของหลักนิติธรรม พร้อมกับกล่าวย้ำว่า ญัตติของสภาชูรอระดับสูง อาทิเช่น สภาชูรอการปฏิวัติวัฒนธรรม และสภาชูรอเทคโนโลยีสารสนเทศ นั้นเป็นสิ่งที่จำเป็นและสำคัญยิ่ง ซึ่งจำต้องให้การยอมรับ และต้องปฏิบัติตามกฎข้อบัญญัติที่ได้กำหนดมาในประเด็นนี้ ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลามถือว่า นโยบายโดยรวมของระบอบเป็นสิ่งที่สำคัญยิ่งในการเปลี่ยนแปลงระบบของหน่วยงานและองค์กร พร้อมกับกล่าวย้ำว่า น่าเสียดายที่ว่า การดำเนินการตามนโยบายต่างๆเหล่านี้ ยังมีความล่าช้าอีก ซึ่งจำเป็นต้องรีบดำเนินการปรับปรุงแก้ไขเป็นการด่วน วิทยะปัญญาและ ภูมิปัญญา คือตัวชี้วัดประการที่หก ที่ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลาม ได้กล่าวย้ำให้กับคณะรัฐบาลของประธานาธิบดี โรฮานี
ท่านผู้นำสูงสุด ได้ให้คำแนะนำและกำชับยังคณะรัฐบาล ให้ใช้ประโยชน์จากความสามารถที่ดีในทุกๆด้านและทุกๆเวทีของคณะผู้เชี่ยวชาญในประเทศ พร้อมกับกล่าวย้ำว่า ก่อนจะลงมือปฏิบัติทุกครั้ง แม้แต่ก่อนที่จะแสดงทัศนะออกมา และแสดงจุดยืนนั้นจำต้องมีการศึกษาและไตร่ตรองให้ดีเสียก่อน เพราะ ในการลบล้าง และขจัดปัดเป่าผลงานที่ถูกปฏิเสธจากการงานที่ไร้ซึ่งความสามารถ ไร้ประสิทธิภาพ และคำพูดที่ขาดการคิดไตร่ตรอง นั้น จำต้องใช้งบประมาณค่าใช้จ่ายอย่างมากมายมหาศาล การพึ่งพาทรัพยากรภายในประเทศ ก็เป็นอีกประเด็นหนึ่งที่สำคัญในหัวข้อการบรรยายของท่านผู้นำสูงสุดที่ได้กล่าวย้ำยังคณะรัฐมนตรี โดย กล่าวเสริมว่า กุญแจสำคัญในการไขอุปสรรค์ปัญหานั้น ขึ้นอยู่กับขีดความสามารถและสิ่งอำนวยความสะดวกภายในประเทศ ซึ่งจำต้องใช้ภูมิปัญญาและใช้ประโยชน์จากสิ่งเหล่านี้ให้เกิดประสิทธิภาพมากที่สุด
ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ยังได้อธิบายเสริมถึงความจำเป็นในการพึ่งพาความสามารถภายในประเทศ ว่า ความหมายของคำนี้นั้น หาใช่ว่าจะไม่สามารถใช้ประโยชน์จากความสามารถภายนอกได้ แต่ทว่าประเด็นหลักในที่นี้คือ จะต้องไม่ยึดติดและมอบความหวังอีกทั้งความเชื่อมั่นและไว้วางใจกับต่างชาติเป็นอันขาด
ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลาม ได้ชี้ถึงแนวรบของศัตรูต่อการปฏิวัติ ว่า ข้อเท็จจริงในสิ่งนี้คือ จากแนวรบแห่งความป่าเถื่อนเหล่านี้ ไม่สามารถและไม่ควรที่จะตั้งความหวังและผูกมิตรไมตรีสัมพันธ์ได้
ท่านผู้นำสูงสุด กล่าวเสริมว่า หุ้นส่วนของแต่ละประเทศในเวทีระดับนานาชาตินั้นขึ้นอยู่กับพลังแห่งความแข็งแกร่งภายในประเทศนั้นๆ ด้วยเหตุนี้จำต้องมีความเพียรพยายาม มุมานะ เพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งภายในประเทศให้มีความต่อเนื่องและมากขึ้นเป็นทวีคูณ
ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลาม ได้ชี้แนะประเด็นสำคัญบางประการในนโยบายหลักให้กับคณะรัฐบาลสมัยที่สิบเอ็ด โดยกล่าวย้ำว่า ประเด็นเศรษฐกิจและวิทยาศาสตร์ก็เป็นนโยบายหลักที่สำคัญอันดับต้นของประเทศ ซึ่งจำต้องให้ความสำคัญและใส่ใจมากเป็นพิเศษโดยเฉพาะฝ่ายบริหาร อีกทั้งฝ่ายต่างๆ ก็เช่นกันที่จะต้องให้ความสำคัญด้วย
ท่านผู้นำสูงสุด ได้ชี้ถึงประเด็นเศรษฐกิจ และโครงสร้างขั้นพื้นฐานเชิงเศรษฐกิจที่ดี ในช่วงสิบปีที่ผ่านมา ที่ได้เกิดขึ้นภายในประเทศ พร้อมกับกล่าวย้ำว่า ด้วยการคำนึงถึงโครงสร้างขั้นพื้นฐานต่างๆ นั้น จำต้องสร้างความมั่นคงและความสงบสุขทางจิตใจให้กับประชาชน และตลาด อีกทั้งลดภาวะอัตราเงินเฟ้อ ให้หลักประกันในความต้องการขั้นพื้นฐานของพี่น้องประชาชน และกระตุ้นการผลิตแห่งชาติ ซึ่งล้วนแล้วเป็นวาระและนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาลชุดนี้
ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลามกล่าวเสริมว่า การปฏิบัติภารกิจเร่งด่วนอันนี้ ในข้อเท็จจริงแล้วคือเป็นจุดเริ่มต้นในการสร้างวีรกรรมทางเศรษฐกิจนั้นเอง ซึ่งได้ตอกย้ำและเน้นย้ำมาแล้วในช่วงต้นปีนี้
ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี กล่าวว่า ทั้งนี้ทั้งนั้นการบรรลุซึ่งวีรกรรมทางเศรษฐกิจนั้น จำต้องอาศัยการขับเคลื่อนในระยะยาว ดังนั้นมนุษย์ผู้ซึ่งมีความยุติธรรมจะต้องไม่คาดหวังจากรัฐบาล ว่า จะสามารถแก้ไขและอุปสรรค์ปัญหาด้านเศรษฐกิจสำเร็จลุล่วงโดยเร็ววัน แต่จำต้องตั้งความหวังในการขับเคลื่อนสู่ทิศทางในการแก้ไปอุปสรรค์ปัญหา ด้วยโลกทัศน์แห่งวิทยะปัญญาและความปรีชาญาณ
ท่านผู้นำสูงสุด ได้กล่าวพิจารณานโยบายเศรษฐกิจแบบยั่งยืนในมัจญมะอ์ ตัศคีสมัศลาฮัต เตนิศอม ว่า เศรษฐกิจแบบยั่งยืน มิได้ให้ความหมายว่าคือเศรษฐกิจแบบพอเพียง ทว่า มันคือเศรษฐกิจที่สามารถจะเผชิญหน้ากับวิกฤติเชิงเศรษฐกิจในทุกรูปแบบ และสามารถที่จะยืนหยัดอย่างมั่นคงในการเผชิญหน้ากับคลื่นกระแสและความนิยมในระดับนานาติ
ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลาม ได้ชี้ถึงความเจริญก้าวหน้าแบบก้าวกระโดดในด้านวิทยาศาสตร์ที่ได้เริ่มขึ้นในช่วง ๑๐ ปีที่ผ่านมา พร้อมกับกล่าวย้ำว่า อย่าได้หยุดการขับเคลื่อนแบบก้าวกระโดดในด้านวิทยาศาสตร์เช่นนี้ ไม่ว่าจะกรณีใดๆก็ตาม
ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลามถือว่า กุญแจหลักในการไขอุปสรรค์ปัญหาด้านเศรษฐกิจของประเทศนั้นคือต้องพึ่งพาอาศัยยังวิทยาศาสตร์ พร้อมกับกล่าวย้ำว่า ในประเด็นของเศรษฐกิจ หากมีการพึ่งพาอาศัยบนพื้นฐานของวิทยาศาสตร์และบริษัทฐานแห่งวิทยาศาสตร์แล้ว การซื้อขายน้ำมัน และการซื้อขายน้ำมันดิบย่อมจะได้รับผลกำไรอันมหาศาลอย่างแน่นอน
ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลาม ถือว่า กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และกระทรวงสาธารณสุข สุขภาพ และแพทย์ศาสตร์ นั้น เป็นสองหน่วยงานหลักในการขับเคลื่อนวิทยาศาสตร์ในประเทศ พร้อมกับกล่าวย้ำว่า กระทรวงต่างๆและหน่วยงานด้านการให้บริการ อาทิเช่น กระทรวงอุตสาหกรรมและการค้า และกระทรวงการเกษตร จำต้องให้ความร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับสองหน่วยงานหลัก ในการปูทางให้บรรลุซึ่งความเจริญก้าวหน้าด้านวิทยาศาสตร์ในมหาวิทยาลัยและสถาบันการศึกษา อีกทั้งกระตุ้นสถาบันการศึกษาต่างๆให้มากขึ้นเป็นทวีคูณ
ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลาม ได้ชี้แนะและเน้นย้ำยังคณะรัฐบาลให้มีการสนับสนุนบริษัทฐานแห่งวิทยาศาสตร์ ว่า หนึ่งในประเด็นสำคัญในการขับเคลื่อนด้านวิทยาศาสตร์ของประเทศ คือ การเติมเต็มห่วงโซ่แห่งวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีให้ไปถึงจุดสูงสุดแห่งความสมบูรณ์แบบ
ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลาม ได้อธิบายถึงนโยบายต่างประเทศ พร้อมกับกล่าวย้ำว่า หากในเวทีนี้ สามารถเข้าใจในแก่นแท้แห่งเกียรติยศ ศักดิ์ศรี วิทยะปัญญาและผลประโยชน์ส่วนรวม และสามารถดำเนินการปฏิบัติได้อย่างถูกต้องแล้ว นโยบายการเมืองเช่นนี้ก็จะกลายเป็นหนึ่งในนโยบายหลักของระบอบสาธารณรัฐอิสลามอย่างเป็นรูปธรรมอย่างแน่นอน
ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลาม ยังได้ชี้ถึงช่วงเวลาที่ละเอียดอ่อนและความวิกฤติในเขตภูมิภาค ว่า เราไม่ต้องการที่จะเข้าไปแทรกแซงกิจการภายในของอียิปต์เลยแม้แต่น้อย แต่ทว่าเราไม่อาจที่จะปิดตาจากการเข่นฆ่าสังหารที่เกิดขึ้นกับประชาชนชาวอียิปต์ได้
ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลามกล่าวย้ำว่า เราขอประณามการเข่นฆ่าสังหารพี่น้องประชาชนผู้ซึ่งไม่มีอาวุธใดๆ อยู่ในมือของพวกเขาเลย ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลาม กล่าวเสริมว่า ฆาตกรที่ทำการสังหารพี่น้องในอียิปต์ครั้งนี้ ไม่ว่าเขาจะเป็นใครก็ตาม ในทัศนะของสาธารณรัฐอิสลามอิหร่านแล้วนั้น ล้วนแล้วต้องถูกประณามทั้งสิ้น
ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี กล่าวย้ำว่า ในกรณีของอียิปต์นั้น เราเชื่อว่าสงครามกลางเมืองจำเป็นต้องหลีกเลี่ยงอย่างเด็ดขาด เพราะสงครามภายในของอียิปต์นั้นจะกลายเป็นโศกนาฏกรรมหนึ่งของโลกอิสลามและภูมิภาคอย่างแน่นอน
ท่านผู้นำสูงสุด ยังชี้ถึงความจำเป็นในการย้อนกลับยังประชาธิปไตยและเสียงของพี่น้องประชาชนในอียิปต์ ว่า หลังจากที่พี่น้องในอียิปต์ ได้ผ่านพ้นช่วงเวลาอันยาวนานหลายปีของอำนาจการปกครองแบบเผด็จการ และด้วยกับความบารอกัต ความจำเริญของการตื่นตัวของอิสลามก็ได้มีการจัดการเลือกตั้งอย่างถูกต้อง ซึ่งสิ่งนี้บ่งชี้ว่า มิอาจที่จะหยุดยั้งกระบวนการทางประชาธิปไตยได้
ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลาม ได้นำเสนอ ในประเด็นของซีเรีย และถือว่า หากอเมริกาเข้ามาแทรกแซงแล้ว ก็จะกลายเป็นโศกนาฏกรรมอันยิ่งใหญ่สำหรับภูมิภาคนี้ พร้อมกับกล่าวย้ำว่า หากการแทรกแซงเกิดขึ้นจริง อเมริกาจะต้องประสบกับความสูญเสียและความหายนะอย่างแน่นอน เหมือนดังที่พวกเขาได้รับความสูญเสียมาแล้วในอีรักและอัฟกานิสถาน
ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี กล่าวย้ำว่า การแทรกแซงของมหาอำนาจและต่างชาติในระดับภูมิภาคต่อประเทศหนึ่ง ย่อมจะไม่มีความหมายเป็นอย่างอื่นได้ นอกจากการโหมกระพือไฟสงครามเท่านั้น และมันจะทำให้ประชาชาติทั้งหลายมีความเกลียดชังต่อพวกเขามากยิ่งขึ้น
ท่านผู้นำสูงสุดถือว่า การโหมกระพือไฟสงครามนั้น เปรียบเสมือนดั่งการจุดประกายไฟในคลังสรรพาวุธซึ่งไม่อาจที่จะคำนวณนับถึงความสูญเสียอันเลวร้ายที่จะเกิดขึ้น