สำนักผู้นำสูงสุดซัยยิด อาลี คาเมเนอี

คำปราศรัยที่สำคัญของท่านผู้นำสูงสุด ฉบับสมบูรณ์

การประเมินสถานภาพความเป็นอยู่ ณ ปัจจุบัน และความเจริญก้าวหน้าของประชาชาติอิหร่าน /

ท่านอยาตุลลอฮ์ ซัยยิดอาลี คาเมเนอี ผู้นำสูงสุดแห่งการปฏิวัติอิสลามแห่งอิหร่าน ได้กล่าวปราศรัย ในวันที่หนึ่ง ของศักราชใหม่ 1392 เมื่อบ่ายวันที่(21/03/2013) ท่ามกลางกลุ่มผู้แสวงบุญจำนวนหลายพันคน ณ ฮะรอม ท่านอิมามอาลี อิบนิ มูซา อัร ริฏอ (อ) ซึ่งท่านได้บรรยายถึงประเด็นอันมีใจความสำคัญ ซึ่งได้ประเมินจากพัฒนาการเรื่องปัจจัยทางโครงสร้างพื้นฐานของประชาชาติอิหร่าน ในปี 1391 ที่ผ่านมา ท่ามกลางการขัดขวางทางด้านวิชาการ และการโหมโฆษณาอย่างหนักหน่วงและแพร่กระจายออกไปอย่างกว้างขวางจากผู้ประสงค์ร้ายต่อประชาชาติอิหร่าน และพร้อมกันนี้ก็ได้กล่าวชี้ให้เห็นในประเด็นหลัก โดยเฉพาะประเด็นการเจรจากับอเมริกา ขณะเดียวกันยังได้อธิบายถึง, ความสำคัญในเรื่องวีรกรรมแห่งเศรษฐกิจ โดยเฉพาะการไม่ยึดติดในเรื่องน้ำมันเพียงด้านเดียว แต่ควรมุ่งเน้นเรื่องของเศรษฐกิจมหาภาคด้านอื่นๆ, และการรู้เท่าทันเหนือแผนการร้ายของศัตรู, .และการอธิบายในประเด็นวีรกรรมด้านการเมืองโดยเฉพาะในเรื่องการเลือกตั้งประธานาธิบดี โดยท่านได้กล่าวย้ำว่า ในการเลือกตั้ง ทุกฝ่ายทุกกลุ่มการเมืองจำเป็นต้องยึดมั่นในระบอบการปกครองแห่งสาธารณรัฐอิสลามแห่งอิหร่าน และ ด้วยกับความโปรดปรานจากพระผู้อภิบาล ประชาชนต้องร่วมกันออกมาใช้สิทธิในการเลือกตั้งประธานาธิบดี ด้วยกับความเชื่อมันที่มีต่อการเมืองของสาธารณรัฐอิสลามแห่งอิหร่าน เพราะประเด็นการเลือกตั้งประธานาธิบดี คือเรื่องที่สำคัญและมีผลกระทบต่อประเทศชาติ


ระหว่างการปราศรัยท่านผู้นำสูงสุด ได้แสดงความยินดีอีกครั้งหนึ่ง เนื่องในโอกาสวันขึ้นปีใหม่ ของประชาชาติอิหร่าน ท่านชี้ให้เห็นถึงประเด็นการประเมินผลจุดอ่อนและจุดแข็งของประเทศในปีที่ผ่านมา พร้อมกับประเมินพัฒนาการเรื่องปัจจัยทางโครงสร้างพื้นฐานของประชาชาติอิหร่าน ในปี 1391 ที่ผ่านมาอีกด้วย โดย ฯพณฯ ท่าน กล่าวว่า เหมือนกับประเด็นของมนุษย์ ในด้านปัจเจกบุคคล ที่จำเป็นต้องมีการประเมินและพิจารณาไตร่ตรองตนเองอยู่เสมอ ในด้านการบริหารประเทศก็เช่นกัน ก็จะต้องมีการประเมินและการพิจารณาอันเป็นวาระแห่งชาติและเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่ง เพราะสามารถนำมาเป็นอุทาหรณ์และนำมาปรับใช้ได้ในอนาคต


  ท่านผู้นำได้ชี้ให้เห็นถึง การตรวจสอบประสิทธิภาพและผลงานความสำเร็จของประชาชาติอิหร่าน โดยเฉพาะนักวิทยาศาสตร์ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญของชาติ ที่สามารถนำสิ่งต่างๆ เหล่านี้มาใช้ประโยชน์ได้ อีกทั้งการมีมุมมองที่ลึกล้ำของศัตรู ที่ประสบความสำเร็จในเรื่องต่างๆ พร้อมกับจุดด้อยของอิหร่าน ว่า จากมุมมองนี้ ประชาชาติอิหร่าน ต้องมีวิสัยทัศน์ที่กว้างไกลและมีการประเมินผลอย่างถูกต้อง จากสภาวะเงื่อนไขต่างๆ ภายในประเทศ
ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลามแห่งอิหร่าน ได้ประเมินสถานการณ์ปัจจุบันของประเทศ ด้วยการพินิจพิเคราะห์อย่างถี่ถ้วน อาทิ ประเด็นสินค้าราคาแพง การลดจำนวนปริมาณการผลิตในบางหน่วย และการถูกกดดันในด้านเศรษฐกิจ ซึ่งถือเป็นการประเมินที่บกพร่องและไม่ถูกวิธี โดย ฯพณฯ กล่าวย้ำว่า มุมมองที่ถูกต้องในเรื่องนี้ คือ ในเวทีแห่งการเผชิญหน้ากับความท้าทายของอิหร่าน ท่ามกลางจุดอ่อนและอุปสรรคปัญหา แต่ทว่าเราก็ได้พบกับความเจริญก้าวหน้า และผลผลิตอันยิ่งใหญ่ซึ่งเป็นที่ประจักษ์ชัดได้ ผลลัพธ์ของการประเมิน คือความภาคภูมิใจและชัยชนะของเหล่าวีรบุรุษของประชาติอิหร่าน


  ท่านผู้นำสูงสุด ได้ชี้ให้เห็นถึงการแสดงออกในทัศนะที่ชัดเจนของอเมริกาจากกรณีการคว่ำบาตรต่ออิหร่าน เพื่อให้อิหร่านเป็นอัมพาต นั้น ท่านกล่าวย้ำว่า ในเวทีอันเปี่ยมล้นด้วยความท้าทาย ประชาชาติอิหร่านสามารถที่จะพิชิตมันได้ ด้วยกับความชาญฉลาด ความสามารถ และพลังอำนาจที่แข็งแกร่ง การข่มขู่ก็กลายเป็นโอกาส เหมือนกับวีรบุรุษในวงการนักกีฬา ที่จะต้องผ่านพ้นความท้าทายอันยากลำบาก ควบคู่กับความเพียรพยายามอย่างหนักหน่วงและความเหนื่อยล้า จนสามารถก้าวผ่านพ้นจากสังเวียนแห่งการต่อสู้ ได้สำเร็จ และได้สร้างความชื่นชมและปลื้มปิติยินดีให้กับผู้คนโดยทั่วหน้า ฯพณฯ กล่าวย้ำว่า หากมองจากเงื่อนไขในลักษณะเช่นนี้ต่อประเทศชาติ วีรบุรุษแห่งศึกสังเวียนครั้งนี้ ก็คือประชาชาติอิหร่านนั้นเอง


 ท่านผู้นำสูงสุด กล่าวเสริมว่า ความสำเร็จต่างๆ ของประชาชาติอิหร่านในเวทีอันเปี่ยมล้นไปด้วยความท้าทาย เป็นที่ชื่นชมและยอมรับของอัจฉริยชน นักการเมืองและอาจารย์ระดับมหาลัยจากประเทศต่างๆทั่วโลก โดยเฉพาะประเทศที่เป็นปรปักษ์และเป็นศัตรูกับอิหร่าน ต่างก็ตกตลึงในความสำเร็จของอิหร่าน


 ท่านผู้นำสูงสุด ยังชี้ไปยังกลุ่มที่ไม่มีความพึงพอใจอยู่เสมอ ต่อความสำเร็จและความเจริญก้าวหน้าของอิหร่าน โดย ท่านผู้นำสูงสุด กล่าวย้ำว่า กลุ่มดังกล่าวถือว่าเป็นศัตรูตัวฉกาจของประชาชาติอิหร่าน โดยมีการใช้สองยุทธวิธีหลักในการเผชิญหน้าในการต่อสู้กับความเจริญก้าวหน้าของอิหร่าน คือ 1 การสกัดกั้นและยับยั้งอิหร่านอย่างเปิดเผย อาทิ การคว่ำบาตร การข่มขู่ การทำให้บรรดาผู้บริหาร นักการเมืองและนักวิทยาศาสตร์สาละวนอยู่แต่ในกับเรื่องปลีกย่อย 2 การโฆษณาอย่างแพร่หลายและหนักหน่วงเพื่อปกปิดความเจริญก้าวหน้าของอิหร่าน การประโคมข่าวจุดด้อยและข้อบกพร่องบางประการของอิหร่าน


  ท่านผู้นำสูงสุด ถือว่ามุมมองดังกล่าวนั้น ในปีที่ผ่านมา คือปี 91 เป็นปีที่ของศัตรูอิหร่าน หรือเป็นปีสำหรับผู้ที่ไม่หวังดีต่ออิหร่านนั้น ได้ลงมือทุ่มเทอย่างสุดความสามารถในการทำลายอิหร่าน โดยท่านกล่าวย้ำว่า พวกเขาได้ประกาศอย่างกึกก้องว่า วัตถุประสงค์ในการคว่ำบาตรอิหร่านนั้นเพื่อให้อิหร่านเป็นอัมพาตและล่มสลาย ดังนั้น หากอิหร่านสามารถยืนหยัดเผชิญหน้าต่อสู้กับความกดดันต่างๆ เหล่านี้ด้วยลำแข้งของตัวตนเอง ด้วยความเบิกบานและรื่นเริงแล้ว ก็จะสามารถก้าวถึงยังไปสู่ความเจริญก้าวหน้า และพวกเขาก็จะไร้เกียรติและได้รับความอัปยศอดสูอย่างแน่นอน


 จากนั้นท่านผู้สูงสุด ได้กล่าวถามสองประเด็นคือ ศูนย์บัญชาการแห่งการต่อต้านและเป็นปรปักษ์กับอิหร่านอยู่ที่ไหน? สอง ศัตรูของอิหร่านคือใคร?
ท่านผู้นำได้ให้คำตอบในคำถามแรก โดยย้ำว่า ศูนย์บัญชาการแห่งการต่อต้านและปรปักษ์กับอิหร่าน คือ อเมริกา ซึ่งในวันนี้ หลังจากผ่านพ้นไป 34 ปี ทุกครั้งเมื่อมีการเอ๋ยนามว่าศัตรู ประชาชาติอิหร่าน จะรู้ในทันทีทันใดว่า คืออเมริกา ซึ่งท่านผู้นำกล่าวย้ำว่า ผู้บริหารอเมริกาจำต้องมีการไตร่ตรอง ทบทวนในเรื่องนี้เป็นอย่างมาก แล้วถามกับตัวเอง ว่า เหตุใด เมื่อเอ๋ยถึงศัตรูแล้ว ประชาชาติอิหร่านจะพุ่งเป้าว่าเป็นอเมริกาในทันที??
ท่านผู้นำสูงสุด ได้ชี้ให้เห็นถึงศัตรูของอิหร่าน ว่า นอกจากอเมริกา ซึ่งเป็นศัตรูเบอร์หนึ่งและเป็นศูนย์บัญชาการแล้ว ยังมีศัตรูอื่นๆ อีกด้วย ซึ่งได้แก่ อังกฤษ ชาติสกปรกชั่วร้าย ที่ไม่มีเสรีภาพเป็นของตนเอง ได้แต่คอยเติมเต็มบทบาทให้สมบูรณ์ให้กับอเมริกาเท่านั้น


 ท่านผู้นำสูงสุด ยังได้ชี้ และเตือนฝรั่งเศสในบางประเด็น โดยกล่าวย้ำว่า สาธารณรัฐอิสลามแห่งอิหร่าน มิได้มีปัญหากับรัฐบาลและชาวฝรั่งเศสแต่อย่างใด แต่ทว่า ในปีล่าสุด โดยเฉพาะในยุคสมัยของรัฐบาล ซาร์โกซี นั้น ได้นำแผนนโยบายในการประกาศความเป็นศัตรูกับอิหร่านอย่างชัดเจน ซึ่งนโยบายที่ผิดพลาดครั้งนี้ยังคงดำเนินอยู่ ซึ่งการปฏิบัติเช่นนี้ ถือเป็นการไร้ซึ่งความเฉลียวฉลาดอย่างสิ้นเชิง


ท่านผู้นำสูงสุด ยังได้ชี้ถึงอิสราเอลไซออนิสต์ ว่า ยิวอิสราเอลคือศัตรูที่มิได้อยู่ในสถานะที่จะเผชิญหน้าต่อสู้กับอิหร่านได้ โดยท่านผู้นำสูงสุดกล่าวย้ำกรณีที่ผู้นำอิสราเอลออกมาข่มขู่จะโจมตีอิหร่านด้วยกองกำลัง ว่า ถ้าอิสราเอลคิดจะบุกอิหร่าน วินาทีนั้น ทั้งเทลอาวิฟและไฮฟาจะราบเป็นหน้ากลอง"
ท่านอยาตุลลอฮ์ ซัยยิด อะลี คาเมเนอี กล่าวย้ำว่า อเมริกาจะประกาศความเป็นศัตรูต่อบรรดาชาติต่างๆที่มีไมตรีต่ออิหร่าน ด้วยการใช้คำในทางที่ผิด ว่า “ประชาคมโลก” อยู่เสมอ ในขณะที่ประชาคมโลก นั้น มิได้เป็นศัตรูกับสาธารณรัฐอิสลามแห่งอิหร่านและประชาชาติอิหร่าน ทั้งหมดแต่อย่างใด


จากนั้น ท่านผู้นำสูงสุด ได้อธิบายธาตุแท้ของศัตรูเบอร์หนึ่งของอิหร่าน โดยชี้ให้เห็นถึงการกระทำอันป่าเถื่อนและรุนแรงในช่วงปี 91 ที่ผ่านมา ว่า อเมริกา ได้กระทำสิ่งที่ขัดแย้งกับสิ่งที่เปิดเผย กรณีที่จะสร้างมิตรภาพกับอิหร่าน โดยในช่วงต้นปีที่ผ่านมา ได้เริ่มใช้มาตรการคว่ำบาตรอิหร่านอย่างหนักหน่วง อันเป็นการคว่ำบาตรน้ำมัน และการธนาคาร แต่ในขณะที่มีการคว่ำบาตรอย่างหนัก ก็ยังพยายามรักษาภาพพจน์ของตนเองว่ามิได้เป็นศัตรูกับอิหร่านตามที่ถูกกล่าวหาแต่อย่างใด


ท่านผู้สูงสุดถือว่า นโยบายดังกล่าวเป็นการสานต่อนโยบาย “กรงเล็บเหล็กภายใต้ถุงมือกำมะหยี่” โดยท่านผู้นำสูงสุดกล่าวย้ำว่า แม้นว่าในภาพรวมพวกเขาจะกระทำในสิ่งที่ค้านกับความหลอกลวง แล้วก็ได้เริ่มเคลื่อนไหวตามแผนการดังกล่าวที่ได้วางไว้ และคาดหวังว่า ในช่วงระยะเวลาเพียงไม่กี่เดือน ประชาชาติอิหร่านจะยอมสยบต่ออำนาจของพวกเขาอย่างแน่นอน พร้อมกับหยุดการพัฒนากิจกรรมด้านวิทยาศาสตร์ แต่ทว่าสิ่งที่เกิดขึ้น มันกลับสวนทางกับความคาดหวังและความต้องการของศัตรู และผู้ไม่หวังดี ประสงค์ร้ายอย่างอเมริกา.
ท่านผู้นำสูงสุด ได้ชี้ให้เห็นถึง การแสดงความพึงพอใจของอเมริกาจากผลกระทบของการคว่ำบาตร และการแสดงทัศนะของเจ้าหน้าที่อิหร่านบางท่านในประเด็นที่เกี่ยวข้องดังกล่าว ว่า การคว่ำบาตรนั้นมันส่งผลกระทบจริง แต่ทว่า เป็นผลกระทบที่ค้านกับความต้องการของพวกเขา ซึ่งท่านผู้นำสูงสุดกล่าวย้ำว่า หากการคว่ำบาตรนั้นได้ผล อันมีเหตุมาจากปัญหาหลักที่ผูกมัดและขึ้นอยู่กับเศรษฐกิจของประเทศที่เกี่ยวข้องกับน้ำมันเพียงเท่านั้น ด้วยเหตุนี้ จำเป็นต้องมีการกำหนดมาตรการทางเศรษฐกิจที่ปราศจากน้ำมันเป็นแผนงานหลักและวาระเร่งด่วนของรัฐบาลชุดใหม่ในอนาคต


ท่านผู้นำสูงสุด ได้ชี้ถึง คำพูดของท่านเมื่อหลายปีก่อน กรณีความจำเป็นในการไปถึงยังเป้าหมายในภาวะเงื่อนไขซึ่งสามารถปิดบ่อน้ำมัน และการบริหารประเทศโดยปราศจากน้ำมันว่า ในสมัยนั้น กลุ่มผู้ชายบางคน ซึ่งอ้างตนเองว่า เป็นช่างเทคโน ได้หัวเราะเยาะอย่างมีเลิศนัยต่อคำพูดดังกล่าว โดยพูดว่า การกระทำเช่นนั้น เป็นสิ่งที่เป็นไปได้หรือ?


ท่านผู้นำสูงสุด กล่าวย้ำว่า การบรรลุถึงแผนและเป้าหมายทางเศรษฐกิจที่ปราศจากการอาศัยน้ำมันนั้นเป็นสิ่งที่สามารถกระทำได้ แต่ทว่า มีเงื่อนไขว่าต้องมีการกำหนดแผนงานอย่างรัดกุมและถูกต้อง แล้วนำมาปฏิบัติใช้เท่านั้น


หลังจากที่ท่านผู้นำได้กล่าวถึงกรณีที่ศัตรูได้คว่ำบาตรอิหร่านอย่างหนักหน่วงในด้านเศรษฐกิจ ในปี 91 พร้อมกับมีความพยายามในด้านการเมือง ซึ่งท่านผู้นำสูงสุดกล่าวย้ำว่า หนึ่งในมาตรการคว่ำบาตรอิหร่านของศัตรูอิหร่าน ในเวทีการเมือง คือความพยายามในการลดความน่าเชื่อถือระบอบการปกครองอิสลาม และความมั่นคง ซึ่งทว่า การจัดประชุมสัมมนาผู้กลุ่มประเทศผู้ไม่ฝักฝ่ายฝ่ายใด ในกรุงเตหราน โดยมีผู้นำและคณะผู้บริหารระดับสูงจากนานาชาติประเทศของสมาชิกองค์กรกลุ่มประเทศไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด และการชื่นชมอิหร่าน ด้วยเหตุของความเจริญก้าวหน้าในด้านวิชาการ เทคโนโลยีที่ทันสมัย และเศรษฐกิจ ทำให้ศัตรูต้องล้มเหลวในการเผชิญหน้ากับอิหร่านอย่างสิ้นเชิง


ท่านผู้นำสูงสุด ถือว่า การแยกประชาชาติอิหร่านออกมาจากระบอบการปกครองอิสลาม ก็เป็นอีกวิธีการหนึ่งของศัตรูในเวทีการเมือง ซึ่งท่านผู้นำสูงสุด กล่าวย้ำว่า การเข้าร่วมของประชาชาติอิหร่านอย่างเนืองแน่น ด้วยความกระตือรือร้นและความรักในการปฏิวัติ ในวันเดินขบวนประท้วง เมื่อวันที่ 22 บะห์มัน และการแสดงออกถึงจิตสำนึกที่มีต่ออิสลามและการปฏิวัติอิสลามอิหร่านนั้น เป็นคำตอบที่ดีที่สุด เสมือนเป็นกำปั้นที่อันหนักหน่วงที่สุดที่ได้ยัดใส่และปิดปากความโอหังของศัตรู


ท่านผู้นำสูงสุด ถือว่า ความพยายามบางประการที่ไม่ประสบความสำเร็จในเวทีทางการเมือง เพื่อลดความน่าเชื่อถือและลดบทบาทอำนาจในเขตภูมิภาคของอิหร่าน ก็เป็นอีกแผนการหนึ่งของศัตรูที่คิดร้ายต่ออิหร่าน ซึ่งท่านผู้นำกล่าวย้ำว่า การมีส่วนร่วมและอยู่เบื้องหลังของอิหร่านในสงครามแปดวันในกาซ่า อันซึ่งทำให้ยิวไซออนิสต์ ต้องยอมรับความพ่ายแพ้อย่างราบคาบในการเผชิญหน้ากับการต่อสู้ของนักต่อสู้ชาวปาเลสไตน์ และการออกมายืนยันของศัตรูจากกรณีที่ไม่สามารถแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นในระดับภูมิภาคหากปราศจากการเข้าร่วมของอิหร่านนั้น อันเป็นเหตุให้แผนการของศัตรูต้องล้มเหลวอีกครั้งในเวทีนี้


ท่านผู้นำสูงสุดกล่าวย้ำว่า ทุกๆ ความกดดันของศัตรู โดยเฉพาะมาตรการการคว่ำบาตรต่างๆ นั้น นอกจากจะส่งผลกระทบในเชิงลบแล้ว อีกด้านหนึ่งก็ยังบังเกิดผลในเชิงบวกควบคู่กันไปด้วย ซึ่งสิ่งที่สำคัญที่สุด คือ การกระตุ้นเพื่อปลุกระดมพลังภายใน และภูมิปัญญาความสามารถของประชาชาติอิหร่าน และการปรากฏผลงานอันยิ่งใหญ่และปัจจัยทางโครงสร้างขั้นพื้นฐานต่างๆ ในปีที่ผ่านมา


จากนั้น ท่านผู้นำสูงสุด ได้ชี้ให้เห็นถึงความเจริญก้าวหน้าบางอย่างและผลิตผลบางประการที่ยิ่งใหญ่อันเป็นโครงสร้างขั้นพื้นฐาน ในปี 91 ที่ผ่านมา ซึ่งสามารถบรรลุผลขึ้นมาในช่วงการคว่ำบาตรดังกล่าว ว่า การค้นพบแหล่งทรัพยากรน้ำมัน แหล่งยูเรเนียมแห่งใหม่ การสร้างและการพัฒนาโรงงานไฟฟ้าและโรงกลั่น การลงทุนในระบบโครงสร้างขั้นพื้นฐานในภาคส่วนของการคมนาคมและด้านพลังงาน ความสำเร็จในด้านวิชาการและวิทยาศาสตร์ อาทิ การยิงดาวเทียม นาฮียด????? การปล่อยยานอวกาศโดยมีสิ่งมีชีวิตอยู่ภายใน การผลิตเครื่องบินรบรุ่นใหม่ที่ทันสมัย การผลิตเวชภัณฑ์ที่สำคัญชนิดใหม่ การคว้ารางวัลชนะเลิศในเวทีเทคโนโลยีนาโน ในระดับภูมิภาค การคว้ารางวัลอันทรงเกียรติในระดับเวทีวิชาการโอลิมปิก, การเจริญเติบโตและการพัฒนาการอย่างรวดเร็วในด้านวิชาการ , การเจริญเติบโตอย่างรวดเร็วของนักศึกษาในประเทศ ความสำเร็จทางด้านวิชาการเกี่ยวกับต้นกำเนิดของเซลล์ และการพัฒนาพลังงานทดแทนและพลังงานนินิวเคลียร์ สิ่งที่กล่าวมาเหล่านั้น เป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งในความสำเร็จของเยาวชนและนักวิทยาศาสตร์ชาวอิหร่านในช่วงปีที่ศัตรูอิหร่านต้องการให้อิหร่านเป็นอัมพาตจากการถูกคว่ำบาตร


ท่านผู้นำสูงสุดกล่าวย้ำว่า บทเรียนอันล้ำค่าและยิ่งใหญ่แห่งความสำเร็จในปี 91 คือ ประชาชาติที่มีชีวิตชีวา มีอุดมการณ์เยี่ยงอิหร่าน จะไม่มีวันสยบและยอมจำนนต่อการถูกคว่ำบาตร การกดดันอันหนักหน่วงจากศัตรูอย่างเด็ดขาด


ท่านผู้นำสูงสุด ถือว่า ปี 91 เสมือนเป็นสนามแห่งการฝึกฝนและการทดสอบ ซึ่งประชาชาติอิหร่าน สามารถแสดงศักยภาพต่างๆ และความเจริญก้าวหน้าของตนให้เป็นที่ประจักษ์ และในขณะเดียวกัน ก็ต้องเรียนรู้จุดอ่อนบางอย่างควบคู่ไปด้วย


ท่านผู้นำสูงสุด ได้อธิบายถึงจุดอ่อนทางด้านเศรษฐกิจของประเทศในช่วงปีที่ผ่านมา ว่า การที่ประเทศต้องพึ่งพาอาศัยน้ำมันเพียงด้านเดียว โดยมิได้คำนึงถึงนโยบายหลักเรื่องเศรษฐกิจด้านอื่นๆ อีกทั้งสาละวนอยู่กับการเผชิญหน้ากับนโยบายในแต่ละวัน คือจุดอ่อนที่เด่นชัด ซึ่งจำเป็นอย่างยิ่งที่ผู้บริหารประเทศ โดยเฉพาะรัฐบาลชุดใหม่ในอนาคต ต้องให้ความสำคัญและใส่ใจเป็นพิเศษ และพึงรู้ว่า ประเทศชาติต้องมีนโยบายเศรษฐกิจมหาภาคที่ ,มีความชัดเจน มีการวางแผนอย่างรัดกุม และเป็นไปอย่างมีระบบระเบียบ


ท่านผู้นำได้ชี้ให้เห็นถึงอีกหนึ่งบทเรียนที่สำคัญของปี 91 คือ การแผ่ขยายกิจกรรมด้านความแข็งแกร่งของประเทศซึ่งท่านผู้นำกล่าวย้ำว่า ตราบใดที่มีกำลังใจและ ความแข็งแกร่งมากขึ้น และบรรดาผู้บริหารประเทศมีความเป็นน้ำหนึ่งอันเดียวกัน และวางอยู่บนพื้นฐานเดียวกันในการบริหารแล้ว แน่นอนยิ่งผลกระทบจากการกดดันที่หนักหน่วงของศัตรูก็ย่อมเบาบางและลดน้อยลง


ท่านผู้นำสูงสุด ได้ย้ำและชี้ให้เห็นในประเด็นความสำคัญบางอย่าง ที่นอกเหนือจากประเด็นเศรษฐกิจ คือประเด็นความมั่นคง ความสงบสุขปลอดภัยของพลเมือง ความก้าวหน้าทางวิชาการ การมีเสรีภาพและเกียรติยศและศักดิ์ศรีแห่งชาติ ก็เป็นประเด็นที่สำคัญของประเทศชาติเช่นกัน ซึ่งท่านผู้นำกล่าวย้ำว่า จากความสำเร็จของประชาชาติอิหร่านในปีที่ผ่านมา สามารถพิสูจน์ โดยไม่ต้องพึ่งพาอาศัยอเมริกาและชาติมหาอำนาจ และ มิได้เป็นเหตุให้เกิดความล้าหลังแต่ประการใด แต่ทว่า มันกลับกลายเป็นเหตุและแรงจูงใจในการพัฒนาสู่ความเจริญก้าวหน้าแบบยั่งยืน


หลังจากที่ ท่านผู้นำสูงสุดได้ประเมินสภาวะเงื่อนไขในความเป็นจริงของประเทศในปี 91 ที่ผ่านมาแล้ว ท่านผู้นำสูงสุด ยังได้ชี้ให้เห็นถึงสองประเด็นหลักที่ต้องคำนึงในอนาคต โดยอาศัยบทเรียนในปีทีผ่านมาเป็นองค์ประกอบ
การอ่านเกมส์ศัตรูก่อน และการลงมือปฏิบัติอย่างจริงจัง และการมีไหวพริบที่เฉลียวฉลาดในการเผชิญหน้ากับแผนการต่างๆ ของศัตรู คือประเด็นแรกที่ท่านผู้นำสูงสุดได้ชี้แนะ


ท่านผู้นำสูงสุด ได้กล่าวในประเด็นนี้ว่า ผลงานของนักวิทยาศาสตร์หนุ่มชาวอิหร่านในการตระเตรียมพลังงานเชื้อเพลิง ร้อยละยี่สิบสำหรับเครื่องวิจัยปฏิกรณ์นิวเคลียร์ กรุงเตหราน เพื่อผลิตเภสัชรังสีนั้น เป็นกรณีตัวอย่างหนึ่งในการขยายแผนงานที่ชาญฉลาด ซึ่งก็จำเป็นต้องมีการขยายออกไปใช้ในทุกเรื่องหลักๆของประเทศให้ทั่วถึง.
ท่านผู้นำสูงสุด ถือว่า การแผ่ขยายในเรื่องกิจการเชิงภาคปฏิบัตินั้น เป็นภาระหน้าที่ด้านคุณธรรมอันยิ่งใหญ่และอาศัยไหวพริบของรัฐบาล นักอุตสาหกรรม เกษตรกร นักลงทุน ผู้ประกอบการ ผู้กำหนดแผนงานวิชาการและอุตสาหกรรม นักวิชาการและอาจารย์ของมหาลัยต่างๆ ผู้บริหารด้านเศรษฐกิจและการพาณิชย์ และผู้เชี่ยวชาญภาควิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โดยท่านผู้นำกล่าวย้ำว่า ภาระหน้าที่ของทุกกลุ่ม ต้องนำพาประเทศชาติให้สามารถยืนหยัดต่อสู้เผชิญหน้ากับศัตรู โดยไม่ปล่อยช่องโหว่ให้ศัตรูเข้ามามีบทบาท มีอิทธิผลและไม่ปล่อยให้ส่งผลกระทบต่อประเทศชาติ


ท่านผู้นำสูงสุดกล่าวว่า ประเด็นดังกล่าวนี้ คือ เป็นหนึ่งในข้อกำหนดยุทธศาสตร์เศรษฐกิจแบบยั่งยืน.
ประเด็นที่สองที่ท่านผู้นำสูงสุด ได้กล่าวชี้ในการปราศรัยในประเด็นดังกล่าวคือ ประเด็นข้อความของสาส์นที่มีอยู่อย่างต่อเนื่องซ้ำๆ และการแสดงเจตจำนงของอเมริกา เพื่อการเจรจาทั้งสองฝ่าย
ซึ่งท่านผู้นำสูงสุดกล่าวว่า “นานมาแล้วที่อเมริกามีการส่งสาส์นข้อความผ่านวิธีการต่างๆ เพื่อแสดงจุดประสงค์ในการขอเจรจาทั้งสองฝ่าย(ทวิภาคี)กับอิหร่าน โดยเฉพาะในเรื่องพลังงานนิวเคลียร์ แต่ทว่า จากประสบการณ์ในอดีต ข้าพเจ้าไม่คิดว่าการเจรจาดังกล่าวจะเป็นไปในทิศทางที่ดี”


ท่านผู้นำสูงสุด ย้ำว่า ในทัศนะและมุมมองของอเมริกานั้น การเจรจา มิได้เป็นแนวทางอันนำมาซึ่งการแก้ไขปัญหาอย่างถูกต้องถูกวิธีแต่อย่างใด โดยท่านผู้นำสูงสุดกล่าวย้ำว่า การเจรจาในมุมมองและทัศนะของอเมริกาคือ การเจรจาแกมบังคับให้ฝ่ายตรงกันข้ามยอมรับข้อเสนอของตนเพียงฝ่ายเดียว ด้วยเหตุนี้ เราจึงถือว่าการเจรจาเช่นนั้นเป็นการยัดเยียด และสาธารณรัฐอิสลามแห่งอิหร่าน จะไม่มีวันตกอยู่ภายใต้การถูกยัดเยียดเช่นนั้นอย่างเด็ดขาด.
ท่านผู้นำสูงสุด ได้ย้ำถึงการไม่เห็นดีเห็นงามของการเจรจาในลักษณะเช่นนี้ ว่า จะอย่างไรก็ตาม ข้าพเจ้าเองก็ไม่คัดค้านในเรื่องนี้


จากนั้นท่านผู้นำสูงสุด ได้อธิบายในบางประเด็นที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับอเมริกา ประเด็นแรก ท่านผู้นำสูงสุดได้ชี้ให้เห็นถึง สาสน์หรือข้อความซ้ำๆและต่อเนื่องของอเมริกา ที่แสดงเจตจำนงว่ามิได้มีความตั้งใจในการเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครองของอิหร่าน ซึ่งท่านผู้นำสูงสุดกล่าวย้ำว่า “เราไม่มีความหวาดกลัวในเจตนาของพวกคุณแต่อย่างใดในการที่จะเข้ามาเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครองของสาธารณรัฐอิสลามแห่งอิหร่าน เพราะ ในยุคสมัยนั้นพวกคุณเองก็มีเจตนาลักษณะนี้มาแล้ว อีกทั้งมีการประกาศกร้าวอย่างชัดเจน ซึ่งทั้งหมดนี้ พวกคุณก็ไม่สามารถที่จะกระทำได้ และจากนี้ไปพวกคุณก็ไม่มีมีวันที่จะทำได้อย่างแน่นอน


จากนั้น ท่านผู้นำสูงสุด ชี้ถึงประเด็นที่สองว่า อเมริกามีความตั้งใจจริงและเจตนาดีในคำพูดและข้อเสนอในการเจรจา ซึ่งท่านผู้นำกล่าวย้ำว่า เราได้กล่าวหลายต่อหลายครั้งมาแล้ว ว่า เรามิได้แสวงหาและพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์แต่อย่างใด แต่ท่า อเมริกากล่าวอ้างว่า เราไม่เชื่อ , ในภาวะเช่นนี้ เหตุไฉนเล่าเราต้องเชื่อมั่นในคำพูดของอเมริกาว่าเขามีความสัจจริงในข้อเสนอของการเจรจา


ท่านผู้นำสูงสุดกล่าวย้ำว่า เราสามารถสรุปได้ว่า ข้อเสนอในการเจรจานั้นเป็นเพียงแค่เทคนิค ทางยุทธวิธีหนึ่งของอเมริกาเท่านั้น เพื่อหลอกลวงชาวโลก และประชาชาติอิหร่าน และหากไม่เป็นดังที่กล่าวมา อเมริกาจำต้องพิสูจน์และแสดงให้เห็นในเรื่องนี้ในภาคปฏิบัติ


จากนั้นท่านผู้นำ กล่าวชี้ถึง กลยุทธ์ เทคนิค ในการโฆษณาชวนเชื่อของอเมริกา ว่า พวกเขาได้กล่าวอ้างมาในบางเรื่องว่า มีบุคคลกลุ่มหนึ่งที่เป็นตัวแทนจากผู้นำอิหร่าน ได้เจรจากับอเมริกา ในขณะที่คำพูดดังกล่าว มิใช่สิ่งอื่นใดเลย เว้นแต่เป็นการโกหกปลิ้นปล้อนอย่างโจ่งแจ้ง เพราะจนถึงวันนี้ ยังไม่มีผู้ใดที่เป็นตัวแทนจากผู้นำอิหร่านไปเจรจากับอเมริกาแต่อย่างใด


ท่านผู้นำสูงสุดกล่าวเสริมว่า จะมีบางกรณีเท่านั้น ในบางประเด็นเฉพาะกาลที่รัฐบาลต่างๆ ได้เจรจากับอเมริกา ซึ่งในการเจรจานั้น รัฐบาลต้องระมัดระวังและเคารพในพื้นที่เขตสีแดง(หวงห้าม)แห่งภาระของการเป็นผู้นำ และในวันนี้ ก็จำต้องระมัดระวังและเคารพขอบเขตพื้นที่สีแดงดังกล่าวอีกเช่นกัน


ประเด็นที่สามที่ท่านผู้นำสูงสุด ได้ชี้ถึงการเจรจากับอเมริกา ว่า อเมริกาไม่ได้มีแนวโน้มและความต้องการที่จะให้บรรลุข้อตกลงในการเจรจาในประเด็นนิวเคลียร์แต่ประการใด
ซึ่งท่านผู้นำสูงสุดกล่าวย้ำว่า หากอเมริกามีแนวโน้มและต้องการที่จะแก้ปัญหาประเด็นนิวเคลียร์ของอิหร่านอย่างจริงจัง ก็ย่อมมีแนวทางที่ง่ายดายเป็นอย่างมาก นั้นคือยอมรับในสิทธิของการผลิตพลังงานนิวเคลียร์ของอิหร่านเพื่อใช้ในทางสันติวิธี


ท่านผู้นำสูงสุด ย้ำว่า การปฏิบัติและดำเนินการตามกฎระเบียบข้อตกลงของสำนักงานพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ ก็เป็นอีกหนทางหนึ่งที่จะสามารถขจัดความกังวลได้พอสมควร โดยท่านผู้นำกล่าวย้ำว่า ประสบการณ์และภาวะการณ์บ่งชี้ว่า อเมริกาไม่ได้มีเจตนาและความตั้งใจจริงที่จะแก้ปัญหาในประเด็นดังกล่าวแต่อย่างใด แต่ต้องการให้ประเด็นดังกล่าวคงอยู่อย่างต่อเนื่อง เพื่อจะได้เป็นข้ออ้างในการกดดันประชาชาติอิหร่าน และตามคำกล่าวอ้างของพวกเขานั้นเพื่อให้อิหร่านเป็นอัมพาต แต่ทว่า ด้วยความมืดบอดของศัตรู อิหร่านจะไม่มีวันเป็นอัมพาตอย่างแน่นอน


ประเด็นสุดท้ายที่ท่านผู้นำสูงสุด กล่าวถึงคือเสนอแนะแนวทางในแก้ไขปัญหาต่ออเมริกา ซึ่งท่านผู้นำสูงสุดกล่าวย้ำว่า หากอเมริกามีความสัจจริง เหตุการณ์ต่างๆ ก็จะจบลงได้ด้วยดี แนวทางของเราที่ต้องการเสนอแนะในการแก้ไขปัญหาคือ อเมริกา ต้องมีวาจาคำพูดและการกระทำที่สอดคล้องกัน จงหยุด และละมือจากการเป็นศัตรูกับอิหร่านเสีย


ท่านผู้นำสูงสุด ได้เอ่ยถึงนโยบายการเมืองอันแข็งกร้าวและป่าเถื่อนของอเมริกาที่มีต่ออิหร่าน ในช่วงระยะเวลา 34 ปี ที่ผ่านมา และความพ่ายแพ้อย่างย่อยยับของอเมริกาต่อนโยบายการเมืองดังกล่าวว่า หากมีการดำเนินนโยบายในลักษณะนี้อีก แน่นอนก็ย่อมพบกับความล้มเหลวและความพ่ายแพ้อย่างแน่นอน


ท่านผู้นำสูงสุด ได้กล่าวชี้ในช่วงท้ายของการปราศรัยในประเด็นการเลือกตั้งประธานาธิบดีที่จะมีขึ้น ในวันที่ 24 คุรดอด ( 14 มิถุนายน) ว่า การเลือกตั้งคือ การฉายภาพวีรกรรมแห่งการเมือง การยืนหยัดอย่างมีเกียรติของระบอบอิสลาม การมีระบอบประชาธิปไตยแห่งอิสลาม ความหวังของชาติ และเป็นเกียรติยศศักดิ์ศรีของระบอบ.
ท่านผู้นำสูงสุดถือว่า การเข้าร่วมของประชาชนอย่างทั่วหน้าในการเลือกตั้งประธานาธิบดีนั้นเป็นสิ่งที่สำคัญ พร้อมกับกล่าวย้ำว่า การเข้าร่วมอย่างแพร่หลายและทั่วหน้าของประชาชนในการเลือกตั้ง และความเข้มข้นของการเลือกตั้งนั้น นอกจากจะเป็นการสร้างฐานด้านความมั่นคงแห่งชาติแล้ว ยังจะส่งผลให้การข่มขู่ของศัตรูนั้นไร้ผลอีกด้วย อีกทั้งยังทำให้พวกเขานั้นต้องสิ้นหวัง


ท่านผู้นำสูงสุด ย้ำถึงการเข้าร่วมในการเลือกตั้งอย่างเนืองแน่นของทุกฝ่ายและทุกกลุ่มการเมืองที่ยึดมั่นในระบอบอิสลามต่อการเลือกตั้งประธานาธิบดี ว่า การเลือกตั้งมิได้มีไว้สำหรับกลุ่มการเมืองหรือฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดเป็นการเฉพาะ แต่ทว่าเป็นภาระหน้าที่ และเป็นสิทธิของทุกคนที่มีหัวใจรักในผลประโยชน์และความเป็นอิสรภาพของประเทศชาติ ที่ต้องเข้าร่วมในการใช้สิทธิเลือกตั้งอย่างพร้อมเพียงกัน


ท่านผู้นำสูงสุด กล่าวย้ำ ว่า การหันหลังให้กับการเลือกตั้งที่มีความเหมาะสมนั้น คือบุคคลที่ต่อต้านระบอบการปกครองอิสลาม


ท่านผู้นำสูงสุด ถือว่า คะแนนเสียงของประชาชนนั้นเป็นตัวกำหนด และตัวชี้วัดสุดท้ายของการเลือกตั้งประธานาธิบดี ซึ่ง ท่านผู้นำสูงสุด กล่าวว่า การแยกแยะและรู้จักบุคคลที่มีความเหมาะสมเป็นสิ่งที่สำคัญ และประชาชนจำต้องมีการพิจาณาไตร่ตรองในตัวบุคคลซึ่งเป็นที่ยอมรับ และพิจารณาอย่างละเอียดในตัวของผู้สมัคร เพื่อจะได้บุคคลที่มีความเหมาะสม


ท่านผู้นำสูงสุด ได้ชี้ว่า ในการเลือกตั้ง ผู้นำก็มีสิทธิเพียงแค่หนึ่งเสียงเท่านั้น และไม่มีผู้ใดล่วงรู้ว่าจะลงคะแนนเสียงให้กับใคร ซึ่งท่านผู้นำสูงสุดกล่าวย้ำว่า ทุกคำพูดหรือการแสดงทัศนะที่วางอยู่บนพื้นฐานว่า ท่านผู้นำลำเอียงและมีใจให้กับคนหนึ่งเป็นการเฉพาะนั้นเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง


ท่านผู้นำสูงสุด ได้กำชับและสั่งเสียยังประชาชนว่า ในการทำความรู้จักและทำความเข้าใจถึงบุคคลที่เหมาะสมนั้น จงระมัดระวัง อย่าได้หลงเชื่อคำโฆษณาจากสื่อแขนงต่างๆ ที่กระจายกันอย่างแพร่หลาย.
ท่านผู้สูงสุด ได้กล่าวย้ำถึงการยึดมั่นและการเคารพสิทธิในกฎหมายว่า เริ่มจากเหตุการณ์ปี 88 ซึ่งมีบางกลุ่มไม่พอใจและไม่เคารพในสิทธิการลงคะแนนเสียงของประชาชน โดยมีการเชิญชวนเรียกร้องให้มีการออกมาประท้วงตามท้องถนน ซึ่งเป็นหนึ่งในสิ่งที่ผิดพลาดอย่างแรงที่ไม่อาจทดแทนได้


ท่านผู้นำกล่าวเสริมว่า แต่โชคดีที่ว่า มีกลไกทางกฎหมายในการแก้ไขปัญหาข้อขัดแย้งที่เกิดขึ้น และด้วยเหตุนี้ ทุกคนจำต้องเคารพในสิทธิของเสียงข้างมากของประชาชน


ท่านผู้นำสูงสุด ได้ชี้ถึงคุณสมบัติของประธานาธิบดีในอนาคต ว่า ประธานาธิบดีในอนาคต นอกจากจะต้องมีคุณสมบัติที่ดีเหมือนกับประธานาธิบดีในอดีตแล้ว ก็จำต้องหลีกเลี่ยงและระมัดระวังจุดด้อยและจุดอ่อนของเขาด้วย


ท่านผู้นำสูงสุด กล่าวย้ำว่า การลงคะแนนเสียงของประชาชนในการเลือกตั้งประธานาธิบดีนั้นจำต้องแสดงออกถึงความก้าวหน้า สมบูรณ์ และการเลือกสิ่งที่ดีที่สุด กว่าทุกยุคทุกสมัยที่ผ่านมา.
ในช่วงท้าย ท่านผู้นำสูงสุด กล่าวว่า บุคคลที่จะลงชิงชัยประธานาธิบดี แห่งสาธารณรัฐอิสลามแห่งอิหร่านนั้น จำต้องยึดมั่นในระบอบการปกครองอิสลามและศักดิ์ศรี ยึดมั่นในผลประโยชน์ของประเทศชาติ และมีความเชื่อมั่นในการบริหารประเทศ ด้วยปัญญารวมและการบริหารอย่างถูกวิธี


ก่อนหน้าที่ท่านผู้นำสูงสุด จะกล่าวปราศรัย ท่านอายาตุลลอฮ์ วาอิซ ฏอบาซีย์ ตัวแทนวะลียุลฟะกีฮ์ในแคว้นโคราซาน และผู้บริหารฮะรัมท่านอิมามริฎอ(อ) ได้กล่าวต้อนรับแสดงความยินดี ยังพี่น้องผู้แสวงบุญ ณ ฮะรัมท่านอิมามริฎอ(อ) พร้อมกับชี้ถึงคำขวัญแห่งปี ที่ ฯพณฯ ผู้นำสูงสุด ได้ให้ว่า เป็น“ปีแห่งวีรกรรมทางการเมืองและเศรษฐกิจ” ซึ่งประชาชาติอิหร่านผู้มีวิจารณญาณ มีความเฉลียวฉลาดและมีบาศีรัต จะสามารถประสบกับความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ในทุกภาคส่วนต่างๆ ทั้งในเวทีการเมืองและเศรษฐกิจ อีกทั้งสามารถฝ่าฝันอุปสรรคปัญหาได้โดยดี ด้วยความเป็นหนึ่งเดียวและมีความเป็นเอกภาพ

700 /