สำนักผู้นำสูงสุดซัยยิด อาลี คาเมเนอี

ประธานาธิบดีและคณะรัฐมนตรี เข้าพบท่านผู้นำสูงสุด

ในวันที่ห้าของเดือนรอมฎอนอันจำเริญ ประธานาธิบดี พร้อมเหล่าคณะรัฐมนตรี

ในวันที่ห้าของเดือนรอมฎอนอันจำเริญ  ประธานาธิบดี พร้อมเหล่าคณะรัฐมนตรี  ได้เข้าพบท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลาม  ซึ่ง ฯพณฯ  ถือว่า  การทำงานด้วยความมุ่งมั่น ไม่หยุดหย่อนตลอดทั้งวันทั้งคืน  การงานที่เปี่ยมไปด้วยความยิ่งใหญ่   และการนำเสนอคำขวัญต่างๆของการปฏิวัติอย่างโดดเด่นทั้งในประเทศและต่างประเทศ ถือเป็นคุณลักษณะที่น่าชื่นชมอย่างยิ่งของรัฐบาลชุดนี้   และขอขอบคุณอย่างลึกซึ้งในความมุมานะ ความเพียรพยายามอย่างแข็งขัน ของประธานาธิบดี อะห์มาดีเนาจาร์ และคณะรัฐบาลทุกท่าน      ซึ่ง ฯพณฯ กล่าวย้ำว่า   จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีการแถลงให้กับพี่น้องประชาชนได้รับรู้ในผลงานต่างๆเหล่านี้ด้วย


ท่านผู้นำการปฏิวัติได้ชี้ถึง คามพยายามของผู้ต่อต้าน   สื่อสารมวลชนต่างชาติ และสื่อสารมวลชนบางแขนงภายในประเทศ ที่ไม่สนใจและไม่แยแสใยดีในความสำเร็จและความพยายามของรัฐบาล  ว่า  บางคนถึงกับปฏิเสธการกระทำที่เป็นรูปธรรมของรัฐบาล  ทว่า  สิ่งที่สำคัญยิ่งในที่นี้คือ ความมุ่งมั่นและความพยายามที่ได้ปฏิบัติมาแล้วนั้น  จำต้องมีการนำเสนอ และบันทึกในแวดวงสาธารณะภายในประเทศอีกด้วย 


ท่าน อยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ได้กล่าวรำลึกในผลงานที่ดีและความพยายามทั้งวันทั้งคืนของรัฐบาล ว่า  ในแปดปีให้หลังนี้  ทุกคนสามารถสัมผัส และรับรู้ได้ ว่า ประธานาธิบดีที่มีเกียรติ์ และคณะผู้บริหารทุกท่าน   ต้องแบกรับและอดทนต่อความยากลำบากที่หนักอึ้ง เสียยิ่งกว่ารัฐบาลสมัยก่อนหน้านี้  และสมัยก่อนๆด้วยซ้ำไป   ซึ่งได้ปฏิบัติงานที่มีปริมาณสูงและรวดเร็ว มีประสิทธิภาพ   ซึ่งสิ่งนี้เป็นข้อเท็จจริงที่ไม่อาจปฏิเสธได้ ในจุดเด่นและสิ่งที่น่าชื่นชมอย่างยิ่ง


ท่านผู้นำการปฏิวัติ ได้ชี้ถึง การที่รัฐหลีกเลี่ยงที่จะนำเอาประสบการณ์ของ “คณะผู้บริหารชาติอื่นๆ”นำมาใช้  ว่า  การไม่ใสใจและไม่คำนึงถึงจุดเด่นของตัวเองอย่างเกินเลย  และการทำงานอย่างไม่หยุดหย่อน  งดเว้นจากการผ่อนคลายและพักผ่อน  คือจุดเด่นและผลลัพธ์อันยิ่งใหญ่ของรัฐบาลชุดนี้     และสำหรับทุกท่านที่ต้องการจะทำการตัดสินในผลงานของรัฐบาลชุดนี้ ก็จำต้องคำนึงถึงประเด็นที่มีค่าอันนี้อีกด้วย 


ท่านผู้นำการปฏิวัติ ถือว่า  การกำหนดแผนและเสริมสร้างคำขวัญต่างๆของการปฏิวัติ เป็นสิ่งที่จำเป็นยิ่ง     ซึ่ง ฯพณฯ กล่าวย้ำว่า  แนวรบฝ่ายต่อต้านการปฏิวัติ ได้มีความพยายามอย่างมาก ที่จะลบล้างทำลายและทำให้คำขวัญต่างๆเหล่านี้หมดสีสันลง  โดยที่พวกเขาพยายามทำให้สิ่งนี้ค่อยๆเป็นไปในรูปลักษณะของการปฏิปักษ์และต่อต้านสิ่งที่เป็นคุณค่าและอัตลักษณ์  ทว่าพกเขาไม่ประสบความสำเร็จ  ซึ่งเหตุผลหลักที่ไม่ประสบความสำเร็จ อันเพราะว่า ความไหวพริบและความชาญฉลาดของท่านอิมามโคมัยนี(รฎ)ที่ได้กำหนดวางแผน และปลูกฝังคำขวัญต่างๆแห่งการปฏิวัติได้อย่างดีเลิศ


ท่านผู้นำสูงสุด ถือว่า พินัยกรรมของท่านอิมามโคมัยนี(รฎ)ที่เปี่ยมล้นด้วยคุณค่ายิ่ง ซึ่งมาจากถ้อยคำของบุคคลที่สำเร็จและบรรลุซึ่งขั้นสูงสุดของจิตวิญญาณอย่างแท้จริง   โดย ฯพณฯ ผู้นำสูงสุด กำชับเตือนให้บรรดาคณะผู้บริหารทั้งหลาย ให้ทำการศึกษาอ่านพินัยกรรมฉบับนี้เป็นประจำ   โดยกล่าวย้ำว่า   ทัศนะ คำกล่าว คำปราศรัย และบทประพันธ์ต่างๆของท่านอิมามโคมัยนี(รฎ)นั้น  ล้วนแล้วเป็นมุฮ์กามาต (สิ่งที่ชัดเจนที่สุด)ของการปฏิวัติ   หาใช่เป็นเรื่องมุตะชาบิฮาต(ข้อคลุมเครือ) ที่สามารถจะทำการบิดเบือนหรือเปลี่ยนแปลงใดๆได้


ท่านผู้นำการปฏิวัติ ได้กล่าวชื่นชม ผลงานและการปฏิบัติของคณะรัฐบาลชุดนี้ ในการสร้างความโดดเด่นในด้านคำขวัญของการปฏิวัติ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ว่า  การไม่รู้สึกละอายใจในการอธิบาย “ เป้าหมาย  แรงจูงใจ และแนวทางการปฏิบัติตามการปฏิวัติต่อประชาคมโลก”  นั้น  เป็นงานหลักและงานที่ยิ่งใหญ่ของรัฐบาลชุดนี้


 ท่าน อยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ได้กำชับสั่งเสียคณะผู้บริหารรัฐบาลชุดนี้ ให้มีการวางกรอบแนวทางตามครรลองของการปฏิวัติในกิจกรรมในอนาคตทั้งหมด    พร้อมกับกล่าวย้ำว่า บุคคลเยี่ยงพวกท่านทั้งหลาย ล้วนเป็นผู้บริหารที่เหมาะสม และมีประสิทธิภาพ   จำต้องมีความพยายามรักษาปกป้องให้กรอบแนวทางการปฏิวัติอันนี้ เข้าถึงพวกท่านและคงอยู่ในกิจกรรมต่างๆของพวกท่านอยู่เสมอ    

 

ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลาม ได้ชี้ถึง ส่วนหนึ่งของคำวะศียัตจากท่านอะมีรุล มุอฺมีนีน์ ท่านอิมามอะลี(อ) ที่ให้ไว้กับท่านอิมามฮะซัน(อ)บุตรชายสุดที่รัก  ซึ่งอยู่ในหนังสือ นะห์ญุลบะลาฆอฮ์ ว่า    ในส่วนหนึ่งของเนื้อหา  ท่านอิมามอะลี(อ) ได้กำชับสั่งเสียสองประการที่ทรงค่าที่สุด  เพื่อสามารถฝันฝ่าหนทางแห่งความยากลำบาก ที่แสนยาวไกล และแสนจะโกลาโหมของโลกดุนยานี้ สู่โลกอาคีเราะห์ ว่า     ประการแรก  คือ กำหนด และจัดเตรียมหาเสบียงที่จำเป็นสำหรับเส้นทางนี้   และประการที่สอง  ทำเสบียงของตัวเองให้เบาลงในเส้นทางนี้ 


ท่านผู้นำสูงสุด ถือว่า การปฏิบัติในสิ่งที่วาญิบ  ละเว้นและห่างไกลจากสิ่งต้องห้าม  เป็นเพียงแค่เสบียงที่เล็กน้อยนิดที่สุด สำหรับการรอดพ้นอย่างสวัสดิ์ภาพจากเส้นทางโลกดุนยา สู่วันกิยามัตเท่านั้น     โดย ฯพณฯ ผู้นำสูงสุด กล่าวย้ำว่า  แต่ทว่าเสบียงที่เล็กน้อยนิดที่สุดอันนี้ จะสามารถปูพื้นฐานในการสร้างความพร้อมที่จะดึงดูดนูรรัศมีจากพระผู้เป็นเจ้าได้อย่างดี  


ช่วงท้ายในการพบปะของคณะผู้บริหารรัฐบาลชุดอะห์มาดีนาจาร์ด  กับท่านผู้นำสูงสุด นั้น   ประธานาธิบดี และคณะผู้บริหารชุดรัฐบาลสมัยอะห์มาดีเนจาร์ด เข้ารับ ฮาดียะห์ อัลกุรอาน คนละหนึ่งเล่ม จากท่านผู้นำการปฏิวัติ      จากนั้นร่วมกัน นมาซญามาอะห์มัฆริบและอีชา   ถ่ายรูปเป็นที่ระลึก และร่วมกันละศีลอดอย่างพร้อมเพรียงกัน 




700 /