เช้าวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ท่านผู้นำสูงสุด ฯพณฯ อยาตุลลอฮ์ ซัยยิดอาลี คาเมเนอี ได้ให้ประธานและคณะสมาชิกสภาอุลามาสูงสุด (สภาเลือกผู้นำ)เข้าพบ ซึ่ง ฯพณฯผู้นำสูงสุด ได้กล่าวบรรยายในประเด็นเนื้อหาสำคัญ พร้อมกับวิเคราะห์ในภาพรวมของพัฒนาการ และความเจริญก้าวหน้าอย่างรวดเร็วของอิหร่านหลังจาก 34ปี แห่งการปฏิวัติอิสลาม อีกทั้งท่านยังชี้ให้เห็นถึงความท้าทาย และอุปสรรค์ขวากหนามที่ต้องเผชิญหน้า โดยถือว่าต้องมีวิสัยทัศน์อันกว้างไกล ในการก้าวเดินสู่หนทางแห่งความสำเร็จ และคือเป้าหมายหลักของสาธารณรัฐอิสลามอิหร่าน, พร้อมกับเน้นย้ำว่า ความศรัทธามั่นต่ออิสลาม, ความมุ่งมั่นอย่างแน่วแน่, การพึ่งพายังประชาชน, การพิทักษ์รักษา, และการส่งเสริมพัฒนาการจิตวิญญาณแห่งความหวัง คือ ปัจจัยพื้นฐานที่สำคัญต่อกระบวนการพัฒนาอย่างต่อเนื่องในการมุ่งสู่ความก้าวหน้า และยังเป็นเป้าหมายแห่งความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ในระดับเวทีต่างๆ อีกทั้งสามารถฝ่าฟันขวากหนามและความยากลำบากต่างๆนานาแห่งยุคสมัย
ท่านผู้นำสูงสุดถือว่าการมีวิสัยทัศน์ที่ก้าวไกล ในประเด็นการบริหารจัดการ และการจัดตั้ง อีกทั้งเป้าหมายและวัตถุประสงค์ ในความสำเร็จของระบอบนั้น เป็นปัจจัยพื้นฐานที่สำคัญในการขับเคลื่อนอย่างต่อเนื่องและถูกต้อง อันจะนำสู่เป้าหมายที่ถูกกำหนดวางในระบอบการปกครองแบบอิสลาม ซึ่งท่านผู้นำกล่าวว่า การมีวิสัยทัศน์อันก้าวไกลต่อเป้าหมาย, วัตถุประสงค์และแนวทางในการพัฒนานั้น เราได้เดินมาถูกทางและด้วยเหตุนี้เอง ปัญหาและความยากลำบากต่างๆ นานา เราจึงสามารถทำการวิเคราะห์และแก้ไขได้.
ท่านผู้นำสูงสุดกล่าวย้ำว่า หากยุคสมัยแห่งการต่อสู้ มิได้มีวิสัยทัศน์อันก้าวไกลในลักษณะเช่นนี้ การต่อสู้จะพบกับความปราชัยอย่างแน่นอน แต่ทว่า ด้วยกับการที่ท่านอิมามโคมัยนี(รฎ)ได้ยืนหยัด ด้วยศรัทธามั่น (อิสติกอมัต), ความสุขุมและความสงบมั่นทางจิต ตลอดจนการมีความหวังในอนาคตที่สดใส และด้วยกับการต่อสู้ที่ยากลำบากเช่นนี้ เราก็สามารถมีชัยชนะได้อย่างสำเร็จ
ท่านผู้นำชี้ให้เห็นว่า สถานการณ์และสภาวการณ์ในปัจจุบัน มีระดับชั้นที่สลับซับซ้อน และลำบากยิ่งกว่า ยุคสมัยของการต่อสู้(สงคราม)หลายเท่า, โดยท่านผู้นำกล่าวว่า ในสถานการณ์และสภาวการณ์ปัจจุบัน จำเป็นต้องมีวิสัยทัศน์ที่ก้าวไกล ด้วยความศรัทธามั่นต่ออิสลาม, การพึ่งพาประชาชน และจิตวิญญาณแห่งความหวัง เป็นหลักค้ำประกันในการขับเคลื่อนพัฒนาการอย่างยั่งยืนต่อไป.
ท่านผู้นำการปฏิวัติถือว่า หนึ่งในพันธะกิจของบรรดาอุลามาอ์และนักการศาสนา คือการปกป้องรักษาและการส่งเสริมจิตวิญญาณแห่งความหวังในหมู่ประชาชาติ โดยเฉพาะในบรรดาเยาวชน, ซึ่งท่านผู้นำสูงสุดกล่าวย้ำว่า จำเป็นต้องมีการส่งเสริม ปลูกฝั่งและปัดเป่าจิตวิญญาณแห่งความหวังอย่างเนื่อง โดยเฉพาะสัญลักษณ์แห่งความหวังที่มีอย่างมากมาย.
ท่านผู้นำสูงสุดกล่าวชี้ถึง สัญลักษณ์ต่อการมีความหวังนั้น คือความสำเร็จที่จะคงมีอยู่เสมอต่อการพัฒนาและความเจริญรุ่งเรืองของประเทศชาติ, โดย ฯพณฯ กล่าวย้ำว่า ความยิ่งใหญ่ที่เกิดขึ้น ณ ปัจจุบันนี้ และการเป็นศูนย์กลางทางด้านความคิดของประชาชาติอิหร่าน มีอิทธิพลต่อโลกอิสลาม การเป็นผู้ชำนาญการและเป็นผู้สันทัดกรณีด้านการเสวนาศาสนาในประเทศ , ความเจริญก้าวหน้าด้านวิชาการและวิทยาศาสตร์ การมีอิทธิพลทางการเมืองในเวทีนานาชาติของระบอบอิสลาม และโครงการสร้างหลักการขั้นพื้นฐานแห่งความยุติธรรมในประเทศนั้น คือผลิตผลที่น่าชื่นชมอย่างยิ่ง ซึ่งไม่อาจนำมาเปรียบเทียบได้กับช่วงก่อนการปฏิวัติอิสลาม หรือในช่วงต้นๆภายหลังจากการปฏิวัติอิสลามได้รับชัยชนะ.
ท่านผู้นำสูงสุด ถือว่าความสำเร็จต่างๆเหล่านี้ ได้บ่งชี้และเป็นตัวชี้วัดในการพัฒนาและความก้าวหน้าของระบอบอิสลาม , โดยท่านผู้นำสูงสุดกล่าวว่า สัญลักษณ์หนึ่งของการเจริญเติบโตและการพัฒนา คือความร้อนรน, ความก้าวร้าว, ความโกรธแค้น และปฏิกิริยาตอบโต้อย่างรุนแรงจากศัตรูที่มีต่ออิหร่าน.
ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลาม กล่าวว่า หากสาธารณรัฐอิสลามไม่มีการพัฒนาและความเจริญรุ่งเรืองในลักษณะเช่นนี้ ศัตรูก็จะไม่มีความร้อนรน, ความก้าวร้าว, ความโกรธแค้น, และปฏิกิริยาตอบโต้ที่รุนแรงเช่นนี้.
ท่านผู้นำสูงสุดถือว่า ปัญหาพลังงานนิวเคลียร์เพื่อสันติ เป็นอีกหนึ่งความท้าทายของระบอบอิสลามที่ต้องเผชิญหน้ากับศัตรู โดย ฯพณฯ กล่าวว่า ความท้าทายนี้ จะไม่สามารถสร้างความเสียหาย และจะไม่ส่ง
ผลกระทบใดๆต่อเราอย่างแน่นอน.
ท่านผู้นำสูงสุดได้กล่าวถึง การประชุมล่าสุดระหว่างสาธารณรัฐอิสลามอิหร่านกับกลุ่มประเทศ 5+1 ซึ่งจัดขึ้น ณ กรุง อัลมาตีย์ คาซัสถานว่า การประชุมครั้งนี้ ตะวันตกมิได้ปฏิบัติอะไรเพื่อที่เราจะมอบเครดิตให้แก่พวกเขาได้ พวกเขาแค่ยอมรับในสิทธิอันควรบางอย่างของอิหร่านเพียงเท่านั้น
ท่านผู้นำสูงสุดได้ชี้ถึง พฤติกรรมของชาติตะวันตกในอดีต ที่มิได้ยึดมั่นในคำพูดและข้อพันธะสัญญาต่าง ๆ ของพวกเขา เราสามารถที่จะวัดความสัจจริงของชาติตะวันตกทั้งหลายได้ โดยการเฝ้าดูการประชุมในสมัยหน้า
ท่านผู้นำสูงสุดถือว่า การคว่ำบาตรในรูปลักษณะต่างๆ ก็เป็นอีกหนึ่งในความท้าทายต่อเรา, ท่านผู้นำ
ได้กล่าวถึงเหตุผลของมาตรการการคว่ำบาตรว่า เรื่องพลังงานนิวเคลียร์เพื่อสันตินั้น เป็นเพียงแค่คำกล่าวอ้างเพื่อที่จะคว่ำบาตรอิหร่านเท่านั้น แต่เหตุผลหลักของเรื่องนี้ ย่อมมีเป้าหมายและนัยยะในระยะยาว ซึ่งเป็นสิ่งที่ชาติตะวันตกทั้งหลายกำลังมุ่งแสวงหาอยู่
ท่านผู้นำสูงสุดถือว่า เป้าหมายหลักของมาตรการการคว่ำบาตร คือการให้ประชาชาชนออกมาต่อต้านและเผชิญหน้ากับรัฐอิสลาม, โดย ฯพณฯ ท่านผู้นำสูงสุด กล่าวว่า ชาติตะวันตก ตั้งความหวังว่า ด้วยกับแรงกดดันจะสามารถทำให้ประชาชาติอิหร่านออกมาเผชิญหน้าและต่อต้านระบอบการปกครองได้ แต่ทว่าสิ่งที่เกิดขึ้นในวันที่ 22 บะห์มันของปีนี้ (วันชาติ) มันคือปรากฏการณ์ที่สวนทางกับความหวังและความพึงประสงค์ของพวกเขาอย่างสิ้นเชิง
ท่านผู้นำสูงสุดถือว่า การเข้าร่วมอย่างทั่วประเทศต่อการแสดงพลังที่ยิ่งใหญ่ของประชาชาติอิหร่าน ในการเดินขบวนวัน 22 บะห์มัน ปีนี้นั้น คือประเด็นหลักที่สำคัญอย่างยิ่ง, โดยท่านผู้นำสูงสุดกล่าวย้ำว่า การประเมินการอย่างละเอียด และการพิเคราะห์พิจารณาจากบรรดาผู้เชี่ยวชาญ และผู้สันทัดกรณี ได้บ่งชี้ว่า การเข้าร่วมเดินขบวนของประชาชนในวันที่ 22 บะห์มัน ปีนี้นั้น มีความคึกคัก, มีความยิ่งใหญ่ มีความเร้ารอน และมีความเบิกบานเป็นพิเศษ มากกว่าปีที่ผ่านมาด้วยซ้ำไป
ท่านผู้นำสูงสุด ได้ตั้งคำถามว่า การเข้าร่วมของประชาชนอย่างเนืองแน่น และมีความเบิกบานเยี่ยงนี้ ด้วยกับสภาวะแห่งวิกฤติการเศรษฐกิจ ซึ่งเกิดขึ้นภายหลังจาก 34ปี แห่งการปฏิวัติอิสลามนั้น จะสามารถให้ความหมายและตีความว่าอย่างไร? โดยท่านผู้นำสูงสุดกล่าวว่า ความหมายของการเข้าร่วมอย่างมีพลังครั้งนี้ ในความเป็นจริงแล้ว มิใช่สิ่งอื่นใด เว้นแต่เป็นการโต้ตอบของประชาชาติอิหร่าน ต่อสิ่งที่พวกเขากล่าวอ้างว่า “ การคว่ำบาตรครั้งนี้จะนำอัมพาตมาสู่อิหร่าน” และการเข้าร่วมในครั้งนี้ ยังสามารถส่งผล
อย่างมีประสิทธิภาพอันเป็นที่ประจักษ์ชัดต่อเวทีนานาชาติอีกด้วย
ท่านผู้นำสูงสุดถือว่า การเข้าร่วมของประชาชนในการลงคะแนนเสียงในการเลือกตั้งประธานาธิบดี ที่จะมีขึ้นในปีหน้า(ปีอิหร่าน) คือการกำหนดชะตากรรมของประเทศ, โดยท่านผู้นำสูงสุดกล่าวว่า เมื่อถึงช่วงเวลานั้น ด้วยการอนุมัติของพระองค์ และด้วยความโปรดปรานจากพระผู้อภิบาล หัวใจของประชาชนจะโน้มเอียงและถวิลหาสู่คูหาการเลือกตั้งอย่างแน่นอน
ท่านผู้นำสูงสุดถือว่า การเลือกตั้งในระบอบสาธารณรัฐอิสลามอิหร่านนั้น เป็นการเลือกตั้งที่ดีที่สุด มีความเป็นเสรีภาพมากที่สุด และมีมาตรฐานที่ดีที่สุดของการเลือกตั้งที่เกิดขึ้นในโลกนี้ โดยท่านผู้นำสูงสุด กล่าวว่า บางคนและบางกลุ่มมีความพยายาม กล่าวอ้างและนำเสนอว่า การพิจารณาคุณสมบัติของผู้สมัครเลือกตั้งเป็นข้อบกพร่องประการหนึ่งที่มีอยู่ในระบอบการปกครองอิสลาม ซึ่งสิ่งนี้ล้วนแล้วเป็นเพียงแค่คำกล่าวอ้างที่ไร้เหตุผล และไร้สาระสิ้นดี เพราะหากพิจารณาคุณสมบัติของผู้ลงสมัครเลือกตั้ง และผ่านกระบวนการพิจารณาอย่างใส่สะอาดตามกฎหมาย คือสิ่งที่มีอยู่ในระบอบการปกครองประชาธิปไตยของโลก
ท่านผู้นำสูงสุดถือว่า เป้าหมายและวัตถุประสงค์ของการพิจารณาตรวจสอบคุณสมบัติของผู้สมัคร เพื่อสามารถนำเสนอบุคคลที่มีเงื่อนไขครบถ้วน และสอดคล้องกับความต้องการของประชาชนในการเลือกตั้ง,
ซึ่งท่านผู้นำสูงสุดกล่าวว่า การเลือกตั้งจำเป็นต้องมีบุคคลที่เหมาะสมและคู่ควร อีกทั้งมีเงื่อนไขและคุณสมบัติที่ครบถ้วนและเพียงพอในการปฏิบัติหน้าที่เป็นประธานาธิบดี
ท่านผู้นำสูงสุดกล่าวถึง ภาระหน้าที่ประการหนึ่งของสภาอุลามาสูงสุด(สภาเลือกผู้นำ)ในการพิจารณาคุณสมบัติของผู้สมัคร กล่าวคือ คณะสมาชิกสภาฯ จำเป็นต้องยึดปฏิบัติตามกฎหมายดั่งที่เคยปฏิบัติมาก่อน การเลือกตั้งประธานาธิบดีครั้งนี้ ก็จำเป็นต้องยึดมั่นและปฏิบัติตามกรอบและขอบเขตของกฎหมาย ทั้งนี้ก็เพื่อให้คนที่สามารถผ่านกระบวนการพิจารณาตามขั้นตอนของกฎหมายอย่างบริสุทธิ์ยุติธรรม สามารถเป็นผู้สมัครประธานาธิบดีได้
ท่านผู้นำสูงสุดได้เน้นย้ำถึง ความจำเป็นในการออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งประธานาธิบดีอย่างคึกคักว่า หวังว่า ด้วยความโปรดปรานจากอัลลอฮ์(ซบ) ผู้ที่ประชาชนเลือกสรรนั้น จะเป็นที่พึงพอพระทัยของพระองค์ และจะสามารถนำพาประชาชนสู่ความคาดหวังอันยิ่งใหญ่ที่มีต่อการปฏิวัติอิสลามได้อย่างใกล้ชิดมากขึ้น
ท่านผู้นำสูงสุด ยังกล่าวเสริมในประเด็น ของปัญหาเศรษฐกิจ และค่าครองชีพที่สูงขึ้นของประชาชน โดยท่านกล่าวย้ำว่า ปัญหาเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นในขณะนี้นั้น บางส่วนเป็นผลพวงจากการถูกคว่ำบาตร และอีกบางส่วน เกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการ และนโยบายด้านเศรษฐกิจของชาติ แต่ประเด็นที่สำคัญ
คืออุปสรรค์ปัญหาต่างๆเหล่านี้ สามารถแก้ไขได้ทั้งสิ้น
ท่านผู้นำสูงสุดถือว่า ความท้าทายอีกประการหนึ่งในระบอบอิสลามที่จะต้องเผชิญ อาทิ การคว่ำบาตร โดยเฉพาะการสั่งห้ามมิให้นำเข้าสิ้นค้าบางรายการนั้น ยังเป็นผลดีและเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติ, โดยท่านผู้นำสูงสุดกล่าวย้ำว่า ผลลัพธ์ของการคว่ำบาตรครั้งนี้ จะทำให้ประเทศชาติกลับคืนสู่การพึ่งพาตนเอง และการตื่นตัวจากภายในมากยิ่งขึ้น เหมือนอย่างที่เกิดขึ้นมาแล้วในกรณีของ ยูเรเนียมยี่สิบเปอร์เซ็นต์ ที่จำเป็นสำหรับเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์สำนักวิจัย ณ กรุงเตหะราน
ท่านผู้นำสูงสุดได้ชี้ถึง การผลิตเภสัชรังสีในเตาปฏิกรณ์เพื่อการศึกษาและวิจัย ณ เตหะราน และแรงกดดันจากชาติตะวันตก กรณียี่สิบเปอร์เซ็นต์ของยูเรเนียมนั้น ก็เพื่อให้อิหร่านยอมสยบต่อความต้องการของพวกเขา, โดยท่านผู้นำสูงสุดกล่าวว่า ด้วยกับการไม่รู้จักอิหร่านดีพอ อีกทั้งความผิดพลาดด้านการประเมินค่าเรานั้น พวกเขาจึงได้มีการวางแผนและเสนอแนวทางที่สลับซับซ้อน ซึ่งอาจจะทำให้เป็นไปได้ ในการได้มาซึ่งร้อยละยี่สิบเปอร์เซ็นต์ของยูเรเนียมนั้นต้องให้เป็นศูนย์ ด้วยเหตุนี้ รัฐอิสลามแห่งอิหร่านจึงไม่ยอมรับและไม่ยอมหลงกลในข้อเสนอดังกล่าว
ท่านผู้นำสูงสุดกล่าวเสริมว่า ในการกระตุ้นความเชื่อของชาวโลกและพันธมิตรอิหร่านนั้น พวกเขาได้ใช้อีกแผนการหนึ่ง กล่าวคือ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาเอง ก็ได้วิงวอนขอให้ประธานาธิบดีตุรกีและบราซิลเป็นตัวกลางในการเชื่อมสัมพันธ์ เพื่อให้อิหร่านยอมรับแนวทางในการแก้ปัญหาแบบทางสายกลางที่ถูกกำหนดโดยพวกเขา
ท่านผู้นำกล่าวว่า ในสถานการณ์ดังกล่าว ข้าพเจ้า ก็เคยปรารภต่อคณะผู้บริหารมาแล้วว่า การติดตามแนวทางในการแก้ไขปัญหาในลักษณะดังกล่าวสามารถจะกระทำได้ แต่ทว่า จงรู้ไว้ว่า อเมริกาจะไม่มีวันยอมรับข้อเสนออย่างเด็ดขาด และมันก็เป็นจริงเช่นนั้น
ท่านผู้นำสูงสุดกล่าวย้ำว่า อเมริกา ต้องการประโคมข่าวต่อชาวโลกว่า อิหร่านไม่ยอมรับแนวทางในการแก้ปัญหา แต่ทว่า สิ่งที่เกิดขึ้นนั้น มันได้พิสูจน์ให้เห็นถึงข้อเท็จจริงแล้วว่า การไร้ซึ่งตรรกะนั้น คือการกระทำอเมริกาเอง
ท่านผู้นำสูงสุดได้สรุปในประเด็นนี้ว่า กรณีการคว่ำบาตร , และกรณียูเรเนียมยี่สิบเปอร์เซ็นต์คือ เป็นปฐมเหตุและแรงจูงใจให้กับบรรดาผู้เชี่ยวชาญคนหนุ่มในประเทศได้เป็นอย่างดี โดยอาศัยความรู้ด้านวิทยาศาสตร์ และความสามารถของตนเองที่มีอยู่นั้น สามารถพัฒนายูเรเนียมยี่สิบเปอร์เซ็นต์ให้กลายเป็นเชื้อเพลิงพลังงานได้สำเร็จ, ซึ่งในกรณีอื่นๆก็เช่นเดียวกัน จากแรงกดดันดังกล่าวนั้น สามารถนำไปพัฒนาสู่ผลประโยชน์ของประเทศชาติได้ทั้งสิ้น
ท่านผู้นำสูงสุด ได้กล่าวเสริมและอธิบายในประเด็นข้อเท็จจริงของกรณีการคว่ำบาตร
ซึ่งท่านกล่าวว่า ในความเป็นจริงแล้ว ประเทศต่างๆที่ได้คว่ำบาตรอิหร่านนั้น ประเทศของเขาเองก็กำลังเผชิญหน้ากับวิกฤติเศรษฐกิจที่รุนแรงหลายเท่าตัว โดยไม่สามารถที่จะแก้ไขได้
ท่านผู้นำสูงสุดกล่าวย้ำว่า ในวันนี้ อเมริกาและชาติยุโรป อยู่ในระหว่างทางสองเพ่ง และอยู่ในภาวะที่กำลังจะล่มสลายในระบบเศรษฐกิจ
ท่านผู้นำกล่าวเสริมว่า ชาติตะวันตก นอกจากต้องเผชิญหน้ากับวิกฤติเศรษฐกิจแล้ว ยังต้องเผชิญหน้ากับปัญหาบางประการที่เกิดขึ้นจากผลพวงของการคว่ำบาตรอิหร่านด้วยซ้ำไป ในขณะที่พวกเขาเองยังไม่มีแนวทางในการแก้ไขปัญหาให้กับตน แต่อิหร่านนั้น เรามีวิธีการในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจของตนเองอยู่แล้ว
ท่านผู้นำสูงสุด ได้สรุปใจความปราศรัยในภาคส่วนดังกล่าว พร้อมกับย้ำถึง ความจำเป็นในการส่งเสริมจิตวิญญาณแห่งความหวังให้มากขึ้นกว่าเดิม หากจิตใจมีความศรัทธามั่นอย่างแท้จริง เพราะทุกการงานขึ้นอยู่กับพระองค์ และพระองค์จะทรงเฝ้ามอง, ทรงตอบรับ และทรงรอบรู้ ทุกอุปสรรค์ปัญหาและความวุ่นวายต่างๆ ก็จะสามารถคลี่คลายได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งรัฐอิสลาม ที่มีความมุ่งมั่นอย่างแน่วแน่ อีกทั้งเป็นประชาชาติที่พร้อมด้วยศรัทธามั่น ก็ยิ่งสามารถที่จะกำหนดเป้าหมายที่ชัดเจนและแนวทางอันเฉพาะได้เป็นอย่างดี
ท่านผู้นำสูงสุด ยังกล่าวเสริมและแสดงความยินดี แด่ท่านอยาตุลลอฮ์ มะฮ์ดาวีย์ กนีย์ ซึ่งถูกเลือกให้เป็นประธานสภาอุลามาสูงสุด (มัญลี คุบเรคอน สภาเลือกผู้นำ )อีกสมัย พร้อมกับชี้ให้เห็นถึงเรื่องล่าสุดของการประชุมคณะสมาชิกสภาฯ กับกรมประชาสัมพันธ์และองค์การสื่อสารมวลชนแห่งชาติว่า ความละเอียดอ่อน
ของคณะสมาชิกสภาฯ ในกรณีประเด็นสำคัญของประเทศ และประเด็นอื่น อาทิกรมประชาสัมพันธ์ และองค์การสื่อสารมวลชนแห่งชาติ เป็นเรื่องสำคัญและจำเป็นที่จะต้องดำเนินการในลำดับต่อไป
ท่านผู้น้ำถือว่า กรมประชาสัมพันธ์และองค์การสื่อสารมวลชนแห่งชาติ เป็นองค์กรและหน่วยงานที่มีความสลับซับซ้อนในด้านเทคนิค การบันเทิง ศิลปะและการเมือง โดยท่านผู้นำสูงสุด กล่าวว่า คณะผู้บริหารของกรมประชาสัมพันธ์และองค์การสื่อสารมวลชนแห่งชาติ ล้วนเป็นคนดี มีศาสนา และยึดมั่นในคุณค่าแห่งการปฏิวัติอิสลาม แต่ที่สิ่งคาดหวังจากกรมประชาสัมพันธ์และองค์การสื่อสารมวลชนแห่งชาติ ต้องมีวิสัยทัศน์ที่สูงส่งและก้าวไกลกว่านี้
ท่านผู้นำสูงสุดถือว่า การบรรลุและได้มาซึ่งความคาดหวังดังกล่าวจากกรมประชาสัมพันธ์ ฯ นั้น ต้องมีการกำหนดแผนงานระยะไกลอีกทั้งวิสัยทัศน์อันก้าวไกลของคณะผู้บริหาร และหลีกเลี่ยงจากวิสัยทัศน์อันเฉพาะกิจและแผนงานระยะสั้น
ก่อนหน้าที่ท่านผู้นำจะกล่าวปราศรัยนั้น ท่านอยาตุลลอฮ์ มะฮ์ดาวีย์ กนีย์ ประธานสภาอุลามาสูงสุด ได้กล่าวถึง การเข้าร่วมของสมาชิกสภาฯ เกือบครบองค์ประชุม ในการพิจารณาประเด็นการเมือง วัฒนธรรม และเศรษฐกิจของประเทศ อีกทั้งมีการจัดตั้งฝ่ายเฉพาะกิจที่สอดคล้องกับกฎระเบียบวาระภายในของสภาฯ เพื่อติดตามประเมินผลอย่างต่อเนื่อง ในบางเหตุการณ์ทางการเมืองที่เกิดขึ้นในประเทศ
จากนั้น ท่านอยาตุลลอฮ์ ยัซดีย์ รองประธานสภาฯ ได้กล่าวรายงานสรุปการประชุมสองวันของคณะสภาฯในประเด็นหลัก กล่าวคือ “การขอบคุณต่อประชาชาติอิหร่านในการมีส่วนร่วมในเวทีต่างๆ เพื่อประกาศปกป้องการปฏิวัติอิสลาม โดยเฉพาะการเดินขบวน วัน 22บะห์มัน ที่มีขึ้นอย่างยิ่งใหญ่” การเน้นย้ำถึงประเด็นการออกมาใช้สิทธิ์ในการเลือกตั้งประธานาธิบดี และบุคคลที่มีคุณสมบัติพร้อมในการลงสมัคร อีกทั้งการจัดตั้ง คณะรัฐบาลด้วยกับนโยบายพิเศษและเร่งด่วน ด้วยการยึดหลักนโยบายเศรษฐกิจอันยั่งยืน และมีแผนงานนโยบายที่รัดกุม ในเวทีภาคสังคมและวัฒนธรรม” “แสดงความเสียใจและประณามเหตุการณ์การเข่นฆ่าสังหารพี่น้องชีอะห์ในปากีสถาน ” “ บทบาทอันโดดเด่นและเด่นชัด และกำหนดทิศทางระบอบวิลายะตุลฟากีห์ ในการนำพาประเทศชาติ ให้หลุดพ้นจากวิกฤติต่างๆ อีกทั้งความจำเป็นในการอธิบายต่อประเด็นความสำคัญของวิลายะตุลฟากีห์และความบารอกัตของวิลายะตุลฟากีห์” “ความจำเป็นในการเผชิญหน้ากับอบายมุขทางวัฒนธรรม” “ ถกประเด็นปัญหาอย่างละเอียดกับผู้อำนวยการกรมประชาสัมพันธ์และองค์การสื่อสารมวลชนแห่งชาติ และนำเสนอประเด็นทัศนะและข้อคิดเห็นพร้อมคำตอบ” ซึ่งทั้งหมดนั้นเป็นประเด็นเนื้อหาสำคัญและประเด็นหลักในการพิจารณาของคณะสภาฯในที่ประชุม ซึ่งท่านรองประธานสภาฯ ได้นำเสนอและรายงานให้กับท่านผู้นำสูงสุดได้รับทราบ