เช้าวันจันทร์ที่ผ่านมา เนื่องในวันครบรอบปลดปล่อยเมืองโครัมชัรห์    ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ผู้บัญชาการสูงสุดประจำเหล่าทัพ ได้เข้าร่วมพิธีปฐมนิเทศนักศึกษานายร้อยประจำกองกำลังปฏิวัติอิสลาม ณ มหาวิทยาลัยอิมามฮูเซ็น 

ในช่วงแรก ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ผู้บัญชาการสูงสุดประจำเหล่าทัพได้เยี่ยมสุสานเหล่าชุฮะดานิรนาม พร้อมกับอ่านฟาฏิหะฮ์ให้แด่บรรดาชะฮีดนิรนาม  อีกทั้ง ยังได้เถิดเกียรติชีวประวัติของบรรดาชะฮีดผู้พิทักษ์ปกป้องอันศักดิ์สิทธิ์อีกด้วย 

 จากนั้นท่านผู้บัญชาการสูงสุดประจำเหล่าทัพ  ได้ชมพิธีสวนสนามจากกองทัพ และท่านผู้นำสูงสุด ยังได้พบปะกับเหล่าทหารผ่านศึกอย่างใกล้ชิดพร้อมกับถามทุกข์สุขของพวกเขาอีกด้วย 

ในพิธีดังกล่าว ท่านผู้นำการปฏิวัติถือว่า การก้าวสู่ความมุ่งมั่น สร้างวีรกรรมและความเร่าร้อนของประชาติอิหร่าน ที่มีต่อการเลือกตั้งในวันที่ 14 มิถุนายน ศกนี้ เป็นการแจ้งข่าวดี แห่งความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ของการปฏิวัติ และระบบการปกครองอิสลาม   พร้อมกับกำชับให้ประชาชนมีความรอบคอบในการพิจารณาทัศนะคติและสโลแกนนโยบายต่างๆของผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดี  เพื่อจะได้รู้จักและเลือกสรรบุคลที่เหมาะสมที่สุด   อีกทั้งยังได้กำชับและชี้แนะยังบรรดาผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดี ให้ยืนหยัดในบริบทแห่งการสร้างความภาคภูมิใจ  ถูกต้องเหมาะสม  รอบคอบ และมีวิทยปัญญาแห่งการปฏิวัติและระบอบอิสลาม 

หลีกเลี่ยงการโจมตีฝ่ายตรงกันข้าม และไร้มารยาทในการหาเสียง  

 โดยท่านผู้นำสูงสุด กล่าวย้ำ ว่า  ด้วยความโปรดปรานของพระองค์  อนาคตของประเทศนี้และประชาชาตินี้ จะเป็นอนาคตที่สดใส มีเกียรติ์ยศ มีศักดิ์ศรี และจะเป็นแบบอย่างสำหรับทุกคน

ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลามกล่าวว่า เราไม่รู้ว่า ใครจะเป็นประธานาธิบดี  อีกทั้งเราไม่รู้ว่า พระองค์อัลลอฮ์จะทรงชี้นำหัวใจของประชาชาตินี้ยังผู้สมัครท่านใด  แต่สิ่งที่เรารู้คือ  การออกมาของพี่น้องประชาชนยังคูหาเลือกตั้งนั้น เป็นการประกาศศักดาแห่งพลังอำนาจของประเทศชาติ ในเวทีแห่งการขับเคลื่อนและมุ่งสู่อุดมการณ์ อุดมคติ ความรุ่งเรืองและความเจริญก้าวหน้า และแน่นอนยิ่งสิ่งนี้จะเป็นปัจจัยในการสร้างเกียรติยศ ความปลอดภัย ความมั่นคง  ศักดิ์ศรีในเวทีระดับนานาชาติ และความภาคภูมิใจในหมู่มิตร และสร้างความโกรธแค้นให้กับบรรดาศัตรู  

ท่านผู้นำการปฏิวัติ ได้ชี้ถึงการโฆษณาของบรรดาศัตรูผู้ประสงค์ร้ายต่อประชาชาติอิหร่าน ในการสร้างความเย็นชาให้กับประชาชนที่จะเดินเข้าสู่คูหาเลือกตั้ง ว่า   เหตุผลที่มีการโฆษณาชวนเชื่อกันอย่างแพร่หลายและกว้างขวางนั้น เพราะหากพี่น้องประชาชนเข้าสู่สนาม และมีส่วนร่วมในการเลือกตั้ง พร้อมกับแสดงออกถึงการมีส่วนร่วมอย่างคึกคักแล้วนั้น สิ่งนี้จะทำให้บรรดาผู้ต่อต้าน และศัตรูต้องได้รับบทเรียนราคาแพงที่แสนเจ็บปวดรวดเร้าและรนทัดใจเป็นอย่างมาก

ท่านผู้นำสูงสุด ได้ชี้ถึงทัศนะของนักการเมืองอเมริกาที่มีต่อการเลือกตั้งในอิหร่านครั้งนี้ ว่า   บุคคลที่ออกมาแสดงทัศนะต่างๆนาๆต่อการเลือกตั้งในอิหร่าน  คือผู้ที่ให้การสนับสนุน คุกในกวนตานาโม อากาศยานไร้พลขับที่บินร่อนเหนือหมู่บ้านอันยากไร้ในอัฟกานิสถาน และปากีสถาน  และยังเป็นผู้จุดชนวนสงครามในเขตภูมิภาค อีกทั้งให้การสนับสนุนยิวไซออนิสต์ อย่างไม่มีเงื่อนไขใดๆ  ซึ่งสิ่งเหล่านี้ล้วนแล้วเป็นบ่อเกิดแห่งความอับอาย ไร้เกียรติ์ และความอัปยศอดสูยังพวกเขาทั้งสิ้น  

ท่านผู้นำการปฏิวัติ ถือว่า การที่พวกเขาวิพากษ์วิจารณ์สาธารณรัฐอิสลามอิหร่านอันทรงเกียรติ์และมีศักดิ์ศรีนั้น มันไม่มีคุณค่าใดๆที่จะต้องตอบโต้พวกเขา  และผู้บริหารประเทศและประชาชาติอิหร่านก็ไม่ต้องสนใจและรับผิดชอบใดๆทั้งสิ้น  โดยท่านผู้นำสูงสุด กล่าวว่า  การแสดงทัศนะต่างๆเหล่านี้เป็นอิบรัต อุทาหรณ์สำหรับประชาชาติอิหร่าน เพราะมันแสดงให้เห็นถึงความสำคัญในระดับสูงของการเลือกตั้งสำหรับพวกเขา

ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี กล่าวย้ำว่า แนวรบฝ่ายปรปักษ์  นับเป็นเวลา 34   ปี มาแล้ว   โดยทุกครั้งเมื่อมีการเลือกตั้งก็จะสร้างความตื่นตูมและตื่นตระหนกให้เกิดขึ้น  ในขณะเดียวกันก็ไม่ประสบความสำเร็จและล้มเหลวอยู่เสมอ  และในครั้งนี้ก็เช่นกัน ด้วยความโปรดปรานของอัลลอฮ์ ประชาชาติอิหร่านผู้ยิ่งใหญ่ ก็จะสามารถกำหมัดยัดใส่ปากพวกเขาได้อย่างแน่นอน

ท่านผู้นำสูงสุด ได้เรียกร้องให้ประชาชนทำการพินิจพิเคราะห์ ไตร่ตรองพิจารณาอย่างรอบคอบในการแสดงทัศนะและนำเสนอนโยบายต่างๆของผู้สมัครที่น่าเคารพนับถือทุกท่าน   พร้อมกับกล่าวย้ำ ว่า  ประชาชนต้องสรรหา บุคคลที่จะปูทางไปสู่ความเจริญรุ่งเรืองและ เกียรติ์ยศเพื่ออนาคตของการปฏิวัติและประเทศชาติ   สามารถแก้ไปปัญหาอุปสรรค์ต่างๆนาๆได้  สามารถยืนหยัดอย่างมีเกียรติ์และศักดิ์ศรีในการเผชิญหน้ากับแนวรบฝ่ายปรปักษ์ อีกทั้งสามารถนำเสนอต้นแบบและแบบอย่างของสาธารณรัฐอิสลามอิหร่านสู่สายตามุสตัฎอาฟีนบรรดาผู้ถูกกดขี่ทั่วทั้งโลก

ท่านผู้นำสูงสุด ได้ชี้ถึงความแตกต่างในการพิจารณาของประชาชนในการเลือกตั้ง ว่า ความแตกต่างในการพิจารณาแยกแยะ และความนิยมชื่นชอบยังผู้สมัครแต่ละคนนั้น  อย่าทำได้เป็นปัจจัยเหตุนำมาซึ่งการเผชิญหน้าและความบาดหมางซึ่งกันและกันเป็นอันขาด   

ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี กล่าวเสริมว่า  ในการเลือกสรรผู้มีอำนาจสูงสุดในการบริหารประเทศนั้น เป็นประเด็นที่ละเอียดอ่อนและมีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง  และประเทศชาติก็มีกลไกและกฎหมายที่ชัดเจน ซึ่งจะต้องดำเนินปฏิบัติตามนั้น ด้วยเหตุนี้ ความขัดแย้งและความแตกต่างด้านทัศนะคติ อย่าได้นำมาซึ่งความขุ่นเคืองแต่ประการใด

ท่านผู้นำสูงสุด ได้กำชับยังบรรดาผู้ลงสมัครเลือกตั้งทั้งหลายว่า  ผู้สมัครที่เคารพนับถือทุกท่าน  จ

มุ่งมั่นทำงานด้วยกับการสร้างวีรกรรม มีความกระตือรือร้น และมีศักดิ์ศรี โดยปราศจากความท้าทาย

ท่านผู้นำสูงสุด ถือว่า งานที่ประณีตและละเอียดอ่อนนั้น อยู่ตรงที่ว่า จำต้องสร้างบรรยากาศที่มีชีวิตชีวา ร่าเริง มีการเคลื่อนไหว และแสดงวิสัยทัศน์ที่เผ็ดร้อนอย่างฉันท์มิตรในสนามแห่งการเลือกตั้ง แต่อย่าโกรธเคืองและบาดหมางกัน

ท่านผู้นำสูงสุด ยังได้กำชับ ผู้สมัครชิงเก้าอี้ประธานาธิบดี โดยเฉพาะในประเด็นรูปแบบการหาเสียงและการใช้งบประมาณ   ว่า  รูปแบบวิธีการหาเสียงของผู้สมัครและการใช้งบประมาณในการหาเสียงนั้น ทั้งหมดอยู่ในดุลพินิจและการตัดสินใจของประชาชนทั้งสิ้น    และสำหรับผู้ที่ใช้งบประมาณจากกองคลัง บัยตุลมาล หรือ ทรัพย์สินที่คลุมเครือว่าอาจะเป็นฮะราม สำหรับบางคนเพื่อใช้หาเสียงนั้น แน่นอนยิ่งเขาจะไม่มีวันสามารถดึงดูดความเชื่อมั่นและความมั่นใจจากประชาชนได้เป็นอันขาด

ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลาม กล่าวว่า นโยบายที่สำคัญที่สุดของผู้สมัครในการหาเสียงเลือกตั้งครั้งนี้ คือ ต้องยืนหยัดในปริบทแห่งการสร้างความภาคภูมิใจ  ถูกต้องเหมาะสม  รอบคอบ และมีวิทยปัญญาแห่งการปฏิวัติและระบอบอิสลาม 

ท่านผู้นำสูงสุด กล่าวว่า ในการหาเสียง อย่าชี้เป้าและเปิดไฟเขียวให้กับบางคนที่เป็นผู้ต่อต้านจากนอกประเทศ แม้กระทั้งผู้ที่อยู่ในประเทศ เพราะศัตรูมีความเพียรพยายามอย่างยิ่งที่จะสร้างความสิ้นหวังให้กับพี่น้องประชาชน  และเป็นที่น่าเสียดายอย่างยิ่ง ที่มีบุคคลจำนวนหนึ่งในประเทศเป็นกระบอกเสียง เป็นปากกาอันไร้ซึ่งความยำเกรงในการกล่าวย้ำคำพูดต่างๆของบุคคลเหล่านั้น

ในการเข้าร่วมพิธีปฐมนิเทศนักศึกษานายร้อยประจำกองกำลังปฏิวัติอิสลาม ณ มหาวิทยาลัยอิมามฮุเซ็น ของท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ผู้บัญชาการสูงสุดประจำเหล่าทัพ ครั้งนี้ ฯพณฯ ถือ    ว่า การพิทักษ์และปกป้องการปฏิวัติ ถือเป็นคุณลักษณะอันโดดเด่นของนักศึกษาแห่งมหาวิทยาลัยแห่งนี้   โดย ฯพณฯ กล่าวย้ำ ว่า  หนึ่งในปัจจัยสำคัญของการพิทักษ์ปกป้องการปฏิวัติ คือ การทำความเข้าใจที่ถูกต้อง ลึกซึ้งและหยั่งลึก ในรากฐานเชิงทฤษฎี และพื้นฐานของการปฏิวัติอิสลาม พร้อมกับยึดมั่นในสิ่งเหล่านี้

ท่านผู้นำสูงสุด ได้กล่าวว่า  ตลอดช่วงระยะเวลาแห่งการปฏิวัติอิสลาม  ได้มีบุคคลจำนวนหนึ่งเข้าสู่ภาคสนามเพียงด้วยความรู้สึกนึกชอบ  โดยปราศจากการหยั่งรู้ที่ถูกต้องและลึกซึ้งในรากฐานของการปฏิวัติอิสลาม  และเมื่อเจอกับมรสุมก็เปลี่ยนทิศทาง จนในที่สุดก็ได้หันหลังและออกจากแนวทางการปฏิวัติ 

ท่าน อยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ถือว่า  อีกหนึ่งปัจจัยสำคัญของการพิทักษ์ปกป้องการปฏิวัติ คือการเรียนรู้และเข้าใจประวัติความเป็นมาของการปฏิวัติอย่างละเอียด   โดย ฯพณฯ ผู้นำสูงสุด กล่าวย้ำว่า  ประวัติความเป็นมาของการปฏิวัติอิสลาม ซึ่งในความเป็นจริงก็คือข้อเท็จจริงทุกประการที่ปรากฏอยู่ในรากฐานและพื้นฐานในภาคทฤษฎี   อีกทั้งเป็นการบ่งชี้และแสดงให้เห็นว่าได้ผ่านกระบวนการทดสอบและผ่านประสบการณ์เชิงทฤษฎีในภาคปฏิบัติอย่างแท้จริง

ท่านผู้นำสูงสุด ได้ชี้ถึง การมุ่งจับประเด็นที่เกินเหตุของสื่อต่างประเทศ กรณีจุดอ่อนเล็กๆแต่กลับประโคมข่าวเป็นเรื่องใหญ่โตหลายเท่าตัว   ซึ่ง ฯพณฯ ผู้นำสูงสุด กล่าวว่า  พวกเขามีวัตถุประสงค์เพื่อต้องการให้ลืมประสบการณ์แห่งความสำเร็จของการปฏิวัติอิสลาม และประโคมข่าวข้อผิดพลาดของรากฐานภาคทฤษฎีของการปฏิวัติในเชิงปฏิบัติ ด้วยเหตุนี้ประชาชนทุกคนโดยเฉพาะบรรดาเยาวชน จำต้องมีความรอบรู้และเข้าใจประวัติความเป็นมาของการปฏิวัติอย่างสมบูรณ์แบบ

ผู้บัญชาการสูงสุดประจำเหล่าทัพ ได้กล่าวย้ำว่า  หนึ่งในภาระหน้าที่ที่สำคัญของคณะผู้บริหาร ผู้บัญชาการทหารแห่งมหาวิทยาลัยอิมามฮูเซ็น  และบรรดาคณะผู้บริหาร อาจารย์มหาวิทยาลัยต่างๆ คือ สร้างความเข้าใจที่ถูกต้องให้กับบรรดาเยาวชนในเรื่องประวัติความเป็นมาของการปฏิวัติอิสลาม