เมื่อช่วงก่อนเที่ยงของวันนี้ สุลต่าน กอบูส กษัตริย์โอมาน พร้อมคณะ ได้เข้าพบ พณฯ อยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ซึ่งในการพบปะครั้งนี้ ท่านผู้นำสูงสุดกล่าวถึง ความสัมพันธไมตรีและความเป็นมิตรภาพที่ดีระหว่างอิหร่านกับโอมาน ซึ่งความสัมพันธ์ที่ดีงามในอดีตที่ผ่านมานั้นยังคงตราตรึงใจในหมู่ประชาชาติอิหร่านเสมอมา พร้อมกับกล่าวย้ำว่า มีปัจจัยพื้นฐานอันหลากหลาย ต่อการส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างอิหร่านกับโอมานในด้านต่างๆอย่างมากมายโดยเฉพาะประเด็นก๊าซธรรมชาติ
ท่านผู้นำถือว่า โอมานเป็นหนึ่งในประเทศเพื่อนบ้านที่ดีและเป็นมิตรแท้ของอิหร่านเสมอมา โดยพณฯ กล่าวย้ำในประเด็นระดับภูมิภาคว่า ในวันนี้ ภูมิภาคนี้ กำลังตกอยู่ในสภาวะเงื่อนไขที่ละเอียดอ่อน และเสี่ยงอันตรายอย่างมาก ซึ่งจำเป็นอย่างยิ่งในการสร้างความสัมพันธ์และความร่วมมือระหว่างสองประเทศให้มั่นคงเน้นแฟ้นมากยิ่งขึ้น
ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลาม ถือว่า สภาวการณ์ในภูมิภาคในวันนี้เสี่ยงต่อการเกิดวิกฤติอย่างสูง พร้อมกับกล่าวย้ำว่า เหตุผลหลัก ที่ทำให้สภาวการณ์ในเขตภูมิภาคกลายเป็นเช่นนี้ นั้น เพราะการแทรกแซงอันหลากหลายรูปแบบที่มาจากภายนอกภูมิภาค
ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ถือว่า ในประเด็นที่น่าอันตรายอย่างยิ่งที่เกิดขึ้นในภูมิภาค คือ การเข้าแทรกแซงในประเด็นเรื่องศาสนา กลุ่ม และมัศฮับในการสร้างความแตกแยกทางเมืองในหลายๆประเทศ พร้อมกับกล่าวย้ำว่า เป็นที่น่าเสียดายยิ่ง ด้วยการสนับสนุนของบางประเทศในแถบภูมิภาค ได้มีการจัดตั้งกลุ่มตักฟีรีย์ขึ้นมา ซึ่งกลุ่มดังกล่าวนี้จะมีการเผชิญหน้าสร้างสงครามและเป็นศัตรูกับมวลพี่น้องมุสลิมทุกคนและทุกกลุ่ม แต่ทว่า บรรดาผู้ให้การสนับสนุนกลุ่มตักฟีร พึงรู้ว่า เพลิงไฟอันนี้ จะลุกลามกลับคืนสู่พวกท่านอย่างแน่นอน
ท่านผู้นำสูงสุด ย้ำถึงประเด็นรัฐยิวไซออนิสต์ผู้ก่อความเสียหายว่า เป็นภัยคุกคามที่ถาวรในเขตภูมิภาคนี้ ซึ่งได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มรูปแบบจากสหรัฐอเมริกา พร้อมกับกล่าวย้ำว่า ยิวไซออนิสต์ มีคลังเก็บอาวุธเคมีที่น่าอันตรายอย่างยิ่ง และเป็นภัยคุกคามอย่างหนักสำหรับภูมิภาค
ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลาม กล่าวย้ำว่า ภูมิภาคนี้ต้องการความมั่นคงและความสงบสันติโดยรวม ซึ่งเป้าหมายที่สำคัญเช่นนี้ จะบรรลุผลได้อย่างเป็นรูปธรรมได้ก็ต่อเมื่อ มีการประกาศสั่งห้ามใช้อาวุธเคมีในภูมิภาคนี้อย่างแท้จริง
ในการพบปะครั้งนี้ ฮะซัน โรฮานีย์ ประธานาธิบดีอิหร่าน ได้ร่วมอยู่ด้วย สุลฏอน กอบูส กษัตริย์ โอมาน กล่าวชื่นชมและแสดงความยินดีเป็นอย่างมาก ที่มีโอกาสได้เข้าพบท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลามครั้งนี้ และมีความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างอิหร่านกับโอมาน อันเนื่องจากความสัมพันธ์อันยาวนานด้านประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของทั้งสองประเทศ โดย กล่าวว่า เราได้มีการพิจารณาความสัมพันธ์และความร่วมมือในด้านต่างๆกับประธานาธิบดีอิหร่าน อาทิเช่น ด้านเศรษฐกิจ คมนาคม โดยเฉพาะในประเด็น ก๊าซธรรมชาติ
กษัตริย์ โอมาน ได้ตอกย้ำในคำพูดของ ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลาม กรณีภาวะเงื่อนไขที่ละเอียดอ่อน ภัยอันตรายในภูมิภาคและภัยคุกคามจากยิวไซออนิสต์ ว่า การหลุดพ้นจากสภาวการณ์ที่เกิดขึ้นในปัจจุบันนั้น จำต้องคำนึกถึงผลประโยชน์ของส่วนรวม พี่น้องประชาชนในภูมิภาคและความร่วมมือกันระหว่างประเทศในเขตภูมิภาคเป็นที่ตั้ง
ท่านผู้นำถือว่า โอมานเป็นหนึ่งในประเทศเพื่อนบ้านที่ดีและเป็นมิตรแท้ของอิหร่านเสมอมา โดยพณฯ กล่าวย้ำในประเด็นระดับภูมิภาคว่า ในวันนี้ ภูมิภาคนี้ กำลังตกอยู่ในสภาวะเงื่อนไขที่ละเอียดอ่อน และเสี่ยงอันตรายอย่างมาก ซึ่งจำเป็นอย่างยิ่งในการสร้างความสัมพันธ์และความร่วมมือระหว่างสองประเทศให้มั่นคงเน้นแฟ้นมากยิ่งขึ้น
ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลาม ถือว่า สภาวการณ์ในภูมิภาคในวันนี้เสี่ยงต่อการเกิดวิกฤติอย่างสูง พร้อมกับกล่าวย้ำว่า เหตุผลหลัก ที่ทำให้สภาวการณ์ในเขตภูมิภาคกลายเป็นเช่นนี้ นั้น เพราะการแทรกแซงอันหลากหลายรูปแบบที่มาจากภายนอกภูมิภาค
ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ถือว่า ในประเด็นที่น่าอันตรายอย่างยิ่งที่เกิดขึ้นในภูมิภาค คือ การเข้าแทรกแซงในประเด็นเรื่องศาสนา กลุ่ม และมัศฮับในการสร้างความแตกแยกทางเมืองในหลายๆประเทศ พร้อมกับกล่าวย้ำว่า เป็นที่น่าเสียดายยิ่ง ด้วยการสนับสนุนของบางประเทศในแถบภูมิภาค ได้มีการจัดตั้งกลุ่มตักฟีรีย์ขึ้นมา ซึ่งกลุ่มดังกล่าวนี้จะมีการเผชิญหน้าสร้างสงครามและเป็นศัตรูกับมวลพี่น้องมุสลิมทุกคนและทุกกลุ่ม แต่ทว่า บรรดาผู้ให้การสนับสนุนกลุ่มตักฟีร พึงรู้ว่า เพลิงไฟอันนี้ จะลุกลามกลับคืนสู่พวกท่านอย่างแน่นอน
ท่านผู้นำสูงสุด ย้ำถึงประเด็นรัฐยิวไซออนิสต์ผู้ก่อความเสียหายว่า เป็นภัยคุกคามที่ถาวรในเขตภูมิภาคนี้ ซึ่งได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มรูปแบบจากสหรัฐอเมริกา พร้อมกับกล่าวย้ำว่า ยิวไซออนิสต์ มีคลังเก็บอาวุธเคมีที่น่าอันตรายอย่างยิ่ง และเป็นภัยคุกคามอย่างหนักสำหรับภูมิภาค
ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลาม กล่าวย้ำว่า ภูมิภาคนี้ต้องการความมั่นคงและความสงบสันติโดยรวม ซึ่งเป้าหมายที่สำคัญเช่นนี้ จะบรรลุผลได้อย่างเป็นรูปธรรมได้ก็ต่อเมื่อ มีการประกาศสั่งห้ามใช้อาวุธเคมีในภูมิภาคนี้อย่างแท้จริง
ในการพบปะครั้งนี้ ฮะซัน โรฮานีย์ ประธานาธิบดีอิหร่าน ได้ร่วมอยู่ด้วย สุลฏอน กอบูส กษัตริย์ โอมาน กล่าวชื่นชมและแสดงความยินดีเป็นอย่างมาก ที่มีโอกาสได้เข้าพบท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลามครั้งนี้ และมีความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างอิหร่านกับโอมาน อันเนื่องจากความสัมพันธ์อันยาวนานด้านประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของทั้งสองประเทศ โดย กล่าวว่า เราได้มีการพิจารณาความสัมพันธ์และความร่วมมือในด้านต่างๆกับประธานาธิบดีอิหร่าน อาทิเช่น ด้านเศรษฐกิจ คมนาคม โดยเฉพาะในประเด็น ก๊าซธรรมชาติ
กษัตริย์ โอมาน ได้ตอกย้ำในคำพูดของ ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลาม กรณีภาวะเงื่อนไขที่ละเอียดอ่อน ภัยอันตรายในภูมิภาคและภัยคุกคามจากยิวไซออนิสต์ ว่า การหลุดพ้นจากสภาวการณ์ที่เกิดขึ้นในปัจจุบันนั้น จำต้องคำนึกถึงผลประโยชน์ของส่วนรวม พี่น้องประชาชนในภูมิภาคและความร่วมมือกันระหว่างประเทศในเขตภูมิภาคเป็นที่ตั้ง