เมื่อเช้าวันพุธที่ผ่านมา ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลาม ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ได้พบปะกับประชาชนนับพันคนจากทุกหมู่เหล่า ซึ่งท่านผู้นำ กล่าวแนะนำ ยังประชาชนและพลเมือง โดยเฉพาะบรรดาเยาวชนในการใช้ประโยชน์จากความสามารถอันลึกล้ำและในการพัฒนาการเป็นมนุษย์ผู้สมบูรณ์ และยังถือว่า การเลือกตั้งในวันที่ 14 มิถุนายน ที่จะถึงนี้ เป็นการทดสอบอันยิ่งใหญ่อีกครั้งหนึ่งสำหรับประชาชาติอิหร่าน
ท่านได้กล่าวย้ำ และอธิบายถึงเป้าหมายที่ขัดแย้งกันของชาติและศัตรูของประเทศชาติในการเลือกตั้ง ว่า ประชาชนในการก้าวให้บรรลุถึงเป้าหมายของตน และสร้างความสิ้นหวังและความผ่ายแพ้ให้กับศัตรู จำต้องออกมาร่วมใช้สิทธิในการเลือกตั้งอย่างคึกคัก และกระตือรือร้น เลือกผู้สมัครตามที่ทางสภาชูรอนิคะห์บอน ได้ประกาศตามกฎเกณฑ์ของกฎหมาย จงเลือกสรรบุคคลที่เหมาะสม มีความยำเกรง มีความศรัทธา นักปฏิวัติ ผู้มีความยืนหยัด มีความมุ่งมั่นและมีความเพียรพยายาม และมีความมุ่งมั่นในการญิฮาด มีความสามารถที่ดีกว่าผู้สมัครท่านอื่นๆ สามารถแบกรับภารกิจอันทรงเกียรติ์ และความเจริญก้าวหน้าของประเทศชาติได้ อีกทั้งนำพาประเทศชาติสู่ความรุ่งเรืองสืบไป
ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลาม กล่าวย้ำว่า การเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในเดือนหน้านั้น ถือเป็นประเด็นที่สำคัญยิ่งของประเทศในขณะนี้ พร้อมกับชี้ถึงผลกระทบในระยะสั้นและระยะยาวต่อเหตุการณ์ครั้งนี้ ว่า ในการเลือกตั้งครั้งนี้ ด้วยการลงคะแนนเสียงของประชาชน จะมีเพียงแค่คนเดียวเท่านั้น ที่จะขึ้นมาเป็นผู้บริหารในการกำหนดชะตากรรมและประเด็นสำคัญของประเทศตลอดช่วงระยะเวลาสี่ปี แต่ทว่า ด้วยการตัดสินใจ และการปฏิบัติในสิ่งที่ดีหรือสิ่งไม่ดี ของเขานั้น จะสามารถส่งผลกระทบต่อประเทศชาติในอีก 40 ปี ข้างหน้า ซึ่งข้อเท็จจริงอันนี้เป็นการบ่งชี้ว่า การเลือกประธานาธิบดีนั้น มีความสำคัญเป็นอย่างมาก
ท่านผู้นำสูงสุด ได้อธิบายชี้ถึงความสำคัญของการเลือกตั้ง 14 มิถุนายน ว่า ด้วยเพียงแค่ระยะเวลาประมาณหนึ่งเดือนก็จะถึงวันเลือกตั้ง แต่ทว่าเรื่องนี้กลายเป็นประเด็นร้อนระดับนานาชาติ ทำให้บรรดานักคิดระดับโลกและศัตรูอิหร่าน แม้แต่การเตรียมการในระดับเบื้องต้นนั้น ต่างก็มีการเฝ้าติดตามอย่างใกล้ชิด
ท่าน อยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ได้กล่าวย้ำถึง กรณีที่ศัตรูพยายามแสวงหาผลประโยชน์ในการเลือกตั้งครั้งนี้ อันมีเป็นหมายที่ขัดแย้งกับวัตถุประสงค์และเป้าหมายหลักของประชาชาติอิหร่านอย่างสิ้นเชิง ว่า ประชาชาติอิหร่านมุ่งหาบุคคลที่มีความเหมาะสมที่สุด ที่จะสามารถนำประเทศชาติสู่ความก้าวหน้า ความเจริญรุ่งเรืองทั้งด้านวัตถุและจิตวิญญาณ อีกทั้งสามารถแก้ไขอุปสรรค์ปัญหาที่เกิดขึ้น สร้างชีวิตที่ดีกว่า มีความมั่งคั่ง มีเกียรติ์ ศักดิ์ศรี และอิสรภาพให้กับประชาชาติอิหร่าน และยกระดับคุณภาพชีวิต ภายใต้ “ ความกระตือรือร้น ความเบิกบาน และความหวังของประชาชน”
ท่านผู้นำสูงสุดกล่าวเสริมว่า แต่ทว่าศัตรูมีความพยายามอย่างยิ่งในการสร้างความเย็นชาต่อการเลือกตั้ง ด้วยการมุ่งหาบุคคลที่ขาดคุณสมบัติต่างๆเหล่านี้ อีกทั้งพยายามนำพาอิหร่านให้จมปลักอยู่กับความอ่อนแอ ความล้าหลังในเวทีต่างๆ และผลักดันสู่เส้นทางนโยบายการเมืองของต่างชาติ
ท่านผู้นำการปฏิวัติ กล่าวว่า แต่ทว่าต่างชาติในระดับแกนนำ หรือแกนนำระดับต้นๆ นั้น ไม่ต้องการให้มีการเลือกตั้งเกิดขึ้น แต่ทว่าในการนี้พวกเขาได้ล้มเหลว จึงหันมากีดกันและสร้างความเย็นชาให้กับประชาชน และการเลือกตั้ง เพื่อจะสามารถส่งผลกระทบต่อการตัดสินใจของประชาชน
ท่านผู้นำสูงสุด ถือว่า การสร้างความสิ้นหวังให้กับประชาชนในการออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งนั้นเป็นกลยุทธ์หลักของศัตรู โดย ฯพณฯ ผู้นำสูงสุดกล่าวว่า พวกเขามีความพยายามที่จะประโคมข่าวให้กับสาธารณะชนได้รับรู้ว่า การออกมาใช้สิทธิ์ และการเข้าร่วมในการเลือกตั้งนั้นเป็นสิ่งที่ไร้ประโยชน์ ไร้สาระ ดังนั้น ไฉนจึงต้องเข้าร่วมในการเลือกตั้งด้วย??
ท่าน อยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ได้ชี้ถึง ปฏิกิริยาในช่วงสัปดาห์ล่าสุดของ “เครือข่ายใหญ่ด้านสื่อและสำนักข่าวต่างๆของยิวไซออนิสต์” ว่า การสร้างกระแสวิกฤติภายในประเทศ อุปสรรค์ปัญหาที่ใหญ่โต ความสิ้นหวังในการแก้ไขปัญหา และอนาคตอันมืดมนของอิหร่าน ก็เป็นอีกวิธีการและรูปแบบหนึ่งของเครือข่ายใหญ่ด้านสื่อที่ได้โกหกและบิดเบือน เพื่อสร้างความเย็นชาและหมดความกระตือรือร้นของประชาชนต่อการเลือกตั้ง
ท่านผู้นำการปฏิวัติ ได้กล่าวเสริมในประเด็นนี้ ว่า แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ปัญหาต่างๆ อาทิเช่น สิ้นคาราคาแพง อัตราเงินเฟ้อ และการว่างงานในประเทศนั้นมีอยู่จริง แต่ทว่า มีชาติใดหรือที่ไม่เจอกับอุปสรรค์ปัญหาเหล่านี้?? การออกมาตะโกนในแต่ละวันของประชาชนในยุโรปบนท้องถนนนั้น มิได้เป็นการบ่งชี้ว่าชาติยุโรปกำลังตกอยู่ในวิกฤติขั้นร้ายแรงกระนั้นหรือ??
ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ได้ทำการเปรียบเทียบสถานการณในอิหร่านกับประเทศอื่นๆว่า มีประเทศใดหรือ ที่มีความเป็นชาติเอกราช มีความปึกแผ่น และความเอกภาพแห่งชาติเหมือนกับกับประเทศอิหร่าน? มีประเทศใดหรือที่บรรดาเยาวชนมีความร่าเริงเบิกบานสามารถพิชิตความสำเร็จในด้านเวทีแห่งความยิ่งใหญ่ของวิทยาศาสตร์?? มีประเทศใดหรือ ที่สามารถมีบทบาทและอิทธิพล “ในด้านความสำคัญ ความยิ่งใหญ่และได้รับผลพวงจากอิหร่าน” จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในระดับภูมิภาคและระดับโลก ?? และมีประเทศใดหรือ ที่สามารถสร้างความอัปยศและความปราชัยต่อความชั่วร้ายของบรรดาศัตรู เหมือนดังประชาชาติอิหร่าน ที่ก้าวเดินสู่หนทางแห่งเกียรติ์ยศ ศักดิ์ศรีและความหวัง??
หลังจากที่ท่านผู้นำสูงสุดได้อธิบาย "การเผชิญหน้าทางการเมืองของประเทศและการทำสงครามกับประชาชนในการเลือกตั้ง" นั้น ท่านผู้นำสูงสุดก็ได้กล่าวย้ำว่า พี่น้องประชาชนพึงสังวร ว่า การเข้าร่วมในการเลือกตั้งอย่างคึกคักและเนืองแน่นนั้น จะช่วยสร้างภูมิคุ้มกันและ ลดความโลภของต่างชาติในการครอบงำและสร้างความชั่วร้ายให้กับประเทศชาติ
ท่านผู้นำสูงสุด ได้กล่าวย้ำและชี้แนะยังคณะผู้บริหาร นักการเมืองและบุคคลที่ถือกระบอกเสียง ว่า จงให้ความหวังแด่ประชาชน อันเพราะว่า ข้อเท็จจริงของประเทศชาติ ความมุ่งมั่น และความตั้งใจของประชาชาตินั้น มนุษย์ทุกคนที่มีความเป็นธรรมย่อมมีสิทธิที่จะมุ่งหวังในอนาคต
ท่านผู้นำสูงสุด ได้กล่าวสรุปในประเด็นผลลัพธ์ ของการเผชิญหน้าทางการเมืองของประเทศและการทำสงครามกับประชาชนในการเลือกตั้ง ว่า สิ่งที่ข้าพเจ้ารู้จักประชาชาติอิหร่านเป็นอย่างดี และจากประสบการณ์แห่งความโปรดปรานจากพระผู้เป็นเจ้านั้น ในครั้งนี้ก็เช่นกัน ประชาชาติอิหร่าน ก็จะสร้างความภาคภูมิใจอีกครั้งหนึ่งให้กับความภาคภูมิใจของตน อีกทั้งจะกำหมัดแน่นเพื่อทำการหยัดใส่ปากของศัตรูผู้อหังการทั้งหลาย
ท่านผู้นำสูงสุด ได้กล่าวเสริมและชี้ถึงประเด็นภาพรวมของคุณสมบัติโดยรวมของผู้ลงสมัครที่เหมาะสม ก่อนจะมีการเลือกตั้ง ซึ่ง ประเด็นสำคัญในที่นี้เพื่อสามารถสรรหาและเลือกบุคคลที่ดีและถูกต้อง ซึ่งจำต้องรู้จักคุณสมบัติต่างๆ และด้วยการปรึกษาหารือขอคำชี้แนะ การไตร่ตรอง ตามหลักชัรอีย์ เพื่อสามารถเลือกสรรบุคคลที่เหมาะสมที่สุด
ท่านผู้นำได้กำชับและย้ำถึงความจำเป็นในการเลือกบุคคลที่มีความตั้งใจและมุ่งมั่นอย่างแท้จริงในการพิทักษ์เกียรติยศศักดิ์ศรีและคามเจริญรุ่งเรืองของชาติ ว่า สิ่งที่เราได้มาในช่วงสามศตวรรษที่ผ่านมา ล้วนด้วยความสิริมงคลของการขับเคลื่อนเพื่อมุ่งสู่เป้าหมายของการปฏิวัติ ด้วยเหตุนี้ จึงจำเป็นต้องเลือกบุคคลที่มีเงื่อนไขครบทุกประการเพื่อให้บังเกิดวัตถุประสงค์ต่างๆเหล่านี้
ท่านผู้นำสูงสุดได้ชี้ถึงการพิจารณาสโลแกนและนโยบายต่างๆของผู้สมัครอย่างรอบคอบ ว่า บางท่าน เพื่อให้ได้มาซึ่งคะแนนเสียง จะนำเสนอสโลแกนนโยบายต่างๆที่อยู่นอกเหนือจากอำนาจของประธานาธิบดีและความเอื้ออำนวยของประเทศ แต่ทว่าประชาชนผู้เฉลียวฉลาด จะมุ่งหาเฉพาะบุคคลที่นำเสนอนโยบายที่วางอยู่บนพื้นฐานแห่งหลักความเป็นจริง บุคคลที่จะมาแก้ไขปัญหาต่างๆและปัญหาที่เร่งด่วน และนำรูปแบบวิธีการที่เหามะสมและเป็นไปตามกลไกของประเทศเท่านั้น
ท่านผู้นำสูงสุด ได้ชี้ถึงประเด็นผู้สมัครประธานาธิบดีที่มาจากชนชั้นที่หลากหลาย ว่า คณะสภาชูรอนิคะห์บอนล้วนแล้วเป็นบุคคลที่มีความยำเกรง และมีความศรัทธา ซึ่งด้วยภาระหน้าที่ทางกฎหมายของตนที่มีนั้น จำต้องแนะนำผู้มีคุณธรรมให้กับพี่น้องประชาชน และในบรรดาผู้ลงสมัครที่มีคุณธรรมที่ได้ถูกประกาศมาแล้วนั้น สุดแท้แต่พี่น้องประชาชนจะเป็นผู้ตัดสินและเลือกว่า ผู้ใดมีคุณธรรมมากที่สุดและมีความเหมาะสมที่สุดในการบริหารและพัฒนาประเทศชาติ
ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ได้กล่าวย้ำในประเด็นของการปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัดว่า การปฏิบัติตามกฎหมาย เป็นเงื่อนไขที่ดีประการหนึ่ง อันเป็นสื่อแห่งความสันติและความสงบสุขของชาติ และเป็นความสามัคคีแห่งชาติ ซึ่งไม่ว่าจะกรณีใดๆ อย่าได้มีผู้ใดล่วงละเมิดและฝ่าฝืนกฎหมายเป็นอันขาด
ท่านผู้นำสูงสุด ชี้ถึงความเสียหายที่เกิดขึ้นในปี 88 ที่ผ่านมา อันมีผลพวงจากการละเมิดกฎหมายของกลุ่มหนึ่ง ว่า ไม่ว่าบุคคลเหล่านั้นมีการลุกฮือประท้วงเพื่อสนองอารมณ์ของตน หรือมีนัยยะทางการเมือง หรือมีเป้าหมายและวัตถุประสงค์อื่นๆก็ตาม ล้วนเป็นการฝ่าฝืนและละเมิดกฎหมายทั้งสิ้น ซึ่งนอกเสียจาก ทำให้ “ตนเองเสียหายแล้ว ยังสร้างความเสียหายแก่ประเทศชาติ” อีกทั้งเป็นการสกัดกั้นประชาชนมิให้ได้ชื่นชม และสัมผัสความหวานชื่นแห่งชัยชนะของ 40 ล้านคะแนนเสียง
ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ถือว่า การยอมจำนนต่อกฎหมายเป็นแนวทางหนึ่งที่ถูกต้องที่สุด โดย ฯพณฯ กล่าวย้ำว่า บางครั้งกฎหมายอาจจะไม่สมบูรณ์อย่างร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ทว่ามันเป็นการดีกว่า กับการที่ไร้ซึ่งกฎหมาย
ท่านผู้นำสูงสุด กล่าวเสริมว่า อาจะเป็นไปได้ว่า ผู้บังคับใช้กฎหมาย อาจจะผิดพลาด เฉพาะเพียงแค่บางส่วน แต่ถ้าเราไม่สามารถแก้ไขข้อผิดพลาดตามแนวทางของกฎหมายแล้ว การยอมรับและการอดทนในสิ่งนี้ เป็นสิ่งที่ดีกว่า การไร้ซึ่งกฎหมายและการละเมิดกฎหมาย
ท่านผู้นำสูงสุด ถือว่าการวางอยู่บนพื้นฐานแห่งหลักชัรอีย์ในการเลือกสรรบุคคลนั้น เป็นบ่อเกิดแห่งความสงบมั่นทั้งทางโลกและอาคีเราะห์ โดยท่านผู้นำสูงสุดกล่าวว่า หากตัดสินใจที่สอดคล้องกับหลักชัรอีย์ และแม้นว่าผลสุดท้ายออกมานั้น จะผิดพลาดก็ตาม ก็ถือว่าเป็นความภาคภูมิใจที่ได้ปฏิบัติตามหน้าที่
ท่านผู้นำสูงสุด ได้ชี้ถึงความประเสริฐของเดือนรอญับ อันเป็นเดือนแห่งการการเตรียมพร้อมเพื่อพัฒนาเพิ่มพูนจิตวิญญาณ ว่า หากในเดือนรอญับและเดือนชะอฺบาน สามารถพัฒนาตนเองมีความสงบมั่นทางจิตใจ และตระหนักกับตนเองอยู่เสมอว่าอยู่ในสายตา พระเนตรพระองค์อัลลอฮ์(ซบ) เขาก็จะพบกับความเมตตาอันแผ่ไพศาลแห่งพระผู้เป็นเจ้าในการเป็นแขกของพระองค์ในช่วงเดือนรอมฎอนอันจำเริญอย่างแน่นอน
ท่านผู้สูงสุด ถือว่า การเข้าร่วมของประชาชนทุกหมู่เหล่าในพิธีกรรมอันดีงามของการอิอฺติกาฟในเดือนรอญับ โดยเฉพาะสำหรับบรรดาเยาวชนนั้นเป็นภูมิทัศน์ที่สวยงามยิ่ง โดยท่านผู้นำสูงสุด กล่าวย้ำ ว่า ทุกๆความสิริมงคล และความสำเร็จของการปฏิวัติ ล้วนแล้วได้รับการสนับสนุนจากสิ่งเหล่านี้ อันเป็นขุมทรัพย์แห่งจิตวิญญาณ
ท่านผู้นำสูงสุด กล่าวเสริมว่า การยืนหยัด ความกระตือรือร้น การขับเคลื่อน และพลังอำนาจอันแข็งแกร่งที่ท่านอิมามโคมัยนี(รฎ)ทรงมี ในการเผชิญหน้าต่อสู้กับเหล่าผู้อหังการและมหาอำนาจโลกนั้น ท่านได้พึ่งพิงยังน้ำตา การทำอิบาดะห์ และการวิงวอน มุนาญาตอย่างบริสุทธิ์ใจ ซึ่งท่านอิมาม(รฎ) ได้ทำการวิงวอนสนทนากับพระผู้อภิบาลในช่วงยามค่ำคืนอยู่เสมอ
ท่านผู้นำการปฏิวัติ ถือว่า ความสันโดษในอิสลาม คือการมีส่วนร่วมในทุกภาคส่วนของวิถีชีวิต โดย ฯพณฯ ผู้นำสูงสุด กล่าวถึง การเทิดเกียรติ์ความศรัทธา จิตสำนึกแห่งการปฏิวัติ และการสร้างวีรกรรมของบรรดาเยาวชนในประเทศในด้านเวทีต่างๆแห่งชาติ ว่า การพิทักษ์ปกป้องและ การปลูกฝังจิตวิญญาณเช่นนี้ เป็นการสานต่อความโปรดปรานและความช่วยเหลือของพระองค์อัลลอฮ์(ซบ)